เสมา 1 มอบนโยบาย สมศ. มุ่งประเมินเพื่อพัฒนา ผลักดันคุณภาพการศึกษาตามนโยบาย ศธ.

พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า แนวทางการขับเคลื่อนการศึกษาในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้มอบนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการที่มอบให้แก่ผู้บริหารเขตพื้นที่และสถานศึกษานำไปปฏิบัติให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมายสำคัญสูงสุด คือ ตัวผู้เรียนที่จะทำอย่างไรให้ “เรียนดี มีความสุข” เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2567 ดังนี้

  1. ด้านความปลอดภัยของสถานศึกษา ให้คำนึงถึงสวัสดิภาพของนักเรียน ตั้งแต่เดินทางออกจากบ้านเข้าสู่ประตูรั้วโรงเรียนจนออกจากโรงเรียน และเดินทางถึงบ้านพักนักเรียน
  2. ด้านการเสริมสร้างโอกาสในการเรียนรู้และสร้างภูมิคุ้มกัน เช่น การจัดกิจกรรมเยี่ยมบ้าน กิจกรรมเสริมทักษะเพิ่มเติม เป็นต้น
  3. ด้านเครือข่ายและการสร้างความร่วมมือ สถานศึกษาประสานเครือข่ายและสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันจัดกิจกรรมเสริมทักษะชีวิต บูรณาการความร่วมมือการรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กนักเรียน เป็นต้น

พลตำรวจเอก เพิ่มพูน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพนั้น จำเป็นต้องใช้หลักการบริหารจัดการ เช่นเดียวกับการบริหารหรือดำเนินกิจการต่าง ๆ ที่ต้องมีการดำเนินงานให้เป็นระบบโดยมีขั้นตอนที่สำคัญคือการประเมินผลการดำเนินงานเพื่อให้ได้ข้อมูลย้อนกลับ อันจะสะท้อนให้เห็นถึงการดำเนินงานที่ผ่านมาว่าบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้เพียงใด รวมถึงมีจุดอ่อนหรือปัญหาในเรื่องใดบ้างที่ต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้การวางแผนและการดำเนินงานระยะต่อไปบรรลุเป้าหมายอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ การจัดการศึกษาจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการประเมินผลการจัดการศึกษา โดยเฉพาะการประเมินคุณภาพภายนอกจากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ สมศ. เพื่อทำให้เกิดกลไกในการตรวจสอบอย่างจริงจัง รวมทั้งกระตุ้นให้หน่วยงานที่จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับชาติถึงหน่วยงานที่เล็กที่สุดคือโรงเรียนและภายในห้องเรียนต้องมีการประเมินตนเองเพื่อพัฒนาการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

พลตำรวจเอก เพิ่มพูน กล่าวเสริมว่า สำหรับแนวทางการประเมินคุณภาพภายนอก ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 นั้น ได้มอบนโยบายให้ สมศ. ให้ความสำคัญกับการประกันคุณภาพภายนอกเพื่อการพัฒนาและยกระดับคุณภาพ (Quality Improvement) โดยใช้รูปแบบการประเมินที่เหมาะสม สอดคล้องกับบริบทและเป้าหมายของสถานศึกษา เป็นการประเมินที่เน้นสะท้อนภาพความเป็นจริง พร้อมให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ไม่ได้ประเมินเพื่อตัดสินผลว่าผ่านหรือไม่ผ่าน แต่มุ่งหวังให้เป็นการประเมินที่ส่งผลให้เกิดการพัฒนาและสร้างความเปลี่ยนแปลงของสถานศึกษาไปในทางที่ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำให้ สมศ.ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพผู้ประเมินภายนอกอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้ประเมินภายนอกเป็นเสมือนตัวแทนของ สมศ. ที่ทำการประเมินคุณภาพภายนอกและให้ข้อเสนอแนะแก่สถานศึกษา จึงจำเป็นต้องพัฒนาให้มีความรู้ความสามารถ มีความเชี่ยวชาญ และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อที่จะสามารถให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ตรงกับบริบทของสถานศึกษา และเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ ยังกำชับให้ สมศ. เน้นย้ำกับผู้ประเมินภายนอกให้ทำการประเมินคุณภาพภายนอกที่สะท้อนผลลัพธ์ด้านคุณภาพผู้เรียน ให้ข้อเสนอแนะที่ปฏิบัติได้จริง เป็นรูปธรรม และสอดคล้องตามบริบทของสถานศึกษา เพื่อให้กระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษานำผลการประเมินไปใช้พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาได้อย่างแท้จริง โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ได้มอบนโยบายให้ สมศ. ดำเนินการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วนก่อน เช่น โรงเรียนขนาดเล็ก โรงเรียนขยายโอกาส เป็นต้น ทั้งนี้ ในกรณีที่ผลการประเมินไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด สมศ. จะต้องประเมินเพื่อติดตามผลการพัฒนาในรอบ 6 เดือน หรือรอบ 12 เดือน อีกครั้ง ภายใต้แนวคิด “ลดภาระ เรียนดี มีความสุข” โดยต้องไม่สร้างภาระให้สถานศึกษาและครูเพิ่มเติม กล่าวคือ

  1. ไม่ร้องขอให้สถานศึกษาจัดเตรียมเอกสารเพื่อรับการประเมิน โดยใช้ข้อมูลจากการทำงานปกติของสถานศึกษา ทั้งนี้ผู้ประเมินภายนอกอาจพิจารณาร่องรอยหลักฐานเพิ่มเติมได้จากเอกสารหรือไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ที่โรงเรียนมีอยู่แล้ว
  2. ลดจำนวนวันในการประเมิน โดยสถานศึกษาแต่ละแห่งอาจได้รับการประเมินด้วยจำนวนที่แตกต่างกัน ตั้งแต่ 1-3 วัน ตามบริบทของสถานศึกษา กรณีที่สถานศึกษามีคุณภาพสูงกว่ามาตรฐานอาจจะไม่ต้องลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม แต่ใช้วิธีการตรวจเยี่ยมแบบ Virtual Visit เช่นเดียวกับที่หน่วยงานประเมิน ในต่างประเทศดำเนินการ
  3. ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการประเมินคุณภาพภายนอกตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ เริ่มตั้งแต่การจัดส่ง SAR ของสถานศึกษา การจัดเก็บข้อมูลและการจัดทำรายงานผลการประเมินการส่งรายงานผลการประเมินให้กับหน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษา
  4. งดการจัดเตรียมพิธีการต้อนรับและการแสดงต่าง ๆ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาและเป็นภาระของสถานศึกษา รวมถึง งดรับของขวัญ ของที่ระลึกจากโรงเรียน เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายและเกิดการประเมินที่โปร่งใส ตรงไปตรงมา

“ขอเน้นย้ำให้ผู้ประเมินภายนอกทำการประเมินคุณภาพภายนอกที่สะท้อนผลลัพธ์ด้านคุณภาพผู้เรียนให้ข้อเสนอแนะที่ปฏิบัติได้จริง เป็นรูปธรรม และสอดคล้องตามบริบทของแต่ละโรงเรียน เพื่อให้กระทรวงศึกษาธิการ หน่วยงานต้นสังกัดและสถานศึกษานำผลการประเมินไปใช้พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาได้อย่างแท้จริง หวังว่าการประเมินคุณภาพภายนอกของ สมศ. จะเป็นกระจกสะท้อนผลการจัดการศึกษาเพื่อให้ได้ข้อมูลมาใช้พัฒนาคุณภาพการการศึกษาของสถานศึกษาและของประเทศโดยรวม และขอขอบคุณสถานศึกษาที่ให้ความร่วมมือ ในการประเมิน รวมถึงการนำผลการประเมินของ สมศ. ไปใช้พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาต่อไป” พลตำรวจเอกเพิ่มพูน กล่าวทิ้งท้าย

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.