8 เทคนิคคงกลิ่น "น้ำหอม" ติดทน แม้อากาศร้อน เหงื่อฉ่ำ
หน้าร้อนนี้ เหงื่อไหลง่าย ตัวก็มีกลิ่น แน่นอนว่าหลายคนต้องพึ่งพาน้ำหอม และโคโลญจน์เพื่อเพิ่มความสดชื่น แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือ กลิ่นหอมมักอยู่ได้ไม่นานเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จางหายไป เรามีเทคนิคพิเศษช่วยคงกลิ่นหอมของน้ำหอมให้ติดทนยาวนานแม้อากาศร้อน เหงื่อออกฉ่ำ
8 เทคนิคคงกลิ่นน้ำหอมยาวนานในหน้าร้อน
1.ลองฉีดหลังอาบน้ำร้อนสิ
เพราะหลังอาบน้ำร้อน รูขุมขนบนผิวหนังจะเปิดกว้าง ช่วยให้โมเลกุลของน้ำหอมซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ดี กลิ่นหอมจึงติดทนนานขึ้น
2.ฉีดน้ำหอมในจุดชีพจร
การฉีดน้ำหอมในจุดชีพจรจะช่วยให้ความร้อนจากร่างกายกระตุ้นโมเลกุลของน้ำหอม ทำให้กลิ่นหอมฟุ้งกระจายและติดทนนานขึ้น
จุดที่ควรฉีดน้ำหอม
- ข้อมือ
- บริเวณหลังใบหู
- โคนคอ
- ด้านในข้อศอก
- ด้านหลังหัวเข่า
3.ลองทาวาสลีนก่อนฉีด
วาสลีนจะช่วยกักเก็บกลิ่นน้ำหอมให้ติดทนนานขึ้น โดยไม่ต้องฉีดเยอะ
เพราะว่า
- วาสลีนมีคุณสมบัติในการกักเก็บความชื้น
- ผิวหนังที่ชุ่มชื้นจะดูดซับและเก็บกลิ่นน้ำหอมได้ดีกว่าผิวแห้ง
- วาสลีนจะช่วยสร้างชั้นฟิล์มบางๆ บนผิวหนัง ช่วยให้โมเลกุลของน้ำหอมเกาะติดได้นานขึ้น
วิธีการ
- ทาวาสลีนบริเวณจุดชีพจร เช่น ข้อมือ ข้อศอก ต้นคอ และหลังใบหู
- รอสักครู่ให้วาสลีนซึมเข้าสู่ผิว
- ฉีดน้ำหอมตามปกติ
เพียงเท่านี้ กลิ่นหอมของน้ำหอมของคุณก็จะติดทนนาน
4.ห้ามถูข้อมือหลังฉีดน้ำหอม
หลายคนมักมีพฤติกรรมถูข้อมือหลังฉีดน้ำหอม ซึ่งเป็นความผิดพลาดอย่างมาก เพราะการเสียดสีจะทำลายโมเลกุลของน้ำหอมชั้นบน กลิ่นหอมจึงจางหายเร็วลง
แทนที่จะถูข้อมือ ควรทำดังนี้
- แตะข้อมือเบาๆ เข้าหากัน
- ปล่อยให้น้ำหอมแห้งสนิทก่อนสัมผัสกับสิ่งอื่น
5.อย่าเขย่าขวดน้ำหอมก่อนฉีด
แม้ว่าเรามักจะทำแบบนี้กับผลิตภัณฑ์เสริมความงามอื่นๆ แต่ในเรื่องน้ำหอม อย่าเขย่าขวดน้ำหอมหรือภาชนะ เพราะจะทำให้อากาศเข้าและทำให้กลิ่นจางเร็วขึ้น
6.ทาน้ำหอมแบบเลเยอร์ เพิ่มมิติและเสน่ห์ให้กลิ่นหอมของคุณ
การทาน้ำหอมแบบเลเยอร์ หรือการทาหลายกลิ่นพร้อมกัน เป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มมิติและเสน่ห์ให้กับกลิ่นหอมของคุณ ช่วยให้คุณสร้างกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร และทำให้กลิ่นหอมติดทนนานขึ้น สำหรับการทาน้ำหอมแบบเลเยอร์นั้น ไม่มีกฎตายตัว ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของคุณ คุณสามารถทาครีมบำรุงผิวที่มีกลิ่นหอมก่อนทาน้ำหอม หรือทาโลชั่นที่มีกลิ่นหอมเป็นเบสก่อนทาน้ำหอม
เคล็ดลับ
- เลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นต่างกัน แต่เข้ากันได้ดี เช่น น้ำหอมกลิ่นดอกไม้ผสมกับน้ำหอมกลิ่นผลไม้ หรือน้ำหอมกลิ่นโอเรียนเต็ลผสมกับน้ำหอมกลิ่นวู้ดดี้
- ทาน้ำหอมแต่ละกลิ่นในปริมาณที่น้อย เน้นการทาแบบแตะแต้มเบาๆ
- ทาจุดชีพจร เช่น ข้อมือ ข้อศอก ต้นคอ และหลังใบหู เพื่อกระจายกลิ่นหอม
- รอให้กลิ่นหอมของแต่ละชั้นเข้ากันก่อนทาชั้นต่อไป
ข้อดีของการทาน้ำหอมแบบเลเยอร์
- ช่วยให้คุณสร้างกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร
- ทำให้กลิ่นหอมติดทนนานขึ้น
- เพิ่มมิติและเสน่ห์ให้กับกลิ่นหอมของคุณ
- เป็นการแสดงออกถึงสไตล์และรสนิยมของคุณ
7.ทาน้ำหอมให้ทั่วถึง ไม่จำกัดแค่ช่วงบน เพิ่มความหอมติดทนนาน
หลายคนทาน้ำหอมแค่บริเวณช่วงบนร่างกาย เช่น ข้อมือ ลำคอ หรือหลังใบหู แต่รู้หรือไม่ว่า การทาเฉพาะจุดเหล่านี้ อาจทำให้กลิ่นหอมของคุณหมดไปเร็ว เทคนิคการทาน้ำหอมให้ติดทนนาน คือการทาให้ทั่วถึงทั้งร่างกาย รวมไปถึงจุดที่เราอาจละเลย เช่น ข้อเท้า ด้านหลังเข่า และน่อง เพราะความร้อนจากร่างกายจะช่วยดึงกลิ่นหอมของน้ำหอมให้กระจายออกมาได้ดีขึ้น ทำให้กลิ่นหอมของคุณติดทนนานยิ่งขึ้น
จุดทาที่ไม่ควรมองข้าม
- ข้อเท้า: ทาบริเวณข้อเท้าด้านในหรือด้านนอก
- ด้านหลังเข่า: ทาบริเวณด้านหลังเข่า
- น่อง: ทาบริเวณน่องด้านในหรือด้านนอก
8.เลือกกลิ่นหอมติดทนนาน
เลือกน้ำหอม:
- เลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นโน้ตหลักเป็นวนิลลาหรือมัสก์ เพราะกลิ่นเหล่านี้มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ระเหยได้ช้า ทำให้กลิ่นหอมติดทนนาน
- เลือกน้ำหอมแบบ Eau de Parfum (EDP) หรือ Eau de Toilette (EDT) เพราะมีปริมาณน้ำหอมเข้มข้นกว่า Eau de Cologne (EDC)
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.