Codependent Relationship ความสัมพันธ์แบบ เขา “ร้าย” แต่ก็ยัง “รัก”

ในความสัมพันธ์ที่ไม่เท่าเทียมกัน ที่อีกฝ่ายเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ และอีกฝ่ายที่ยอมอยู่ตลอด ยอมให้เขาเอารัดเอาเปรียบ ถึงแม้ว่าเขาจะทำให้รู้สึกเสียใจ แต่ก็มักจะทนอยู่เสมอ ขอเพียงแค่มีเขาอยู่ข้างกาย นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนขนาดใหญ่ที่ทำให้ทราบว่า คุณกำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบ Codependent Relationship

Codependent Relationship คืออะไร ?

Codependent Relationship คือ ความสัมพันธ์แบบพึ่งพา หรือยึดติดกับอีกฝ่ายมากจนเกินไป มักเกิดจากความสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายหนึ่งมีความรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่าแบบฝังลึก หรือที่เรียกว่า toxic shame โดยอาจเกิดจากปมในวัยเด็ก หรือความผิดปกติทางอารมณ์ ซึ่งเขาจะมีความเชื่ออยู่ในจิตใจว่าตัวเองเป็นคนไม่ดีตั้งแต่เกิด รู้สึกบกพร่อง แตกต่าง และไม่น่ารัก

และอีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากการที่อีกฝ่ายเป็นผู้ให้มากเกินไป (People Pleaser) โดยคนเหล่านี้มักหลงคิดว่า การทำให้คนอื่นหรือคนรอบข้างรู้สึกดีเป็นหน้าที่ของตนเอง หากทำไม่สำเร็จก็จะรู้สึกไร้ค่า เพราะเขาเชื่อว่าการเอาอกเอาใจ หรือทำให้คนอื่นรู้สึกพอใจได้ก็จะถือว่าตนเองได้รับการยอมรับ ถึงแม้ว่าการกระทำนั้นจะเป็นการทำให้ตัวเองจะรู้สึกฝืนใจก็ตาม

นี่จึงเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาเรื่องของความไม่เท่าเทียมกันที่มักจะซ่อนอยู่ในความสัมพันธ์ แน่นอนว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะมีอำนาจอยู่เหนือกว่า ซึ่งทำให้อีกฝ่ายถูกกดขี่ได้ทั้งทางกาย การกระทำ และคำพูด จนกลายเป็นคนที่ต้องยอมแลก หรือเสียสละทุกอย่าง และถึงแม้ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ หรือ Toxic Relationship เขาก็มักจะหลอกตัวเองและคนรอบตัวว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ดี และสวยงาม…

อะไรที่เป็นจุดเริ่มต้นของ “Codependent Relationship”

จริงๆ แล้ว Codependent Relationship นั้นมีหลายรูปแบบ แต่จุดกำเนิดที่ทำให้เรากลายเป็นคนที่ Codependency นั้นเกิดจากการเลี้ยงดูจากพ่อแม่เป็นหลัก โดยต้นแบบของ Codependent Relationship ส่วนมากเกิดจากการที่เราเติบโตมาจากครอบครัวที่เป็นแบบนั้น เรามาดูกันว่าลักษณะจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่แบบไหน ที่ทำให้เรากลายเป็นคนที่ตกอยู่ใน Codependent Relationship

  • พ่อแม่ หรือครอบครัวไม่ได้ดูแล และใส่ใจอารมณ์ความรู้สึก คือการที่พ่อแม่ หรือคนในครอบครัวไม่ค่อยได้ Support ในด้านของอารมณ์ความรู้สึก จนทำให้เด็กเติบโตมามีความคิด และความเชื่อว่าจะต้องช่วยเหลือคนอื่นอยู่เสมอจึงจะได้รับความรัก และทำให้เด็กเข้าใจว่า ตัวเองต้องเป็นคนที่รับผิดชอบความรู้สึกของพ่อแม่
  • การเลี้ยงดูแบบไข่ในหิน ปกป้องมากเกินไป เกิดจากการที่พ่อแม่เลี้ยงดูแบบปกป้องลูกมากจนเกินไป (Over Protective) หรือเลี้ยงดูแบบบังคับควบคุมมากเกินไป (Controlling) จนทำให้ลูกไม่กล้าที่จะตัดสินใจ หรือรับผิดชอบอะไรต่างๆ ในชีวิตได้ด้วยตัวเอง
  • การปล่อยปละละเลย เกิดจากพ่อแม่ไม่สนใจลูก หรือไม่ค่อยมีเวลาให้ และไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่มีคุณภาพกับลูก ซึ่งเด็กที่เติบโตมาในแบบที่ถูกปล่อยปละละเลย ก็จะทำให้เขาไปมองหาการยอมรับ หรือมองหาความรัก และความอบอุ่นจากภายนอก
  • หากพ่อแม่ป่วย ลูกต้องเป็นคนดูแล เกิดจากพ่อแม่ หรือครอบครัวที่ทรีทให้ลูกเข้าใจว่า หากพ่อแม่ป่วยลูกต้องเป็นคนดูแล หรือพ่อแม่โยนความรับผิดชอบไปให้ลูก ทำให้เขาเข้าใจว่าเขาจะต้องเป็นคนที่รับผิดชอบความเป็นอยู่ของพ่อแม่ ทั้งเรื่องสุขภาพกาย และสุขภาพจิต จนเขาละเลยความต้องการของตัวเอง และเอาความต้องการของคนอื่นมาเป็นอันดับแรก
  • Enmeshment ความผูกพันที่เกินขอบเขต เกิดจากพ่อแม่พยายามที่จะรับรู้ และควบคุมความคิด รวมไปถึงความรู้สึกทุกอย่างของลูก โดยพ่อแม่เองก็พึ่งพิงทางความรู้สึกกับลูกอย่างมาก หรืออาจกระทั่งพยายามใช้ชีวิตของตัวเองผ่านชีวิตของลูก จนทำให้เขารู้สึกว่าต้องทำอย่างไร จึงจะทำให้พ่อแม่มีความสุข
  • Conditional Love ความรักที่มีเงื่อนไข คือการที่ลูกถูกเข้าใจมาว่าโตขึ้นต้องเก่ง ต้องดี ต้องเป็นแบบนี้จึงจะได้รับความรัก จนทำให้เขาเรียนรู้ว่าจะต้องทำแบบนี้ แบบนั้นจึงจะได้รับความรักจากพ่อแม่

เพราะคนเราจะเลือกเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์ที่เราคุ้นชิน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ใครสักคนก้าวเข้าสู่ Codependent Relationship โดยไม่รู้ตัว

ผลักตัวเองออกมาจาก Codependent Relationship

สำหรับใครที่รู้แล้วว่า ตัวเองกำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบ Codependent Relationship แล้วอยากถอยออกมาเพื่อมองหาความสุขที่แท้จริง หรือความต้องการของตัวเองแบบจริงๆ โดยไม่ไปวางความสุขของตัวเองไว้กับคนอื่น คุณสามารถเริ่มปรับเปลี่ยนตัวเองได้ดังนี้

ปฏิเสธให้เป็น

สิ่งแรกที่เราควรทำ คือ เคารพความรู้สึกของตัวเอง หากเรื่องอะไร หรือสถานการณ์ไหนที่ทำให้คุณรู้สึกอึดอัดใจก็ควรปฏิเสธ หากอีกฝ่ายยอมรับการตัดสินใจของคุณได้ นั้นหมายถึงว่าเขาเคารพความรู้สึกของคุณ ดังนั้นแล้วลองปฏิเสธในสิ่งที่ทำให้คุณไม่สะดวกใจสักครั้ง คุณเองอาจจะได้รับคำตอบที่สบายใจกว่าที่คิดไว้

ค้นหาตัวเอง

หากการเดินไปพร้อมๆ กันกับใครสักคนต้องทำให้ตัวคุณเองรู้สึกไม่ดี หรือสังคมที่คุณอยู่ บังคับให้คุณปรับตัวจนหลงลืมความรู้สึกตัวเอง ลองถอยออกมาแล้วสำรวจตัวเองว่า จริงๆ แล้วเราต้องการแบบไหน หรือไม่ชอบอะไร อย่ากังวลที่จะกล้าเป็นตัวของตัวเอง เพราะนอกจากจะทำให้คุณเครียดแล้ว ยังทำให้เสียสุขภาพจิตอีกด้วย

รักตัวเองให้มาก

“เราจะรักคนอื่นได้ ก็ต่อเมื่อเรารักตัวเองให้เป็นเสียก่อน” เพราะการรักตัวเองคือสิ่งที่สำคัญที่สุด คุณจะเข้าใจว่าตัวคุณเองนั้นมีคุณค่า มีความหมาย คุณจะไม่โหยหาความรักจากคนอื่น แต่คุณจะมีความสุขได้ด้วยตัวคุณเอง

มองโลกตามความเป็นจริง

เนื่องจากคนที่เป็น Codependency หรือกำลังตกอยู่ในความสัมพันธ์แบบ Codependent Relationship มักคิดว่าตัวเองไม่สามารถอยู่ได้หากไม่มีเขาคนนั้น คิดว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ซึ่งการที่มีความคิดแบบนี้เราบอกเลยว่า เป็นภาระต่อจิตใจอย่างมาก เพราะจะทำให้เกิดความเครียด และวิตกกังวล เพื่อเป็นการทำให้สุขภาพจิตดีขึ้นแล้ว ควรปรับเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ เลิกมองโลกในแง่ลบ หันมามองโลกตามความเป็นจริง เพราะจะทำให้เรามีความสุขแบบระยะยาวมากกว่า

แน่นอนว่าความสัมพันธ์แบบ Codependent Relationship ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ไข เพราะการที่ต้องไปปรับเปลี่ยนความคิดของคนอื่นนั้นเป็นเรื่องที่เกินควบคุมเสมอ ในวันหนึ่งที่คุณรักตัวเองมากพอ คุณจะเข้าใจได้ทันทีว่าควรทำอย่างไร ลองนึกถึงความสุขของตัวเอง อย่าทนจนทำให้ตัวเองรู้สึกแย่ ลองถอยออกมาอยู่ในจุดที่ทำให้คุณอยู่ได้อย่างสบายใจ และเจ็บปวดน้อยที่สุดจะดีกว่า

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.