ไปเดิน "งานดอกไม้ปาร์คนายเลิศ" ปีนี้ ห้ามพลาด 5 จุดต่อไปนี้
เปิดงานไปแล้วเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา สำหรับงานดอกไม้ปาร์คนายเลิศ งานดอกไม้แห่งปีที่หลายคนรอคอยใจอย่างจดใจจ่อ เพราะในแต่ละปีจะมีคอนเซ็ปต์การจัดงานแตกต่างกัน
สำหรับการจัดงานดอกไม้ปาร์คนายเลิศครั้งที่ 35 นี้นำเสนอในคอนเซ็ปต์ " Blossoming Culinary Art" หรือ ศิลปะการตกแต่งดอกไม้ เมล็ดธัญพืช และพรรณไม้ที่ได้แรงบันดาลใจจากศาสตร์และศิลป์ของการประกอบอาหารที่กระจายไปตามโซนกิจกรรมทั้ง 5 โซนภายในงาน
1.FLOWERS X ART
โซนนี้ถือเป็นไฮไลต์สำคัญเพราะเป็นพื้นที่จัดแสดงพรมดอกไม้และเมล็ดธัญพืชขนาดใหญ่ ที่ได้คุณศักดิ์ชัยกาย ครีเอทีฟและนักจัดดอกไม้ชื่อดังสร้างสรรค์ชิ้นงานในคอนเซ็ปต์หลักของงาน ที่สำคัญคือพรมดอกไม้ขนาดกว่า 500 ตารางเมตรนี้ใช้การโรยเมล็ดธัญพืช ดอกไม้สดหลากหลายพันธุ์ด้วยฝีมือมนุษย์
นอกจากนี้ในบริเวณรอบๆ พรมดอกไม้ยาวยังมีการจัดแสดงประติมากรรมดอกไม้จากเหล่าพันธมิตรทางธุรกิจที่ต้องบอกว่าเห็นแล้วก็อดที่จะถ่ายภาพคู่กับเหล่าผลงานประติมากรรมเหล่านี้ไม่ได้
2.Beeswax Castle
นับเป็นความตื่นตาตื่นใจอีกครั้งสำหรับการเปิดบ้านปาร์คนายเลิศเรือนไม้สักทองอายุกว่า 109 ปีจัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ซึ่ง Beewax Castle หรือปราสาทผึ้งเมืองสกลนคร ก็กลายเป็นแรงบันดาลใจส่วนหนึ่งของนิทรรศการภายในบ้านปาร์คนายเลิศ ทราบว่าหลังจากงานดอกไม้ฯ เสร็จสิ้นลงในวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2567 นี้ ส่วนของปราสาทผึ้งเมืองสกลนครยังคงถูกจัดแสดงต่อไป เพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสเห็นถึงความวิจิตรตระการตาแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้
3.ผลงานศิลปะของเหล่านักศึกษา
ภายในบ้านปาร์คนายเลิศยังมีส่วนกิจกรรมสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของเยาวชนโดยมีการจัดแสดงเสื้อผ้าทำจากวัตถุดิบทำอาหารภายใต้คอนเซ็ปต์หลักของงาน มีทั้งชุดที่ทำจากเมล็ดกาแฟ สาหร่าย ดอกไม้จีน วุ้นเส้น ซึ่งล้วนออกแบบมาได้อย่างงดงาม ทั้งหมดเป็นผลงานของนักศึกษาสาขาวิชาศิลปะการออกแบบพัสตราภรณ์ จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นอกจากนั้นยังมีงานศิลปะจากการแกะสลักผักและผลไม้ผสมผสานกับงานทำขนมอบจากน้ำตาลและเจลาติน (ฟองดอง) ซึ่งเป็นฝีมือของโรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
4.Winter Garden
อย่างที่ทราบกันดีว่าในทุกๆ ปีของงานดอกไม้ปาร์คนายเลิศอาหารจานดอกไม้เป็นหนึ่งในไฮไลต์สำคัญที่ทุกคนต้องไปลิ้มลอง ปีนี้ห้องอาหารที่เป็นจุดเด่นและอยากชวนให้ทุกคนเข้าไปอิ่มเอมใจคือห้องอาหาร Lady L ห้องอาหารยุโรปสไตล์โฮมเมดในรูปแบบ Farm to Table
นอกจากอาหารกายแล้ว อาหารตาก็น่าสนใจไม่แพ้กันนั่นคือสวนดอกทิวลิปภายในร้านอาหาร ซึ่งดอกทิวลิปทั้งหมดนั้นเป็นการนำพลังงานความเย็นเหลือใช้จากกระบวนการแปรสภาพก๊าซธรรมชาติเหลวของบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัดมาใช้ในการปลูก
อีกทั้งยังมีประติกรรมศิลปะงานกระดาษแนวใหม่เข้ามาผสมผสานตกแต่งภายในร้านตามคอนเซ็ปต์ "Cry of the Forest" ของศิลปินรักษิต บุญนาค ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากป่าที่ถูกทำลาย ทำให้สัตว์ต้องมาอยู่ร่วมกับมนุษย์โลก
นอกจากห้องอาหาร Lady L แล้วห้องอาหารอื่นๆ ภายในงานดอกไม้ฯ ก็เสิร์ฟอาหารจานดอกไม้อีกเช่นกัน
5.Workshop พัฒนาตัวเอง
ในช่วงเวลาตลอดทั้งวันภายในงานยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อปหลากหลายทั้งทำขนมไทย แกะสลักผักและผลไม้ และทำพิมเสนน้ำจากสมุไพร และดอกไม้
นี่เป็นเพียง 5 จุดเด่นที่เราไม่อยากให้คุณพลาดในงานดอกไม้ปาร์คนายเลิศ แต่ยังมีกิจกรรม และจุดที่น่าสนใจอีกมากมาย
สำหรับงานดอกไม้ปาร์คนายเลิศครั้งที่ 35 นี้ เริ่มตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2567 นี้ ตั้งแต่เวลา 9.00-21.00 น. สำหรับค่าบัตรเข้าชมงานผู้ใหญ่ราคา 150 บาท เด็ก นักเรียน นักศึกษาและผู้พิการราคา 100 บาท รายได้จากการจัดงานหลังหักค่าใช้จ่ายนำไปบริจาคสมทบทุนให้กับ "ศูนย์โปรตรอนสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.