แจก Playlist “เที่ยวไทยฉบับเอาต์ดอร์” ทั้งโลว์คาร์บอน ทั้งเปิดมุมใหม่เมืองไทยแบบว้าวมาก
สายกิจกรรม สายเที่ยวแอดเวนเจอร์ที่ชอบออกไปท่องโลกเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เมืองไทยยังมีกิจกรรมสนุกๆ รออยู่แน่นมาก เช่นเดียวกับ Playlist “เที่ยวไทยฉบับเอาต์ดอร์” ครั้งนี้ที่เราจะพาไปทัวร์ 5 ภูมิภาคผ่านกิจกรรมเอาต์ดอร์ประเภทต่างๆ ที่ โลว์คาร์บอน แทบจะไม่สร้างมลภาวะให้สิ่งแวดล้อมเลย แต่จะทำให้เห็นเมืองไทยในมุมใหม่ๆ ที่ว้าวมาก ถ้าพร้อมแล้วผูกเชือกรองเท้าให้แน่นแล้วเก็บกระเป๋าตามมาได้เลย
“พิกัดเซิร์ฟทั่วไทย” หัวใจต้องการปะทะเกลียวคลื่น
ชวนลงทะเลไปโต้คลื่นเท่ๆ กับกีฬาสุดชิกที่หลายคนเคยคิดว่ามีแค่ที่ต่างประเทศอย่างกีฬา เซิร์ฟ (Surf) ที่วันนี้ได้กลายเป็นหนึ่งใน Main Stream ของกีฬาทางน้ำที่อยู่คู่ทะเลไทยหลายแห่ง จะทะเลฝั่งอันดามันหรืออ่าวไทยล้วนมี Surf Destination ที่น่าไปค้นหา ซึ่งความท้าทายของเกลียวคลื่น ความสวยงามของท้องทะเลไทย และไอแดดที่แผดเผานี่แหละที่เป็นเสน่ห์ทำให้หลายคนยอมไปฝังตัวเป็น Surfer ตามชายหาดต่างๆ รอคอยวันที่คลื่นสวย แล้วคว้าบอร์ดคู่ใจกระโจนลงไปยังไลน์อัปแล้วเซิร์ฟให้ตัวเค็ม ชาร์จพลังงานชีวิตให้เต็ม และแม้เซิร์ฟจะเป็นกีฬาที่ขึ้นอยู่กับธรรมชาติ แต่ละชายหาดก็มีฤดูกาลเซิร์ฟของตัวเอง ทว่าเซิร์ฟของไทยแทบจะเล่นได้เกือบทั้งปี คือ ฝั่งอันดามันจะมีฤดูกาลเซิร์ฟช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ส่วนฝั่งอ่าวไทยคือช่วงมิถุนายนถึงกันยายน แต่บางแห่งเล่นได้ถึงเดือนกุมภาพันธ์เลยทีเดียว เช่นเดียวกับ 5 Surf Destination ที่เราคัดมาแล้วว่า Surfer ควรไปสักครั้ง
“ภูเก็ต” Surf Destination ระดับโลก
ภูเก็ตเป็นที่แรกๆ ของกีฬาเซิร์ฟในประเทศไทยตั้งแต่ยุคบุกเบิก ด้วยศักยภาพด้านการท่องเที่ยวครบทุกด้าน และมีหลายหาดที่เหมาะแก่การโต้คลื่น ทั้งคลื่นลูกใหญ่ เป็นแนวสวย รวมถึงการเดินทางสะดวกสบาย ไม่ต้องดั้นด้นเพื่อหาที่เล่น ซึ่งหาดที่โดดเด่นเรื่องเซิร์ฟ ก็มีหาดกะตะที่เล่นได้ทุกระดับฝีมือ, หาดกะหลิม ชายหาดคลื่นสวยที่เต็มไปด้วยโขดหิน เหมาะกับนักเซิร์ฟมากประสบการณ์ หรือหาดยอดฮิตอย่างป่าตอง ที่ไม่ได้มีแค่สีสันยามค่ำคืน แต่ยังเป็นหาดที่นักโต้คลื่นมาสนุกได้ ( Beyond Surf Kata Beach โทร. 095-895-3709,
Kalim Reef Surfers โทร. 080-656-6201, Patong Surf Club โทร. 083-107-0151)
รักสงบ ชอบความเรียบง่าย ต้องมา “พังงา”
หากเป็นนักโต้คลื่นรักสงบ พังงาคือคำตอบ เพราะคาแรกเตอร์ของชายหาดพังงาคือความเรียบง่าย เงียบสงบ แต่แฝงไปด้วยความชิกๆ คูลๆ ดึงดูดให้นักเซิร์ฟทั้งใหม่เก่าตบเท้ามาซึมซับกับความเป็นธรรมชาติขั้นสุดของที่นี่ ถึงจะดูชิลๆ แต่คลื่นที่นี่ต้องยอมรับว่าลูกใหญ่ สวยคลีน โดยเฉพาะที่หาดเมมโมรีบีชในเขาหลักคือสวยทั้งหาด สวยทั้งไลน์อัปคลื่น ลงทะเลเสร็จก็ต่อด้วยโซนเมืองเก่า บีชคลับต่างๆ ได้สะดวกมาก พร้อมฤดูกาลแข่งขันเซิร์ฟแถมยังมีร้านอุปกรณ์กีฬาเซิร์ฟครบจบในที่เดียว (Better Surf Thailand โทร. 092-795-4951, Pakarang Surf School Khaolak โทร. 099-307-0202)
โต้คลื่น “ระนอง” ต้องเกาะพยาม
เกาะพยาม จังหวัดระนอง เป็นหนึ่งในสถานที่เล่นเซิร์ฟยอดฮิตของไทย จากลักษณะของชายหาดที่มีพื้นทรายเป็น Beach Break คลื่นของที่นี่จึงเสถียรมาก แนวคลื่นยาวสวยงาม และมีทั้งลูกใหญ่และเล็กจึงเหมาะกับนักเซิร์ฟทุกระดับ ที่สำคัญคือมาเซิร์ฟที่เกาะพยามแล้วจะได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์สุดๆ (Phayam Surfer โทร. 086-995-2598)
“หัวหิน” เซิร์ฟได้ใกล้กรุง
ทะเลหัวหินกำลังกลายเป็นหมุดหมายใหม่ของนักเซิร์ฟ เพราะจุดแข็งเรื่องความใกล้กรุงเทพฯ และคลื่นที่นี่ค่อนข้างดีในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ มีแนวชายหาดทอดยาว เหมาะแก่การเซิร์ฟ โดยเฉพาะที่หาดเขาตะเกียบไปจนถึงหาดวนกร ที่บางช่วงเวลาถ้าหากคลื่นดีๆ บอกเลยว่าทะเลสำหรับเซิร์ฟใกล้กรุงใกล้ตัวเมืองก็สนุกได้ (Pineapple Surf Club โทร. 095-192-1990)
“ระยอง” สวรรค์ของนักโต้คลื่นตะวันออก
ระยองคืออีกหมุดหมายของนักเซิร์ฟที่ไม่มีวันลาพักร้อนยาวๆ แต่กำลังมองพิกัดเซิร์ฟใกล้กรุงให้พุ่งตัวไปวันหยุดสุดสัปดาห์ได้เลย ซึ่งน่าประหลาดใจมากว่า ระยอง เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีคอมมูนิตีเซิร์ฟเข้มแข็งมาก ถึงแม้คลื่นที่ระยองส่วนมากจะลูกไม่ใหญ่หรือเป็นแนวสวยๆ คลีนๆ แต่ก็มีคลื่นเพียงพอให้นักโต้คลื่นได้สนุกกับกีฬาเซิร์ฟ ทั้งระดับมือใหม่ได้เรียนรู้ หรือระดับกูรู คลื่นระยองก็สร้างนักกีฬาระดับชาติมาแล้ว โดยแหล่งเซิร์ฟหลักของระยองจะอยู่ที่เขาแหลมหญ้าและหาดก้นอ่าว (Laem Yah Rayong Surf Club โทร. 089-405-0522)
หลงรักเมืองไทยกับ 7 เส้นทางพาย SUP
เปิดมุมมองใหม่ๆ ของเส้นทางเที่ยวไทยกับกิจกรรมพาย SUP (Stand Up Paddle Board หรือ SUP Board หรือเรียกสั้น SUP) การันตีด้วยความนิยมที่พุ่งสูงขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา แค่มีเพียง SUP Board หนึ่งลำ ไม้พายหนึ่งอัน ก็ออกไปผจญภัยบนสายน้ำได้ทุกที่ และบอร์ดลำเดียวกันนี้ยังพาไปรู้จักชุมชน รู้จักวิถีชีวิตที่แม่น้ำลำคลองไหลผ่านซึ่งการเดินทางโดยรถยนต์ไม่สามารถลัดเลาะพาไปได้ เป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ทั้งสนุกและรักษ์โลก ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่หัวใจโลว์คาร์บอน แต่หากยังนึกไม่ออกว่าจะไปลองประสบการณ์พาย SUP Board ที่ไหน เรามี 7 เส้นทางน่าไปพายมาแนะนำ ใกล้ที่ไหนไปได้เลย
“แม่น้ำแม่กลอง” พาย SUP สัมผัสวิถีชีวิต
ด้วยกระแสน้ำที่ไม่ได้ไหลเชี่ยวแถมยังมีหลายจุดให้แวะเที่ยว แม่กลองจึงเหมาะสำหรับการพาย SUP Board ชิลๆ ไปตามลำคลอง ทั้งเส้นทางสบายๆ อย่างเช่นเส้นทางพายไปกินหอยทอดป้าเขียว หอยทอดเจ้าเก่าแห่งบางคนที ที่ขายมานานกว่า 40 ปี หรือเส้นทางที่ท้าทายกับระยะไกลขึ้น อย่างเส้นทางพายไปตลาดน้ำท่าคา ที่จะพายผ่านคลองบ้านใต้ คลองสายเล็กอันร่มรื่นด้วยต้นไม้และสวนมะพร้าว ชมอาคารบ้านเรือนสถาปัตยกรรมไทย-จีนโบราณ สู่ตลาดน้ำท่าคาที่ยังมีวิถีดั้งเดิมของชาวแม่กลอง นอกจากนี้ยังมีหลายเส้นทางให้ไปสัมผัสกัน
(SUP Space Maeklong โทร. 083-714-6958)
“คลองหนองบัว” พายทัวร์ป่าโกงกาง
คลองหนองบัว จันทบุรี เป็นดั่งเส้นเลือดใหญ่ของคนชุมชนริมคลองหนองบัว หรือที่หลายคนรู้จักในนาม ชุมชนขนมแปลก คลองหนองบัวทอดยาวผ่านชุมชนแล้วไหลออกสู่ทะเล สองข้างทางคือป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ จึงยังเป็นแหล่งทำมาหากินของชาวประมงพื้นบ้าน บนเส้นทางพายเลาะริมชายป่าโกงกางราวๆ 4-5 กิโลเมตรนี้ ทุกคนจะได้เห็นวิวเขาสระบาป แหล่งกำเนิดของน้ำตกพลิ้ว นอกจากนี้ยังมีไฮไลต์คือ ลำพูเดียวดาย ต้นลำพูกลางน้ำที่ยืนต้นเพียงลำพัง เป็นแลนด์มาร์กให้ได้ถ่ายรูปกัน และที่พลาดไม่ได้คือพายไปดูฝูงเหยี่ยวแดงที่อาศัยบริเวณป่าโกงกาง (SUP Addict Chanthaburi โทร. 089-747-0208)
“บางปะกง” พายชมวิถีแห่งลุ่มแม่น้ำ
แม่น้ำสายใหญ่ที่ใกล้กรุงเทพฯ แค่นิดเดียวอย่างแม่น้ำบางปะกง คืออีกหนึ่งเส้นทางพาย SUP Board ที่น่าประทับใจสำหรับทุกเพศทุกวัย จุดที่จะลงไปพายได้สะดวกที่สุดคือบริเวณร้านชวนมา SUP Club ใกล้วัดหลวงพ่อโสธร สำหรับมือใหม่เส้นทางพายระยะใกล้ๆ คือพายชมวิววัดหลวงพ่อโสธรในมุมมองจากแม่น้ำ แล้วพายต่อไปยังสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกงที่หลายคนเคยขับรถผ่าน แต่ไม่เคยได้ยืนมองจากมุมนี้ ส่วนคนที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตและธรรมชาติ ตามคลองสายย่อยที่ลัดเลาะไปตามป่าจาก และเรือกสวนของชาวบ้านคืออีกมิติใหม่ให้เราได้พายไปชื่นชมความงามท่ามกลางความสงบ ภาพชาวบ้านงมกุ้งด้วยมือเปล่า หรือแม้แต่กุ้งตัวเป็นๆ กระโดดขึ้นมาเหนือน้ำคือหาดูได้ไม่ยากเลยที่นี่ (ร้านชวนมา SUP Clubโทร. 089-218-7661)
“บึงตะโก้” พาย SUP ใกล้กรุง
บึงตะโก้ สมุทรปราการ อาจมีชื่อเสียงเรื่องเป็นบึงเวคบอร์ด แต่สำหรับคนที่สนใจพาย SUP Board ที่นี่มีให้บริการพายชิลๆ ในบึงอันเงียบสงบ ด้วยความที่ที่นี่เป็นบึงเวคบอร์ด นักพายจะได้เจอกับคลื่นเบาๆ จากนักเวคบอร์ดพอให้ได้ตื่นเต้น แต่สบายใจได้เรื่องความปลอดภัย เพราะเส้นทางพายจะแยกจากส่วนเล่นเวคบอร์ดค่อนข้างชัดเจน และยังมีโอกาสได้พบปะนักกีฬา SUP รวมทั้งคนดังของวงการ SUP เพราะเป็นที่ทำการของแบรนด์ SUP Board ชื่อดังของโลก และเป็นที่ฝึกซ้อมของนักกีฬาด้วย (โทร. 061-626-2252)
“บึงหนองบอน” ที่พาย SUP ลับๆ กลางกรุง
ศูนย์กีฬาทางน้ำบึงหนองบอน เป็นบึงรับน้ำที่มีวิวสวยงามมาก โดยเฉพาะช่วงเช้าและเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก ด้วยต้นไม้ใหญ่ปกคลุมอยู่รอบบึง บึงน้ำขนาดใหญ่นี้ถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก สำหรับคนที่จะพาย SUP Board จะใช้บริการได้ที่บึงฝั่งทิศตะวันออกเท่านั้น และด้วยความที่ที่นี่มีธรรมชาติค่อนข้างสมบูรณ์ ทำให้เป็นแหล่งอาศัยของนกอพยพและนกประจำถิ่นด้วย การใช้บริการเพียงแค่สมัครสมาชิกรายปีของศูนย์กีฬาบึงหนองบอน และมีขั้นตอนอีกเล็กน้อย คือทุกครั้งที่จะมาพายต้องจองผ่านแอปพลิเคชัน CSTD Smart Member ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน (โทร. 02-328-0236)
“กว๊านพะเยา” พาย SUP ฉบับ Unseen Thailand
กว๊านพะเยาเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่รูปพระจันทร์เสี้ยวที่มีวิวไกลสุดสายตา และนี่คือหนึ่งในสวรรค์ของคนพาย SUP Board ครบครันทั้งน้ำใสและวิวสวย จากริมฝั่งจะพายเลาะไปตามริมกว๊านเพื่อชมบรรยากาศรอบๆ โดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเย็น ที่นี่จะคึกคักมาก หรือจะพายมุ่งหน้าไปยังวัดติโลกอาราม วัดกลางน้ำที่เป็น Unseen Phayao ก็เป็นเส้นทางพายที่จะได้สัมผัสธรรมชาติและวิถีของกว๊านพะเยาอย่างเต็มตา โดยระยะทางจากริมฝั่งไปวัดไม่ไกลมากนัก ซึ่งในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอย่าง วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา ที่นี่มีประเพณีเวียนเทียนกลางน้ำหนึ่งเดียวของโลกด้วย
“หาดทรายรี-เกาะพร้าว” น้ำใส เกาะสวย
ทะเลชุมพรเป็นอีกหนึ่งปลายทางที่ดีที่สุดของคนรักทะเล และเส้นทางพาย SUP Board ไปยังเกาะพร้าว ก็คืออีกหนึ่งเส้นทางที่ทุกคนจะได้ไปพบกับน้ำทะเลใสๆ บนเกาะสวยๆ ที่ยังมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เส้นทางจากหาดทรายรีไปยังเกาะพร้าวถือว่าใกล้มากๆ เพียง 1.2 กิโลเมตร และไม่ค่อยมีคลื่นลมแรงมากนัก เราจะได้พายผ่านแนวปะการังน้ำตื้น ซึ่งนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ไม่มีเรือขนาดใหญ่เข้ามาที่เกาะพร้าว จึงยังคงรักษาความเงียบสงบ บริสุทธิ์ สะอาด และสวยงามไว้ได้ แน่นอนว่า SUP Board เป็นมิตรต่อการเข้ามายังเกาะพร้าวมากๆ ส่วนที่ด้านหลังเกาะพร้าวเป็นช่องหินที่เราพายไปชมความงามของโขดหินบนน้ำทะเลใสปิ๊งได้ด้วย เป็นอีกมุม Unseen ที่ถ้าพายมาถึงเกาะพร้าวแล้วก็ไม่ควรพลาดชม
ซอกแซกเมืองไทยกับ “เส้นทางจักรยาน”
กรุงเทพฯ อาจจะดูว่าเป็นเมืองที่รถราแน่นถนน ไม่เป็นมิตรกับจักรยานมากนัก แต่กลับมีคนกลุ่มหนึ่งอยากลุกขึ้นมาชวนเปิดมุมมองใหม่ของกรุงเทพฯ ผ่านเส้นทางจักรยานที่ลัดเลาะเข้าไปยังชุมชนเล็กๆ ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในเมืองใหญ่อีกที และแน่นอนว่าเป็นเส้นทางที่ไม่ได้ถูกบรรจุอยู่ในเส้นทางการท่องเที่ยวทั่วไป และรถยนต์ก็เข้าไปส่งไม่ถึง ส่วนใครที่ยังนึกไม่ออกว่าจะซอกแซกกรุงเทพฯ หรือทัวร์จักรยานทั่วไทยด้วยจักรยานเส้นทางไหนดี เรามีพิกัดบริษัททัวร์จักรยานโดยไกด์นักปั่นมืออาชีพมาแนะนำกัน
Co van Kessel Bangkok : ปั่นจักรยานไปค้นพบมุมลับๆ ของกรุงเทพฯ
Co van Kessel Bangkok บริษัททัวร์จักรยานเจ้าแรกๆ ที่ลุกขึ้นมาทำเส้นทางจักรยานซอกแซกกรุงเทพฯ ปัจจุบันได้ขยายพื้นที่ไปยังเชียงใหม่ ก่อตั้งและเริ่มสำรวจกรุงเทพฯ ผ่านมุมบนหลังอานจักรยานโดย Co van Kessel ชาวเนเธอร์แลนด์ ร่วมกับเพื่อนชาวไทย น้อง-จันทร์มณี พลภักดี ตั้งแต่ พ.ศ.2548 เน้นเส้นทางตลาดน้อย เยาวราช ปากคลองตลาด คลองสาน หัวลำโพง ข้อดีของ Co van Kessel คือมีไกด์ผู้เชี่ยวชาญทั้งเส้นทาง ประวัติศาสตร์ และชุมชน จากจักรยานอย่างเดียวก็เริ่มขยายเส้นทางสู่จักรยานบวกเรือ จักรยานบวกรถไฟ เช่น แพ็กเกจ Co Combo ปั่นจักรยานและล่องเรือ จากเยาวราชไปไกลถึงบางกระเจ้า รวมระยะเวลา 5 ชั่วโมง เริ่มจากจุดนัดพบ ริเวอร์ซิตี้ ปั่นผ่านตลาดน้อย ไปถึงเยาวราช ลัดเลาะตรอกซอกซอยไปลงเรือล่องชมบ้านเรือนและวิถีชีวิตริมฝั่งเจ้าพระยาไปจนถึงคุ้งน้ำบางกระเจ้า ผ่านพื้นที่ที่เป็นปอดใหญ่ของชาวกรุง ระหว่างทางจะได้แวะชิมอาหารสูตรดั้งเดิม ชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่น รื่นรมย์กับชุมชนกรุงเทพฯ อย่างช้าๆ แต่จะทำให้หลงรักมหานครแห่งนี้มากขึ้น (www.facebook.com/covankessel/ โทร.02-639-7351)
Hunsa Cycling : ถ้าใจถึงก็ปั่นจักรยานเที่ยวไทยไปเลย
สำหรับนักปั่นสายฟิต สายโปร และมือใหม่ใจสู้ที่อยากลองเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยบนจักรยานแบบจริงจัง Hunsa Cycling เปิดเส้นทางเที่ยวไทยบนจักรยานทางไกล นำโดย หน่อง-ปุริม ศิริมาจันทร์ ผู้มีประสบการณ์ท่องเที่ยวด้วยจักรยานไม่ต่ำกว่า 10 ปี เน้นเจาะลึกพื้นที่สีเขียวและทิวทัศน์งดงามของไทย พลัสด้วยบรรยากาศท้องถิ่นชุมชน โดยนักปั่นสามารถเลือกเส้นทางตามโปรแกรมปกติได้ หรือจะปรึกษาให้ช่วยออกแบบเส้นทางก็ได้ ส่วนมือใหม่ก็สามารถพูดคุยเพื่อตัดสินใจก่อนเลือกโปรแกรมได้เลย เส้นทางไฮไลต์ยอดนิยมคือ วันเดย์ทริปทัวร์จักรยานชมธรรมชาติผืนป่าตะวันตกกาญจนบุรี ระยะทางรวม 100 กิโลเมตร จุดเริ่มต้นที่เขื่อนศรีนครินทร์ ปั่นเลาะเลียบเขื่อนและผืนป่าตะวันตกผ่านน้ำตกเอราวัณ บางช่วงต้องไต่ระทึกขึ้นเนินเขาสูงชันด้วยสองล้อ และทดสอบความฟิตชนิดต้องงัดทักษะไตรกีฬามาใช้ เพราะจะมีการเปลี่ยนจากจักรยานไปลงแพขนานยนต์ และเดินเท้าสู่ยอดเขาจุดชมวิวสูงสุดของเทือกเขาตะนาวศรี เรียกได้ว่าสายแอดเวนเจอร์ตัวจริงห้ามพลาด ( โทร. 081-653-6833 www.hunsacycling.com )
Sukhothai Bicycle Tours : มากกว่าเมืองเก่าคือวิถีสุโขทัย
หากเอ่ยถึงเมืองที่มีความสโลว์ไลฟ์แน่นอนว่าต้องมีชื่อสุโขทัยติดลิสต์อยู่ในนั้น และกิจกรรมสุดฮิตเมื่อไปถึงสุโขทัยคือการเช่าจักรยานปั่นชมเมืองเก่า ซึ่งทั้งรอบเมืองเก่าเองและในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยก็มีร้านให้เช่าจักรยานเรียงรายอยู่เยอะมาก แต่สำหรับใครที่ต้องการเที่ยวสุโขทัยด้วยจักรยานแบบรู้จักวิถีชีวิต ชุมชนเก่าแก่ และประวัติศาสตร์ในเมืองนี้ให้มากขึ้น Sukhothai Bicycle Tours เป็นบริษัททัวร์จักรยานในพื้นที่ พาซอกแซกโดยไกด์จักรยานในพื้นที่ที่มีความรู้ลึกเกี่ยวกับสุโขทัย และโปรด้านการปั่นจักรยาน สามารถเลือกเส้นทางได้ทั้งในอุทยานประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต ลัดเลาะท้องไร่ปลายนา หรือแวะไปพูดคุยชมวิถีชุมชนรอบๆ เมืองเก่า ไม่ว่าจะสายชิล มือใหม่หัดทัวร์จักรยานก็สามารถจอยได้เลย (www.facebook.com/SukhothaiBicycleTour โทร. 08-6931-6242)
มองกรุงเทพฯ มุมใหม่กับ “สกูตเตอร์ทัวร์”
สกูตเตอร์ไฟฟ้า คืออีกเทรนด์ใหม่ด้านการท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงโดยเฉพาะในต่างประเทศ หลายเมืองท่องเที่ยวมีจุดจอดและคืนสกูตเตอร์ไฟฟ้าแบบอัตโนมัติที่แค่ใช้แอปพลิเคชัน หยอดเหรียญ หรือสแกนจ่ายเงินก็สามารถนำสกูตเตอร์ไปท่องเที่ยวแบบคาร์บอนต่ำได้แล้ว แต่สำหรับเมืองไทยแม้ยังไม่มีจุดบริการสกูตเตอร์จริงจัง แต่ตอนนี้เริ่มมีทัวร์สกูตเตอร์เปิดให้บริการในเส้นทางที่แตกต่างกันออกไปโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เราปักหมุดบริษัทที่น่าสนใจมาไว้ให้แล้ว
Go Scoot Bangkok
อันที่จริง Go Scoot Bangkok เป็นบริษัททัวร์ที่ต่อยอดมาจาก Go Bangkok Tour ซึ่งออกแบบการท่องเที่ยวกรุงเทพฯ ผ่านประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งจักรยาน ตุ๊กตุ๊ก เรียนทำอาหารไทย และล่าสุดคือสกูตเตอร์ไฟฟ้าทัวร์ ที่สำรวจเส้นทาง ทำโปรแกรมจริงจัง และสามารถทำระบบเลือกและจองเส้นทางได้ง่ายมากผ่านทั้งเว็บไซต์และ Klook มีให้เลือกทั้งเส้นทางในกรุงเทพฯ เมืองเก่าพระนครศรีอยุธยา และไปไกลถึงเกาะเสม็ด เส้นทางยอดนิยมคือ เยาวราช ทัวร์วัดที่เป็นแลนด์มาร์คสองฝั่งเจ้าพระยา และอีกเส้นทางที่น่าสนใจคือ Night Tour ตลาดน้อยลัดเลาะไปไชน่าทาวน์ ต่อเนื่องไปยังวัดโพธิ์ รับลมเย็นยามค่ำคืนริมเจ้าพระยา โดยทัวร์จะรับเฉพาะกรุ๊ปเล็กๆ เพื่อการดูแลอย่างทั่วถึง และบางเส้นทางก็บวกสกูตเตอร์และเรือหางยาวซอกแซกคลองเล็กๆ ในกรุงเทพฯ ในมุมที่หลายคนยังไม่เคยเห็นมาก่อน (goscootbangkok.com)
Scoot de Urban
สกูตเตอร์ไฟฟ้าทัวร์ที่เน้นไปที่ตัววิทยากรที่สามารถให้ข้อมูลเจาะลึกด้านประวัติศาสตร์ไทย เป็นทัวร์แนว Tailor Made ออกแบบได้ตามความสนใจของลูกค้า รวมทั้งมักจะนำหัวข้อด้านประวัติศาสตร์มาเป็นตัวตั้งเพื่อสร้างเส้นทางสกูตเตอร์ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และอยุธยา เช่น “เกร็ดเรื่องลับฉบับฝั่งธนบุรี” พาชมวัดวาอารามและเรื่องลับๆ ที่อยู่ในพื้นที่ฝั่งธนบุรี ย้อนวิถีชุมชนเก่าแก่ที่ยังหลงเหลือ พาไปรู้จักบ้านขุนนางฝั่งธนบุรีที่สืบเนื่องมาตั้งแต่อยุธยาจวบจนปัจจุบัน ค้นหาพระพุทธรูปทองคำวัดหงส์ ชมมัสยิดทรงไทยศิลปะสามชาติแห่งเดียวในประเทศไทย เรียนรู้วิถีชุมชนด้วยการลงมือทำและชิมอาหารถิ่นมุสลิมเปอร์เซียสำรับบ้านพระยาราชานุประดิษฐ์ ชมเจดีย์มรดกโลกแห่งวัดประยุรวงศาวาส และหาฝรั่งแบกคานในศาลเจ้ากวนอูที่เก่าแก่ที่สุดในฝั่งธนบุรี ทั้งนี้ทาง Scoot de Urban อาจไม่ได้ประกาศเปิดทัวร์บ่อยนัก แต่เน้นออกแบบเส้นทางตามความสนใจของลูกค้าแต่ละกลุ่มมากกว่า (www.facebook.com/scootdeurban)
E Scooter Tour Bangkok
ทัวร์สกูตเตอร์ไฟฟ้าที่จริงจังเรื่องอุปกรณ์สกูตเตอร์และการออกแบบประสบการณ์ให้ได้เห็นกรุงเทพฯ ในมุมที่ว้าวขึ้น โดยในส่วนของอุปกรณ์นั้นทาง E Scooter Tour Bangkok เลือกใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Xiaomi M365 รุ่นที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพ วิ่งกันได้ยาวๆ 30 กิโลเมตร มีระบบไฟ LED ด้านหน้าทำให้สามารถเป็นเส้นทางทัวร์กรุงเทพฯ ยามค่ำคืนได้อย่างปลอดภัย และนั่นก็ทำให้เส้นทางทัวร์สกูตเตอร์ยามค่ำคืนเป็นหนึ่งในเส้นทางไฮไลต์ จัดยาวๆ 3 ชั่วโมง ครบทั้งปากคลองตลาด สตรีทฟูด วัดโพธิ์ วัดอรุณฯ วัดประยูรฯ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางชมสตรีทอาร์ตกรุงเทพฯ โดยเฉพาะ และขยับไปทัวร์สีเขียวในพื้นที่บางกระเจ้า โดยก่อนทัวร์จะมีการสอนวิธีการขี่สกูตเตอร์และรู้จักท้องถนนในกรุงเทพฯ ล่าสุดยังเพิ่มเติม ทัวร์สเก็ตบอร์ดไฟฟ้า ในย่านชุมชนเก่าดินแดง-คลองสาน พร้อมนักสเกตบอร์ดมืออาชีพเป็นผู้นำทัวร์ (www.bangkokescooter.tours/th/)
สุดเอ็กซ์ตรีมกับกิจกรรม “ปีนผา-โรยตัว”
อีกกิจกรรมเอาต์ดอร์คาร์บอนต่ำมาก เพราะต้องใช้พลังกายและใจสู้ของเราล้วนๆ คือกิจกรรมปีนผา โรยตัว ซึ่งมีทั้งแบบพื้นที่จำลอง และความท้าทายท่ามกลางความสวยงามของธรรมชาติ และต่อไปนี้คือพิกัดที่ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กจุดปีนผา โรยตัวที่ธรรมชาติก็สวยปัง แถมมีความท้าทายรออยู่ที่ปลายทาง ต้องไปพิชิตให้ได้สักครั้ง
โรยตัว “ถ้ำน้ำบ่อผี” หลุมยุบที่ลึกที่สุดในไทย
ตำนานของที่สุดจุดหมายกิจกรรมโรยตัวที่ควรมาพิชิตให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องยกให้ ถ้ำน้ำบ่อผี อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน หลุมยุบที่ลึกที่สุดและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยบริเวณปากปล่องมีขนาดเท่ากับสนามฟุตบอล 2 สนาม ความลึกสู่ผืนดินด้านล่างอยู่ที่ประมาณ 185 เมตร และการจะลงไปสำรวจระบบนิเวศป่าด้านล่างมีหนทางเดียวนั่นคือ การโรยตัวลงไปในลักษณะของการค่อยๆ หย่อนตัวลงกลางอากาศ โดยมีเพียงคู่บัดดี้คือสตาฟที่มีความชำนาญประกบคู่กันไปตลอดทางโดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงก็ถึงก้นปล่อง จากนั้นสลับบรรยากาศมานอนค้างคืนกลางป่าที่มีเพียงการผูกเปลนอน ส่วนขากลับขึ้นไป เรียกว่า มาทางไหนก็ต้องกลับทางนั้น ทั้งนี้การพิชิตถ้ำน้ำบ่อผีต้องมีทีมไกด์ที่ชำนาญ พร้อมอุปกรณ์เซฟตี้อย่างดี และมีการฝึกการโรยตัวที่หน้าผาของจริง รวมระยะเวลาพิชิตถ้ำน้ำบ่อผีประมาณ 3 วัน 2 คืน โดยงดกิจกรรมในช่วงฤดูฝนและช่วงที่ฝนตกหนัก (สามารถสอบถามรายละเอียดและจองทัวร์ได้ที่ คุณพนา โทร.082-582-9338 )
ปีนผา “อ่าวไร่เลย์” แลนด์มาร์คกระบี่
อ่าวไร่เลย์ ชื่อนี้คือหนึ่งในแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวภาคใต้ของไทย ซึ่งไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามของเวิ้งอ่าวโค้งพร้อมหน้าผาเขาหินปูนสูงตระหง่านเป็นฉากหลัง แต่อ่าวไร่เลย์ยังมีกิจกรรมปีนผาที่โด่งดังระดับโลกจนกลายเป็นมิชชันของนักท่องเที่ยวต่างชาติว่ามาไร่เลย์แล้วต้องได้ปีนผาสักครั้งในชีวิต โดยที่นี่มีทั้งหน้าผาสำหรับนักปีนผาระดับมือสมัครเล่น และระดับผู้พิชิตให้ได้เลือก และใครที่มีประสบการณ์การปีนผาเป็นศูนย์ก็สามารถมาเริ่มต้นฝึกได้ที่นี่เช่นกัน โดยจุดปีนผาของอ่าวไร่เลย์มีหลายจุด แต่ที่นิยมคือไร่เลย์ฝั่งตะวันออก เพราะมีสภาพเขาหินปูนที่เหมาะสม ส่วนฝั่งไร่เลย์ตะวันตกเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตก ส่วนผู้ประกอบการที่ให้บริการปีนผานั้น มีไม่ต่ำกว่า 10 เจ้า สอบถามได้ที่ ททท.สำนักงานกระบี่ โทร. 075-622-163
สาริกา แอดเวนเจอร์ พอยท์
สำหรับใครที่อยากปีนผาโรยตัว แต่ยังไม่กล้าพอ และยังไม่ชัวร์ว่าร่างกายเราจะไหวกับสถานการณ์จริงไหม สามารถมาลองคลาสปีนหน้าผาจริงฉบับ Beginner ได้ที่ สาริกา แอดเวนเจอร์ พอยท์ จังหวัดนครนายก ซึ่งเมื่อเอ่ยถึงแบรนด์ สาริกา แอดเวนเจอร์ พอยท์ ก็แน่นอนว่าจัดเต็มกิจกรรมเอาต์ดอร์ทั้งล่องแก่ง แพยาง พายคายัก โหนสลิงข้ามแม่น้ำ ไปจนถึงปีนผาโรยตัว ซึ่งการโรยตัวก็มีทั้งระดับมือใหม่มาก ไม่ต้องเดินป่าลึก หน้าผาไม่ได้มีความชันมาก แค่ให้สัมผัสว่าการโรยตัวจะต้องใช้แรงหรือท่วงท่าประมาณนี้ ไปจนถึงการโรยตัวชมน้ำตกเหวนรกของจริงที่จะเพิ่มระดับความยากขึ้นมา (สอบถาม โทร. 061-639-4929)
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.