"นวลพรรณ ล่ำซำ" จากนักธรกิจ สู่ประมุขวงการลูกหนังไทย

"มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ คือนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล คนที่ 18 ของพงศาวดารวงการฟุตบอลไทย เธอคือผู้หญิงคนแรกที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในวงการฟุตบอลไทย แทนที่ของพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ นายกคนเดิมที่หมดวาระหลังทำหน้าที่นี้มา 8 ปี 

เปิด ประวัติ มาดามแป้ง

นวลพรรณ ล่ำซำ เกิดวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2509  มาดามแป้ง เป็นกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรรมการอิสระ บริษัท ​ดุสิตธานี​ จำกัด (มหาชน) ​กรรมการในคณะกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช​ กงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐลิทัวเนีย อดีตประธานสโมสรฟุตบอลการท่าเรือในไทยลีก ประธานกรรมการกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม และล่าสุดก็ได้รับตำแหน่ง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

มาดามแป้ง เป็นลูกสาวของโพธิพงษ์ ล่ำซำ กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กับยุพา ล่ำซำ เจ้าของเมืองไทยประกันภัย เป็นทายาทตระกูลล่ำซำรุ่นที่ 5 และมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของบัณฑูร ล่ำซำ ผู้บริหารธนาคารกสิกรไทย

ชื่อของ "มาดามแป้ง" ไม่ได้ใหม่ในวงการมาจากไหน เธอปรากฎอยู่ในแวดวงกีฬามาอย่างยาวนาน และฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนานเกือบ 20 ปีแล้ว 

ตำแหน่งแรกของเธอในวงการฟุตบอลคือการเป็น ผู้จัดการทีมนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย ในชุดที่ลงทำการแข่งขันกีฬาเฟสปิก ครั้งที่ 9 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นเอเชียนพาราเกมส์ จัดที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อปี พ.ศ. 2549

ถัดมาอีก 2 ปีคือปี 2551  เธอเข้ารับตำแหน่งผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิง และดูแลทุกชุด และได้สร้าประวัติศาสตร์ด้วยการพา"ทัพชบาแก้ว" ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย   ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้ถึง 2 สมัย เมื่อปี 2015 ที่แคนาดา และ 2019 ที่ฝรั่งเศส พร้อมทั้งดูและนักเตะหญิงในทีมหลายคนให้มีงานทำนอกจากเตะฟุตบอล

มีข้อมูลเผยมาว่าเธอหมดเงินไปหลักร้อยล้านบาทในการลงทุนลงแรงสร้างทีมฟุตบอลหญิง

ส่วนผลงานในทีมชาติไทย (ผู้ชาย) ชุดใหญ่ "มาดามแป้ง" เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมเมื่อปี 2564 นอกจากชุดใหญ่ เธอได้ดูแล ชุดรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ช่วงเวลาดังกล่าวทัพช้างศึก คว้าแชมป์ อาเซียน 2 สมัย และ พาทีมชาติไทยเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 ด้วยผลงานจบรอบแรกชนิดไร้พ่าย และ คลีนชีต 
 
ซึ่ง 2 ปีครึ่งในตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติไทย หมดเงิน 55,850,000 บาท

ก่อนที่เธอจะก้าวขึ้นมาเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 67 พร้อมทีมงานบิ๊กเนมที่เป็นฐานคะแนนเสียงช่วยกันทำงานอยู่เบื้องหลัง

ไม่ว่าจะเป็น  "เนวิน ชิดชอบ" ประธานสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นที่ปรึกษา อุปนายก 5 คน  ปวิณ ภิรมย์ภักดี,อรรณพ สิงห์โตทอง,  อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ,ชาญวิทย์ ผลชีวิน, วิลักษณ์ โหลทอง,มิตติ ติยะไพรัช รวมถึงปิยะพงษ์ ผิวอ่อน เป็นต้น