นักแกะสลักหิมะไทย โชว์บั้งไฟพญานาค คว้ารองแชมป์นานาชาติที่ญี่ปุ่น

นักแกะสลักหิมะไทย โชว์บั้งไฟพญานาค คว้ารองแชมป์นานาชาติที่ญี่ปุ่น

นักแกะสลักหิมะไทยพาผลงาน “The Naga Fireballs” คว้าที่ 2 จาก “Sapporo International Snow Sculpture ครั้งที่ 48” การแข่งขันระดับนานาชาติในเทศกาลหิมะที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น “Sapporo Snow Festival ครั้งที่ 74” ณ เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 3 - 7 กุมภาพันธ์ 2567   

ทีมนักแกะสลักไทยนำเสนอ ตำนานบั้งไฟพญานาค  จ.หนองคาย พร้อมโชว์ความประณีตอ่อนช้อยของผลงานเชิงพุทธศิลป์แบบช่างศิลป์ไทยสู่สายตานานาชาติ บรรจงแกะสลักน้ำแข็งก้อนยักษ์ให้กลายเป็นพญานาคสูงสง่าอลังการ จนคว้ารองแชมป์มาจนสำเร็จ The Naga Fireballs

ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ได้ส่งทีมแกะสสักหิมะตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมแข่งขันในงาน “International Snow Sculpture ครั้งที่ 48” ซึ่งนับเป็นกิจกรรมไฮไลต์อย่างหนึ่งภายใต้เทศกาลหิมะ “Sapporo Snow Festival ครั้งที่ 74” ณ เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 3 - 7 กุมภาพันธ์ 2567  โดยนับเป็นงานเทศกาลหิมะที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น

ยอดฝีมือ นักแกะสลักจากประเทศไทยทีมตัวแทนประเทศไทยที่ ททท. สนับสนุนให้เข้าแข่งขันในปีนี้ คือทีมที่ได้สร้างชื่อเสียงมาแล้วหลายครั้ง ประกอบด้วย กุศล บุญกอบส่งเสริม จากโรงแรมแชง-กรีล่า  อำนวยศักดิ์ ศรีสุข นักแกะสลักอิสระ และ กฤษณะ วงศ์เทศ นักแกะสลักอิสระ โดยร่วมเข้าแข่งขันกับตัวแทนจากต่างประเทศต่างๆ รวม 9 ทีม ได้แก่ ฮาวาย (สหรัฐอเมริกา) อินโดนีเซีย โปแลนด์ สิงคโปร์ พอร์ทแลนด์ (สหรัฐอเมริกา)  ลิทัวเนีย มองโกเลีย เกาหลีใต้ และประเทศไทย 

ในการแข่งขันแกะสลักหิมะครั้งนี้ ทีมแกะสลักหิมะตัวแทนประเทศไทยได้นำเสนอผลงานที่ชื่อว่า "The Naga Fireballs" หรือ "บั้งไฟพญานาค" โดยสร้างสรรค์ขึ้นจากเรื่องราวและความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคในรูปแบบของคนไทย ผลงานนี้เล่าเรื่องราวของพญานาคในบริบทของความเชื่อทางพุทธศาสนาและถูกสืบสานผ่านตำนานบั้งไฟพญานาคที่คนท้องถิ่นในภาคอีสานเชื่อว่าพญานาคเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำโขงและพญานาคในแม่น้ำโขงเป็นผู้จุดบั้งไฟนี้เพื่อบูชาพระพุทธเจ้าในวันออกพรรษานอกจากเรื่องความเชื่อและความศรัทธาแล้วพญานาคในผลงานชิ้นนี้จึงยังสะท้อนถึงความเชื่อมโยงระหว่างสายน้ำ วิถีชีวิต และวัฒนธรรมของคนไทย นอกจากนี้ ทีมช่างแกะสลักยังตั้งใจออกแบบและแกะสลักลวดลายให้ละเอียดอ่อนประณีต เพื่อนำเสนอความสวยงามของจิตรกรรมและประติมากรรมเชิงพุทธศิลป์แบบไทย

ส่วนผู้ชนะรางวัลครั้งนี้อันดับ 1 คือ มองโกเลีย อันดับ 2 ประเทศไทย และอันดับ 3 เกาหลีใต้

การส่งตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักหิมะ เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ ททท. สนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2534 โดยครั้งนี้นับเป็นการส่งตัวแทนเข้าแข่งขันครั้งที่ 21 โดยการที่ช่างแกะสลักตัวแทนประเทศไทยได้รับรางวัลชนะเลิศ (Champion) รวมทั้งสิ้น 9 ครั้ง และคว้ารางวัลชนะเลิศติดต่อกัน 3 ปีซ้อน (Grand Champion) จำนวนถึง 2 ครั้ง อย่างที่ไม่มีตัวแทนของประเทศอื่นสามารถทำได้มาก่อน ถือเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างชัดเจนถึงความสามารถของช่างศิลป์ไทย และเป็นการเผยแพร่เอกลักษณ์งานศิลป์แบบไทยที่เป็นภูมิปัญญาสืบทอดกันมาแต่ช้านานผ่านงานเทศกาลระดับโลก นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทีมตัวแทนประเทศไทยยังได้รับความสนใจอย่างมากจากชาวญี่ปุ่นผู้ติดตามให้กำลังใจ ตลอดจนสื่อมวลชนของญี่ปุ่นและต่างประเทศ

โดยในปีนี้ สำนักข่าว NHK WORLD-JAPAN และ TV Asahi ได้เตรียมนำเสนอเนื้อหาพิเศษเกี่ยวกับทีมแกะสลักหิมะไทยเพื่อเผยแพร่ไปยังผู้ชมชาวญี่ปุ่นทั่วประเทศ รวมถึงยังมีการนำเสนอผ่าน Hokkaido Newspaper ที่มียอดตีพิมพ์ 800,000 ฉบับต่อวัน ถือเป็นการสร้างชื่อเสียงและช่วยดึงดูดชาวญี่ปุ่นให้สนใจมาท่องเที่ยวประเทศไทยได้ในอนาคตด้วย

ทั้งนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพของไทย โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางเข้าประเทศไทยกว่า 800,000 คน เติบโตร้อยละ 180 เมื่อเทียบกับปี 2565 ซึ่งติด 10 อันดับประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยสูงที่สุดในปี 2566

 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.