BELL’S PALSY หน้าเบี้ยวครึ่งซีก แต่ไม่น่ากลัว

กรมการแพทย์ โดยสถาบันประสาทวิทยา เตือนอาการอ่อนแรง บริเวณใบหน้าครึ่งซีก ใบหน้าเบี้ยว หลับตาไม่สนิท ปากเบี้ยว มีน้ำไหลมุมปาก การรับรสผิดปกติ หูอื้อข้างเดียว เกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7

นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า อาการปากเบี้ยวหรือหน้าเบี้ยวครึ่งซีก (Bell’s palsy) คือ ภาวะที่กล้ามเนื้อใบหน้าข้างใดข้างหนึ่งทำงานผิดปกติ โดยมีสาเหตุมาจากการอักเสบของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ซึ่งในภาวะปกติ เส้นประสาทนี้จะทำหน้าที่การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อใบหน้าเพื่อแสดงอารมณ์ การหลับตาลืมตา การอ้าปากหรือปิดปากเวลาอมน้ำบ้วนปากแปรงฟัน

นอกจากนี้ เส้นประสาทเส้นดังกล่าวยังไปเลี้ยงกล้ามเนื้อที่ยึกกระดูกหูชั้นใน ทำหน้าที่รับรสด้วย เมื่อมีการอักเสบเกิดขึ้น จะทำให้ความสามารถปกติเหล่านี้สูญเสียไป ผู้ป่วยจะหลับตาไม่สนิท ขยับมุมปากไม่ได้ ทำให้การออกเสียงพยัญชนะที่ต้องใช้ริมฝีปากผิดปกติ โดยมากผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดศีรษะบริเวณขมับหรือใบหูข้างที่เกิดอาการนำมาก่อนไม่กี่วัน

หลังจากนั้นจะเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติเกิดขึ้นทีละน้อย และเห็นชัดเจนภายใน 48 ชั่วโมง ซึ่งสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด บางส่วนพบว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัสอีสุกอีไส เชื้อเริมที่เส้นประสาท บางส่วนเกิดการอักเสบตามหลังการติดเชื้อไวรัสที่คอหรือทางเดินหายใจส่วนบน โดยมักจะพบมากใน ผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอ เช่น หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ ผู้ที่รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน เป็นต้น

นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีกเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยเส้นประสาทจะสามารถฟื้นตัวเต็มที่ภายใน 3 เดือน แพทย์ผู้ตรวจรักษา จะวินิจฉัยจากการซักประวัติ ตรวจร่างกาย เพื่อให้การวินิจฉัย แต่เนื่องจากอาการหน้าเบี้ยวครึ่งซีก อาจเป็นอาการแสดงของโรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke ได้ หากอาการก้ำกึ่งหรือมีความจำเป็นต้องแยก อาจจำเป็นต้องตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น การทำงานของประสาท (EMG) ส่วนของการรักษาโรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก

หากตรวจพบอาการแสดงของไวรัสอีสุกอีใสหรือเชื้อเริม จะให้ยารักษาไวรัส แต่หากไม่พบสาเหตุของการอักเสบ แต่ผู้ป่วยมารับการตรวจรักษาเร็ว อาจจะพิจารณาให้ยาสเตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบ ซึ่งจะช่วยให้ระยะเวลาในการฟื้นตัวสั้นลง แต่ทั้งนี้ ผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูเส้นประสาทร่วมด้วย เมื่อผ่านพ้นช่วงเวลาฟื้นตัวแล้ว แต่การฟื้นตัวไม่มาก ปัจจุบันสามารถผ่าตัดย้ายเส้นประสาทได้

นอกเหนือจากความผิดปกติของกล้ามเนื้อใบหน้าแล้ว อาการหลับตาไม่สนิท เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการตาแห้ง เคืองตา หรือตาอักเสบได้ ดังนั้นผู้ป่วยจะได้รับน้ำตาเทียมเพื่อหล่อเลี้ยงดวงตา และขี้ผึ้งป้ายตาเวลานอน เพื่อป้องกันตาแห้งและตาอักเสบด้วย ในช่วงกลางวัน ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ควรปิดตาข้างที่มีอาการ หรือใส่แว่นกันแดดเพื่อลดอาการเคืองตา หากมีอาการหน้าเบี้ยว จึงควรรีบไปโรงพยาบาลให้เร็ว เพื่อตรวจวินิจฉัยแยกจากภาวะโรคหลอดเลือดสมอง แม้ท้ายที่สุดจะตรวจพบว่าเป็นโรค Bell’s Palsy ก็จะได้รับการรักษาเร็ว ซึ่งช่วยให้เส้นประสาทฟื้นตัวได้ดีและเร็วขึ้นด้วย

แหล่งที่มา: กรมการแพทย์

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.