5 พฤติกรรมการกินที่ควรเปลี่ยนเมื่ออายุ 30
เมื่ออายุ 30 ปีไปแล้วร่างกายเริ่มเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง การเผาผลาญเริ่มช้าลง ระบบย่อยอาหารทำงานไม่เหมือนเดิม ฮอร์โมนเริ่มเปลี่ยนแปลง ส่งผลต่อน้ำหนัก รูปร่างและสุขภาพโดยรวม ดังนั้นการปรับเปลี่ยนการกินเมื่ออายุ 30 ปีแล้วเป็นสิ่งจำเป็น และนี่คือ 5 พฤติกรรมการกินที่ควรเปลี่ยนเมื่ออายุ 30
5 พฤติกรรมการกินที่ควรเปลี่ยนเมื่ออายุ 30
ก่อนอายุ 30 คุณอาจทานอะไรก็ได้ตามใจที่อยากทาน โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบของสิ่งที่รับประทาน แต่เมื่ออายุ 30 ปี เกิดการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลายอย่าง และนี่คือพฤติกรรมการกินที่เราควรปฏิบัติเมื่ออายุ 30
1.เพิ่มไฟเบอร์ ชีวิตยืนยาว แข็งแรง
ไฟเบอร์ไม่ได้แค่ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายเท่านั้น งานวิจัยล่าสุดเผยว่า การกินไฟเบอร์มากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยทุก 8 กรัมของไฟเบอร์ ช่วยลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังได้ 5-27% ยิ่งกินไฟเบอร์ 25-29 กรัมต่อวัน ยิ่งดี คนวัย 30 ขึ้นไป ควรกินไฟเบอร์วันละ 25-31 กรัม แต่คนไทยส่วนใหญ่กินแค่ 11-15 กรัม
2.โอเมก้า-3 : อาวุธลับชะลอวัย เสริมสมอง ยิ่งกินยิ่งดี
วัย 30 ควรโฟกัสเพิ่มโอเมก้า-3 ในอาหาร เพราะช่วยทั้งสุขภาพระยะสั้น เช่น อารมณ์ดี สมองแจ่ม ลดการอักเสบ และสุขภาพระยะยาว ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ป้องกันสมองเสื่อม แถมยังสำคัญสุดๆ ต่อพัฒนาการสมองของลูกน้อย โอเมก้า-3 มาจากปลาทะเลไขมันสูงอย่างแซลมอน ปลาซาร์ดีน แต่กินพืชอย่างวอลนัท เมล็ดเจีย เน้นกินอาหารเป็นหลักก่อน ง่ายๆ แค่สัปดาห์ละมื้อแซลมอน โรยเมล็ดแฟลกซ์ เมล็ดเจียในโจ๊กโยเกิร์ต หรือเลือกวอลนัท พีแคนเป็นของว่าง อร่อย ดีต่อสุขภาพเพียบ
3. กินดี อยู่นาน
ช่วงวัย 30 ช่วงสร้าง "ไลฟ์สไตล์กินดี อยู่นาน" แทนการพยายามลดน้ำหนักแบบใช้ยาควบคุม การลดน้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว มักจบลงที่น้ำหนักตีกลับ แถมกลับมาเกินกว่าเดิมด้วยซ้ำ นี่แหละโยโย่ไดเอ็ท แถมซึมเศร้าอีก เพิ่มความเสี่ยงเบาหวาน โรคหัวใจ นอกจากนั้นการ"วิจัยชี้ 95% ของคนที่โยโย่ สุดท้ายน้ำหนักกลับเกินเดิม และ 67% เกินกว่าเดิมทุกครั้ง! แถมเผาผลาญช้าลงอีก"
4.คลายเครียดแบบใหม่ ไร้แอลกอฮอล์ วัย 30 ยิ้มสดใส แข็งแรงจากภายใน
เคยชินกับการสังสรรค์ผ่อนคลายด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ ใช่ไหม? พอเข้าวัย 30 อาจถึงเวลาเปลี่ยนนิสัยแล้วล่ะ การติดนิสัยดื่มแอลกอฮอล์จากสมัยเรียน อาจส่งผลต่อสุขภาพระยะยาวได้นะ ลดเหล้าลงหน่อย ช่วยให้นอนหลับสบาย มีพลังงาน แถมตัดแคลอรี่ได้อีกด้วย หลักการง่ายๆ ตามแนวทางโภชนาการ 2020-2025 ผู้ชายดื่มได้ไม่เกินวันละ 2 ดื่ม ผู้หญิงวันละ 1 ดื่ม (1 ดื่ม = เบียร์ 12 ออนซ์ ไวน์ 5 ออนซ์ เหล้า 1.5 ออนซ์)
นอกจากแคลอรี่แล้ว แอลกอฮอล์ยังเพิ่มความเสี่ยงโรคความดันโลหิตสูง หัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคตับ และมะเร็งอีกด้วย เลิกมองเครื่องดื่มเป็นทางออก ลองหาความผ่อนคลายแบบใหม่ เช่น ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ ฟังเพลง สุขภาพดี แถมสดใส วัย 30 กำลังดี
5.ไส้กรอก เบคอน เสี่ยงมะเร็งลำไส้! โปรตีนทางเลือกดีกว่า
ไส้กรอก เบคอน ฮอทดอก ของโปรดวัยรุ่น ยิ่งกิน ยิ่งเสี่ยงมะเร็งลำไส้ กินเนื้อแปรรูป 50 กรัมต่อวัน (ประมาณฮอทดอก 1 ลูก) เสี่ยงมะเร็งลำไส้เพิ่ม 16% ตามรายงานปี 2017 ของสถาบันวิจัยมะเร็งสหรัฐฯ ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ คือ เหล้าวันละ 2 แก้ว น้ำหนักเกิน กินเนื้อแดงเกิน 18 ออนซ์ต่อสัปดาห์ และขาดออกกำลังกาย แต่หากกินธัญพืชไม่ขัดสีวันละ 3 รอบ ช่วยลดเสี่ยงมะเร็งลำไส้ 17% เพราะไฟเบอร์ช่วยระบบขับถ่าย ทำให้แบคทีเรียดีในลำไส้เติบโต ลดการอักเสบ แถมป้องกันโรคเรื้อรังต่างๆ อีกด้วย
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.