ธัญ (THANN) ร่วมกับ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช เผยศาสตร์แห่งการใช้กลิ่นหอม

“กลิ่นส่งผลต่อความทรงจำของเรามากที่สุด” เป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกับความทรงจำระยะยาวที่เกี่ยวข้องกับการจดจำประสบการณ์ต่างๆ ผ่านความรู้สึกนึกคิดและจินตนาการสร้างเป็นเรื่องราวผสมกับความทรงจำของกลิ่นที่ได้สัมผัส หลายคนอาจมีคำถามว่าทำไมกลิ่นถึงกระตุ้นความทรงจำเราได้ดี นั่นเพราะว่าสมองกลีบหน้าของเรานั้นเชื่อมต่อตรงเข้ากับประสาทการรับกลิ่น ทำให้ทุกครั้งที่ได้กลิ่นเรามักจะนึกถึงความทรงจำนั้นได้ดีกว่าการมองเห็นหรือได้ยินอยู่เสมอ นอกจากนี้กลิ่นหอมยังส่งผลต่อการเรียนรู้ที่ทำให้สมองเกิดการพัฒนา หากได้รับการกระตุ้นอย่างสม่ำเสมอ สมองก็พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ รอบตัวได้ดีขึ้น ทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับสังคม สิ่งแวดล้อมและคนรอบข้างได้ดี ‘ธัญ’ (THANN) แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผมร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวช พญ.ดุจฤดี อภิวงศ์ แนะนำ “ศาสตร์แห่งการใช้กลิ่นหอม ทางเลือกเพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมอง” กับผลิตภัณฑ์ อาทิ ‘น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ’ (Pure essential oil), ‘ก้านไม้หอม’ (Aroma diffuser), ‘เครื่องกระจายกลิ่นหอม’ ( Electric aroma diffuser) และ เครื่องกระจายกลิ่นหอมภายในรถ (Car Diffuser) โดยมีเหล่าเซเลบริตี้สาวสวยมาร่วมเผยวิธีเลือกใช้กลิ่นหอมที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตน อาทิ อัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ, พรรษมน พิริยะเมธา และ แม้นวาด นาครทรรพ

พญ.ดุจฤดี อภิวงศ์ แนะนำศาสตร์แห่งการใช้กลิ่นหอม ทางเลือกเพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานของสมองว่า “กลิ่นและความทรงจำมีความเชื่อมโยงต่อกัน โดยกลิ่นจะไปกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนความทรงจำ หรือฮิปโปแคมปัส (Hippocampus) และสมองส่วนควบคุมอารมณ์และความรู้สึก (Limbic system) ทำให้เกิดการจดจำสิ่งที่เห็นกับกลิ่นที่ได้สัมผัส เมื่อเราได้กลิ่นนั้นอีกครั้งก็จะทำให้เราย้อนคิดถึงความทรงจำเก่าๆ ซี่งประกอบด้วยภาพ ความรู้สึกและเสียงในตอนนั้นได้

เพียงไม่กี่วินาทีที่จมูกได้รับกลิ่น กลิ่นจะถูกส่งผ่านประสาทรับกลิ่น (Olfactory Nerves) ที่อยู่เหนือโพรงจมูกไปยังกระเปาะรับกลิ่น (Olfactory Bulbs) และส่งต่อไปยังสมองส่วนควบคุมอารมณ์และความรู้สึก (Limbic System) อณูของน้ำมันหอมระเหยจะกระจายไปตามประสาทรับกลิ่นเข้าสู่สมองส่วนที่ควบคุมอารมณ์และความรู้สึก (Emotion Center หรือ Limbic System) โดยไปกระตุ้นให้สมองสั่งการไปที่ระบบต่อมไร้ท่อ เพื่อหลั่งสารสื่อประสาทที่มีประโยชน์และมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึก โดยประสาทรับกลิ่นเป็นประสาทสัมผัสที่ส่งผลตรงต่อสมองส่วนความจำ (Hippocampus) สามารถกระตุ้นความทรงจำที่มีความเกี่ยวข้องกับอารมณ์ รวมถึงกระตุ้นความสามารถในการใช้ทักษะด้านภาษา

การสูดดมกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติยังส่งผลต่อสมองส่วนรู้คิด (Cognition) ซึ่งมีความสัมพันธ์กับระบบความจำ (Memory) เกี่ยวกับการจดจำคำศัพท์หรือสิ่งของในระยะสั้น (Verbal Learning) และสมองส่วนอารมณ์นี้มีผลต่อสมองส่วนคอร์เทกซ์กลีบหน้าผากส่วนหน้า (Prefrontal cortex) ซึ่งเป็นสมองส่วนสำคัญที่ทำงานเกี่ยวกับความคิดขั้นสูง การวางแผน การตัดสินใจ รวมถึงการเรียนรู้ นอกจากนี้กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับของคลื่นสมอง (Brain Wave) ได้เช่นกัน อาทิ

  • กลิ่นลาเวนเดอร์ (Lavender) และกลิ่นไม้จันทน์หอม (Sandalwood) ช่วยเพิ่มคลื่นอัลลฟ่า (Alpha waves) ทำให้เกิดความสงบและผ่อนคลาย ส่งผลให้สมองมีความสามารถในการรับรู้ข้อมูลและจดจำได้ดี
  • กลิ่นมะลิ (Jasmine) กลิ่นโรสแมรี (Rosemary) จะเพิ่มระดับคลื่นเบต้า (Beta waves) ช่วยกระตุ้นให้เกิดความตื่นตัว การเรียนรู้และจดจำ รวมถึงการใช้ความคิดที่มีความซับซ้อน
  • กลิ่นดอกส้ม (Orange blossom) หรือเนโรลี (Neroli), กลิ่นกุหลาบ (Rose) เพิ่มระดับคลื่นเดลต้า (Delta waves) ช่วยให้นอนหลับลึก หลับสนิท เมื่อร่างกายหลับสนิทก็ส่งผลให้ระบบความจำดีขึ้นตามไปด้วย

ปัจจุบันก็มีตัวอย่างงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในปี 2023 โดยนิตยสารฟรอนเทียร์ (Frontiers in Nouroscience) เกี่ยวกับผลการวิจัยของนักประสาทวิทยาของศูนย์ประสาทวิทยาของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เออร์ไวน์ เกี่ยวกับผลของการสูดดมน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ เพื่อบำบัดความจำและระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการรับกลิ่นในกลุ่มผู้สูงอายุ 60-85 ปี จำนวน 43 คน โดยแต่ละคนจะได้สูดดมน้ำมันหอมระเหยในช่วงกลางคืนก่อนนอนทุกวัน วันละ 2 ชั่วโมง และจะมีการเปลี่ยนกลิ่นให้แตกต่างในแต่ละวัน จากนั้นก็วัดผลด้วยวิธี Functional MRI (fMRI) และผลการทดสอบทางจิตวิทยา เป็นระยะเวลา 6 เดือน พบว่าสามารถกระตุ้นความสามารถในการรับรู้ ความจำ และความคิดเพิ่มขึ้นถึง 226% เมื่อเทียบกลับกลุ่มที่ได้สูดดมน้ำมันหอมระเหยเพียงเล็กน้อย

นอกจากนี้การใช้กลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) ด้วยน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติจากพืชยังได้ถูกนำใช้กับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีภาวะนอนหลับยาก โดยการสูดดมน้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์ (Lavender) เป็นเวลา 5 นาทีก่อนนอนทุกวัน จะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายและหลับได้ดีขึ้น นอกจากนี้การบำบัดด้วยกลิ่นยังถูกใช้ในการช่วยฟื้นฟูความทรงจำในระยะสั้น และได้รับความนิยมนำมาใช้เพื่อบำบัดรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาทางสมอง อาทิ โรคอัลไซเมอร์ หรือโรคทางจิตอีกด้วย”

ธัญ (THANN) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ผสานคุณค่าแห่งพืชพรรณจากแหล่งธรรมชาติชั้นดีทั่วโลกและเทคโนโลยีอันทันสมัย ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา THANN มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผสานเทคโนโลยีชั้นนำ ผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่าง Spincontrol Asia Co.,Ltd. (France), Skinnova Lab Co.,Ltd. และ Dermscan Asia อาทิ Dermatological test, Irritation test และ Efficacy test เพื่อยืนยันในคุณภาพและประสิทธิภาพเพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม โดยปัจจุบันมีกว่า 90 สาขา รวมถึงสปาอีก 15 แห่งใน 3 ทวีป ได้แก่ เอเชีย อเมริกา และยุโรป

การใช้ประโยชน์จากกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ (Essential Oil) เป็นศาสตร์แห่งการใช้กลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) เพื่อสร้างความผ่อนคลาย ถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 6,000 ปี ตั้งแต่สมัยกรีก โรมัน และอียิปต์ มาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ประโยชน์ของน้ำมันหอมระเหย นอกจากจะช่วยเรื่องการนอนหลับแล้ว ยังสามารถช่วยสร้างสมาธิในการทำงาน สร้างบรรยากาศผ่อนคลายโดยสามารถเลือกเปลี่ยนกลิ่นได้ตามอารมณ์ความต้องการ รวมถึงใช้มอบเป็นของขวัญให้กับคนพิเศษได้อีกด้วย

กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติไม่เพียงสร้างความพึงพอใจเพียงอย่างเดียว แต่ยังแฝงคุณค่าในการฟื้นฟูสภาพจิตใจและอารมณ์ตามคุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิด อ้างอิงตามหลักการของกลิ่นหอมบำบัด (Aromatherapy) การใช้น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งที่สามารถสร้างความผ่อนคลาย ปรับสมดุลอารมณ์และความรู้สึก และช่วยให้ระบบการทำงานของสมองดีขึ้น ได้แก่ น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ (Pure essential oil) น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ 100% แต่งเติมความหอมหลากหลายรูปแบบสามารถใช้งานร่วมกับเครื่องกระจายกลิ่นหอมเพื่อรังสรรค์บรรยากาศความสุขภายในบ้านได้อย่างมีรสนิยม มีให้เลือก 2 ขนาด ขนาด 10 มล. ราคา 990 บาท และ ขนาด 50 มล. ราคา 2,050 บาท และมีให้เลือก 6 กลิ่น ได้แก่ กลิ่นอะโรมาติก วูด ( Aromatic wood), กลิ่นโอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence), กลิ่นอีสเทิร์น ออร์ชาร์ด (Eastern Orchard), กลิ่นอีเดน บรีซ (Eden Breeze), กลิ่นเอิร์ลเกรย์ อินฟิวชั่น (Earl Gray Infusion) และกลิ่นดอกลาเวนเดอร์และโรสแมรี่ (Lavender & Rosemary) 

ก้านไม้หอม (Aroma diffuser) ขนาด 150 มล. ราคา 1,650 บาท มอบกลิ่นหอมนุ่มนวลจากน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานได้มากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ตกแต่ง และสร้างบรรยากาศที่ดีให้กับห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น โต๊ะทำงาน หรือห้องนอน มีให้เลือก 4 กลิ่น อาทิ อะโรมาติก วูด ( Aromatic wood), โอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ (Oriental Essence), อีเดน บรีซ (Eden Breeze) และ เอิร์ลเกรย์ อินฟิวชั่น (Earl Gray Infusion)

เครื่องกระจายกลิ่นหอม (Electric aroma diffuser) ราคา 4,390 บาท เครื่องกระจายกลิ่นหอมทำงานด้วยกลไกการกระจายความหอมแบบ Ultrasonic Water – Oxygen โดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงถึง 2.5 ล้านรอบ/วินาที ทำให้น้ำแตกตัวเป็นไอเย็นที่มีโมเลกุลขนาดเล็กเพียง 5 ไมครอน นำพาน้ำมันหอมระเหยขึ้นสู่อากาศ กลิ่นหอมจึงกระจายตัวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการทำงานแบบไม่ใช้ความร้อนจึงปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว มาพร้อมกับ 2 ฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ได้แก่ โหมดทำงานแบบต่อเนื่อง (Green Light) ตัวเครื่องจะทำงานต่อเนื่อง 3 ชั่วโมง เมื่อเสร็จการทำงานเครื่องจะปิดแบบอัตโนมัติ และโหมดควบคุมจังหวะการทำงาน (Orange Light) ตัวเครื่องจะพ่นควัน 1 ครั้ง สลับกับการหยุด 30 วินาที สามารถใช้ได้ต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมง

เครื่องกระจายกลิ่นหอมภายในรถ (Car aroma diffuser) ราคา 990 บาท รังสรรค์บรรยากาศความหอมภายในรถยนต์ด้วย Car Aroma Diffuser ได้ง่ายๆ เพียงหยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่คุณชื่นชอบ และนำเครื่องกระจายกลิ่นหอมภายในรถไปเสียบกับตำแหน่งช่องแอร์ในรถยนต์

ด้านเซเลบริตี้ต่างร่วมทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมเผยเผยวิธีเลือกใช้กลิ่นหอมที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนเอง เริ่มที่สาวแฟชั่นนิสต้า อัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ กล่าวว่า “ในชีวิตประจำวันของเราค่อนข้างแน่นไปด้วยตารางงาน ทั้งธุรกิจส่วนตัวและออกงานสังคม หลายครั้งก็เกิดความเครียดและวิตกกังวลได้ง่าย เนื่องจากบางครั้งงานก็ไม่ได้ออกมาอย่างที่เราคาดหวังไว้ ยิ่งในวันที่ต้องมีหลายๆ งาน ทั้งเดินทางเปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนชุด ด้วยความเร่งรีบ บางครั้งเจออากาศร้อนๆ ก็ทำให้เราเครียดและอารมณ์หงุดหงิดได้โดยไม่รู้ตัว แต่เราก็มีวิธีรับมือกับความเครียดด้วยการใช้กลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติของธัญ อย่างกลิ่นที่ชอบจะเป็นกลิ่นโอเรียนทอล เอสเซ้นซ์ นอกจากกลิ่นหอมสดชื่นที่ได้แล้วยังทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เหมือนได้ไปพักผ่อนที่ต่างจังหวัด และเป็นกลิ่นที่สื่อถึงความผ่อนคลายแบบที่เราไปเข้าสปา โดยกลิ่นนี้เราจะชอบใช้กับห้องนั่งเล่นเป็นหลัก ส่วนห้องนอนก็จะเป็นอีกกลิ่นคือ กลิ่นดอกลาเวนเดอร์และโรสแมรี่ เป็นกลิ่นหอมแบบสบายๆ โดยกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์จะช่วยให้หลับสบาย กลิ่นนี้จึงเหมาะสำหรับห้องนอน

ครอบครัวของเราให้ความสำคัญกับเรื่องของกลิ่นมากๆ เพราะกลิ่นต่างๆ มันอยู่รอบตัวเรา ดังนั้นเราจึงสร้างบรรยากาศความหอมด้วยเครื่องกระจายกลิ่นหอมให้กับพื้นที่ใช้งานส่วนต่างๆ ของบ้าน เพราะเรารู้ดีว่าแต่ละกลิ่นหอมให้ความรู้สึกต่างกัน ทั้งช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย คลายความวิตกกังวล รวมถึงกระตุ้นความสดชื่นมีชีวิตชีวา”

ถัดมาที่คุณแม่ยังสาว พรรษมน พิริยะเมธา เผยว่า “ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่ออารมณ์และความเครียดของเราส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องการทำงาน เพราะต้องวางแผนการทำงานให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลาและต้องบรรลุเป้าหมายของงานด้วย ทำให้เราเกิดความเครียดค่อนข้างมาก รวมถึงเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทางออกไปข้างนอกที่ต้องเจอกับสภาพการจราจรที่ติดขัดอยู่บนท้องถนนนานๆ ยิ่งทำให้รู้สึกหงุดหงิดง่ายโดยไม่รู้ตัว ซึ่งต่างจากการเลี้ยงลูกกลับไม่ทำให้เรารู้สึกเครียดเลย แต่กลับทำให้รู้สึกสนุกและมีความสุขที่ได้ดูแลให้เค้าได้เติบโต หากวันไหนที่เรารู้สึกเหนื่อยล้า สิ่งแรกที่นึกถึงก่อนเลย คือ การสร้างบรรยากาศความหอมด้วยกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ โดยส่วนตัวพัดชอบกลิ่น เอิร์ลเกรย์ อินฟิวชั่น โดยมักจะวางก้านไม้หอมไว้ในห้องน้ำ ส่วนในห้องนอนก็จะเป็นเทียนหอม ส่วนห้องนั่งเล่นก็จะใช้เป็นเครื่องกระจายกลิ่นหอม และในรถยนต์ก็จะใช้เป็นเครื่องกระจายกลิ่นหอมภายในรถ การใช้กลิ่นหอมนอกจากจะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายแล้ว กลิ่นหอมยังช่วยสร้างพัฒนาการที่ดีให้กับลูกน้อยด้วย นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญเรื่องกลิ่นกับธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับรถลีมูซีนด้วย เพราะกลิ่นเป็นสิ่งแรกที่ทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและความรู้สึกดีกับเรา เวลาที่ลูกค้าได้กลิ่นนี้อีกครั้งก็ทำให้ลูกค้านึกถึงเราได้อีกด้วย”

ปิดท้ายที่สาวสังคม แม้นวาด นาครทรรพ เล่าว่า “เราเป็นคนที่ใช้ความคิดเยอะและเครียดง่าย เพราะต้องวางแผนงานตลอดเวลาว่าวันนี้จะทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ แน่นอนว่าเราก็มีตัวช่วยในการสร้างความผ่อนคลายด้วยกลิ่นหอมๆ ของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ อย่างกลิ่นที่ชอบจะเป็น อะโรมาติก วูด นอกจากจะให้ความสดชื่นมีชีวิตชีวาจากกลิ่นของผลส้มแล้วยังมีกลิ่นของไม้หอมอย่างไม้จันทน์ด้วย เราจะวางเครื่องกระจายกลิ่นหอมไว้ในห้องนั่งเล่น เพราะตัวเครื่องสามารถช่วยกระจายกลิ่นหอมได้ดี และใช้งานง่าย ส่วนในห้องน้ำก็จะมีก้านไม้หอม และเทียนหอม ช่วยสร้างบรรยากาศ ส่วนตัวเรามองว่ากลิ่นหอมมีความสัมพันธ์กับความทรงจำ เพราะเราชอบจดจำสถานที่สำคัญ เหตุการณ์สำคัญด้วยกลิ่น เวลาได้กลิ่นก็จะทำให้หวนนึกถึงเหตุการณ์และสถานที่นั้นๆ เกิดเป็นความทรงจำและความรู้สึกที่ดีตลอด”

สัมผัสประสบการณ์ความหอมของน้ำมันหอมระเหยธรรมชาติกับผลิตภัณฑ์ ‘น้ำมันหอมระเหยธรรมชาติ’ (Pure essential oil), ‘ก้านไม้หอม’ (Aroma diffuser), ‘เครื่องกระจายกลิ่นหอม’ (Electric Aroma diffuser) และ เครื่องกระจายกลิ่นหอมภายในรถ (Car Diffuser) ได้แล้ววันนี้ที่ ออนไลน์สโตร์  www.thann.co.th (ส่งฟรีทั่วประเทศ) และร้าน ‘ธัญ’ (THANN) ทั้ง 12 สาขาทั่วประเทศ อาทิ สาขาสุขุมวิท 47, ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ, ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม, ชั้น 1 และชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์, ชั้น 4 ไอคอน สยาม, ร้านวูว์ ถนนเจริญราษฎร์ และสาขาถนนพระปกเกล้า (ตรงข้ามวัดเจดีย์หลวง) จังหวัดเชียงใหม่, สาขาป่าตอง (หน้าโรงแรม La Flora ป่าตอง) จังหวัดภูเก็ต และ ธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น จ.พระนครศรีอยุธยา

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.