เปิด 5 เหตุผล ลิเวอร์พูล บุกแพ้ส่งท้าย ยูฟ่า ยูโรปา ลีก

ฟุตบอลยูฟา ยูโรปา ลีก นัดส่งท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ลิเวอร์พูล ยอดทีมจากอังกฤษ บุกไปแพ้  อูนิโอน แซงต์-ชิลลัวส์ ถึงสวิตเซอร์แลนด์ 1-2 

เกมนี้เจอร์เกน คล็อปป์ ส่งเด็กดาวรุ่งและสำรองลงสนามหลายคน มีตัวเก๋าๆลงสนามแค่ 3 ตำแหน่งอย่าง อิบราฮิมา โคนาเต้ , ฮาร์วีย์ เอลเล็ยตต์ และโคดี้ คักโป ค่าเฉลี่ยอายุนักฟุตบอลในทีม"หงส์แดง"เมื่อคืนอยู่ที่ 22 ปี 156 วันเท่านั้น

และนี่คือ 5 เหตุผลที่บอกว่าทำไม ลิเวอร์พูล ที่แพ้ยากแพ้เย็นในลีก แต่บุกไปแพ้ในเกมยูโรปา ลีก
 

1.เข้ารอบแล้ว จัดเด็กลงหาประสบการณ์

สถานการณ์ของ ลิวเอร์พูล ในกลุ่ม อี ของฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก พวกเขาเข้ารอบไปตั้งแต่หลังจบเกมนัดรองสุดท้าย และด้วยโปรแกรมที่แน่นเอี๊ยดในช่วงระหว่างวันที่ 30 พ.ย. ถึง 1 ม.ค. ที่หงส์แดงต้องเล่นถึง 10 นัด

ทำให้เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องเลือกพักแข้งซีเนียร์อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ , เฟอร์จิล ฟาน ไดจค์ , เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ รวมถึง อลิสซอน เบ็คเกอร์ ทั้ง 4 คนนี้หายจากทีมออกไปเลยไม่มีชื่อแม้แต่ตัวสำรอง

ส่วน 3 ตัวเก๋าที่ลงประคองทีมใน 3 ตำแหน่งได้แก่ อิบราฮิมา โคนาเกต้ (กองหลัง) ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ (กลาง) และโคดี้ คักโป (หน้า) ที่เหลือคือตัวสำรองและดาวรุ่งไม่ว่าจะเป็น วาตารุ เอ็นโด , จาร์เวลล์ คอนซ่า , เคอร์ติส โจนส์ , เบน โด๊ค รวมถึง เคด กอร์ดอน ค่าเฉลี่ยอายุนักฟุตบอลในทีม"หงส์แดง"ของเกมที่บุกไปเยือนสวิตเซอร์แลนด์ อยู่ที่ 22 ปี 156 วันเท่านั้น

2 พักตัวหลักไว้บด"แดงเดือด"

ศึกหนักนัดแรกในซีรีย์โหดของลิเวอร์พูล คือเกมวันอาทิตย์ที่ 17 ธ.ค. 66 ที่พวกเขาจะเปิดบ้านพบกับแมนเขสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึก"แดงเดือด" 

แม้หงส์แดงจะมีแต้มต่อและตัวผู้เล่นที่สมบูรณ์กว่า แถมเบ่นในบ้านแต่เจอร์เก้น คล็อปป์ เลือกที่จะพักแข้งซีเนียร์ออกไปหลายคนเพื่อรักษาความสดไว้ ส่วนตัวอื่นๆอย่าง ดาร์วิน นูนเญซ , หลุยส์ ดิอาซ , ไรอัน กราฟเฟนเบิร์ก รวมถึงโดมินิค โซโบสไล มีชื่อในเกมออกไปเยือนที่สวิตเซอร์แลนด์ แต่เป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น

แต่ทั้งหมดจะคืนตัวจริงเกมที่จะพบกับแมนยูวันอาทิตย์ที่ 17 ธ.ค.นี้แน่นอน
 

3 แข้งวัยรุ่นประสบการณ์น้อยทำพลาดจนแพ้

แน่นอนว่าการแพ้ในเกมเมื่อคืนไม่มีผลอะไรมากกับการเข้ารอบ แต่การส่งทีมที่มีค่าเฉลี่ยอายุไม่เกิน 23 ปี และไปเยือนคู่แข่งในเกมค่ำคืนของฟุตบอลยุโรป ย่อนส่งผลต่อจิตใจและฟอร์มการเล่นไม่มากก็น้อย 

ด้านเจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของลิเวอร์พูลออกมากล่าวหลังเกมว่าเขาไม่โทษเด็กๆ และขอรับผิดชอบผลการแข่งขันเอง

"ผมเป็นคนจัดทีมชุดผสมเอง แน่นอนมันมีผลต่อจังหวะเกมการเล่นกับการเปลี่ยนทีมที่่เยอะขนาดนี้" คล็อปป์กล่าว

"ผมจะไม่ไปชี้หน้าเด็กๆและตัดสินพวกเขาจากเกมนี้เกมเดียว โอเคล่ะผลการแข่งขันมันอาจจะไม่ดี แต่ผมรู้จักพวกเขาดีทุกคน ผมเห็นพวกเขาในการซ้อมทุกวัน เด็กๆของผมดีพอที่จะได้ลงสนาม และนี่คือโอกาสสำคัญของพวกเขาที่จะมีประสบการณ์ในเกมระดับยุโรป" 

4.สถิติหลอกกันไม่ได้ หงส์ครองเกมมากกว่าแต่หาโอกาสยิงได้น้อย

แมตช์กับ อูนิโอน แซงต์-ชิลลัวส์ ลิเวอร์พูล ครองเกมมากกว่าถึง 69 % แต่การเข้าพื้นที่สุดท้ายทำได้น้อย มีโอกาสยิงทั้งเกมแค่ 4 ครั้งเท่านั้น ขณะที่เจ้าถิ่น ใช้เกมสวนกลับและความผิดพลาดของลิเวอร์พูล บุกเข้าทำได้น้ำได้เนื้อและมีโอกาสยิง 15 ครั้งเปลี่ยนเป็น 2 ประตู 

5 โฟกัสกับการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก

แพ้เกมนี้ลิเวอร์พูลเข้ารอบ ส่วนอูนิโอน แซงต์-ชิลลัวส์ ชนะแต่ยังตกรอบ หลังจากนี้ทีม"หงส์แดง"เตรียมโฟกัสกับเกมพรีเมียร์ลีกที่พวกเขายืน 1 เป็นจ่าฝูงและลุ้นแชมป์เต็มตัวแล้ว

ลิเวอร์พูลจะไม่มีเกมยุโรปกลางสัปดาห์มากวนใจไปจนถึงเดือนมีนาคม (เกมแรกของรอบ 16 ทีมเริ่มเดือนนั้น) และหลังจากนี้พวกเขาจะได้เล่นในบ้าน 3 เกมติดต่อกัน เริ่มที่เกมพบ แมนฯยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก) 17 ธ.ค.66 , ต่อด้วยเกมพบเวสต์แฮม ฟุตบอลคาราบาว คัพรอบ 8 ทีม (20 ธ.ค.) และ พบกับอาร์เซนอลที่แอนฟิลด์ (พรีเมียร์ลีก) วันที่ 23 ธ.ค. 

ด้วยขนาดของทีมที่มีและมีนักเตะหมุนเวียนระดับคุณภาพ เวลานี้ลิเวอร์พูลไม่สนใจที่ฟุตบอลถ้วยยุโรปที่เข้ารอบไปแล้ว แต่พวกเขาโฟกัสที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเท่านั้น