"โปรโม-โปรเม"ปลื้มรับรางวัลการทูตสาธารณะปี 2566
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2566 กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับมูลนิธิไทยจัดพิธีมอบรางวัลการทูตสาธารณะ ประจำปี 2566 (Thailand’s Public Diplomacy Award 2023) ให้แก่ โมรียา จุฑานุกาล (โปรโม) และ เอรียา จุฑานุกาล (โปรเม) ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีนายศรัณย์ สุวรรณเจริญ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเปิดงานและกล่าวต้อนรับ และนายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานกรรมการมูลนิธิไทย เป็นผู้มอบรางวัล พร้อมด้วยคณะทูตต่างประเทศและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศประจำประเทศไทย ผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน เข้าร่วมกว่า 200 คน
และผู้ที่ได้รับรางวัลคือ 2 นักกอล์ฟหญิงอาชีพชาวไทย ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใน LPGA Tour โดยโปรโมและโปรเมเริ่มแข่งขันกอล์ฟอาชีพ เมื่อปี 2555 และ ปี 2557 ตามลำดับ และทั้งคู่ได้ร่วมกันคว้าแชมป์ระดับ LPGA Tour หลายรายการ และได้ช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยความสำเร็จดังกล่าวยังได้สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยหันมาสนใจกีฬากอล์ฟเป็นจำนวนมากจนหลายคนประสบความสำเร็จในระดับโลกและสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยตามมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น ทั้งสองคนยังช่วยเผยแพร่ความเป็นไทยไม่ว่าจะเป็นการไหว้ รอยยิ้มและความมีน้ำใจ อีกทั้งยังได้ตอบแทนสังคมผ่านการจัดตั้งมูลนิธิโมรียาและเอรียา เพื่อช่วยเหลือเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส รวมทั้งมีบทบาทในการส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ด้าน 2 พี่น้อง "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล และ "โปรเม"เอรียา จุฑานุกาล 2 สุดภูมิใจได้รางวัลการทูตสาธารณะ ประจำปี 2566 คิดว่าตอนแรกทำเพื่อตัวเองแต่สิ่งที่ทำ ส่งให้คนรูจักประเทศไทยดีขึ้นจนเป็นแรงบันดาลใจให้ทำหน้าที่ต่อไปให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
"ดีใจและเป็นเกียรติมากๆ ไม่คิดไม่ฝันว่าสิ่งที่เราทำ (เล่นกอล์ฟ) มันจะมีประโยชน์ต่อประเทศ ก็ไม่คิดจริงๆว่าจะได้รางวัล เพราะจริงๆแล้วรางวัลเมื่อปีที่แล้วมีคุณหมอที่ได้ ท่านช่วนคนมาเป็นแสดนๆคน พอเราได้เรารู้สึกว่าเป็นเกียรติมากๆที่ได้รับรางวัล" "โปรเม"เอรียา จุฑานุกาลเผย
"ทำให้รู้สึกว่าสิ่งที่เราทำมามีคนเห็นคุณค่า เหใอนเป็นกำลังใจให้เราทำต่อไป
ด้าน "โปรโม" โมรียา จุฑานุกาล เสริมว่า : เหมือนอย่างที่เมบอกว่าเป็นเกียรติกับเรามากๆ ก่อนนี้เราตั้งใจทำในสิ่งที่เราทำให้ดีที่สุด แต่เมื่อมีคนเห็นสิ่งเราทำให้คนทั่วโลกรู้จักประเทศ ได้เห้นเราทำผลงานดีใจและเป็นเกียรติมากจริงๆที่มีคนเห็นสิ่งที่พวกเราทำ"
ผู้ที่ได้รับรางวัลการทูตสาธารณะจะได้รับถ้วยรางวัลที่มีชื่อว่า “Goodwill” หรือ “ความปรารถนาดี” พร้อมประกาศนียบัตรและเงินรางวัลจำนวน 300,000 บาท เพื่อเป็นทุนทรัพย์ในการสานต่อภารกิจต่อไป และจะได้รับการสลักชื่อบนถ้วยรางวัลใหญ่และกำแพงเกียรติยศที่จะจัดแสดงเป็นการถาวรไว้ที่กระทรวงการต่างประเทศด้วย
อนึ่ง ในปี 2565 นายแพทย์ สุนทร อันตรเสน เป็นผู้ได้รับรางวัลการทูตสาธารณะคนแรก โดยมีผลงานโดดเด่นในการจัดตั้งและดำเนินโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เดินทางไปให้บริการตรวจรักษาและผ่าตัดโรคหูน้ำหนวกให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นพื้นที่ห่างไกลในประเทศต่าง ๆ ตลอดระยะเวลามากกว่า 30 ปี โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ
“รางวัลการทูตสาธารณะ” เป็นรางวัลที่กระทรวงการต่างประเทศและมูลนิธิไทยตั้งขึ้นเมื่อปี 2565 เพื่อเชิดชูเกียรติบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กร ทั้งสัญชาติไทยหรือต่างประเทศ ที่ได้สร้างชื่อเสียงแก่คนไทย ประเทศไทย และความเป็นไทย ในหมู่ชาวต่างประเทศได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งเพื่อสนับสนุนให้ผู้ได้รับรางวัลดำเนินกิจกรรมของตนต่อไป และเป็นแบบอย่างให้สาธารณชนได้เห็นว่า บุคคลทั่วไปหรือองค์กรใด ๆ ก็สามารถมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนงานการทูตสาธารณะของไทยได้ ทั้งนี้ “การทูตสาธารณะ” หมายถึง การทูตภาคประชาชน ซึ่งเน้นการส่งเสริมความเข้าใจอันดีในระดับประชาชน เพื่อนำไปสู่มิตรภาพและความร่วมมืออันดี
มูลนิธิไทยเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2550 เพื่อดำเนินงานด้านการทูตสาธารณะ ผ่านการส่งเสริมความร่วมมือและไมตรีจิตระหว่างชาวไทยและนานาประเทศ โดยสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thailandfoundation.or.th/
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.