เปิดขั้นตอนเลือก ‘นายกสมาคมบอล’ โหวตได้เฉพาะสมาชิก แฟนบอลทั่วไปหมดสิทธิ์ !
วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 คือวันเลือกตั้งสภากรรมการชุดใหม่ เวลา 13.00 น. ที่ ชั้น 2 ของที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ (แห่งใหม่ด้านหลังราชมังคลากีฬาสถาน)
ซึ่งการเสนอชื่อผู้สมัครสภากรรมการ และคณะตุลาการ (คณะกรรมการวินัยฯ, คณะอุทธรณ์) เริ่มไปแล้วเมื่อ 24 พ.ย. และจะสิ้นสุดในวันเสาร์ที่ 9 ธ.ค. 66
ตามข้อบังคับลักษณะการปกครองฯ กำหนดว่า สภากรรมการ จะกำหนดวันเลือกตั้ง แจ้งสมาชิกให้ทราบก่อนวันประชุมใหญ่ ไม่น้อยกว่า 75 วัน
สมาชิกสมาคมฯ เท่านั้น มีสิทธิเสนอชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็น นายกสมาคม, อุปนายก และกรรมการกลาง ต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร แจ้งผู้สมัครทราบ แล้วส่งไปสำนักเลขาธิการ อย่างน้อย 60 วัน ก่อนวันประชุมใหญ่
สำนักเลขาธิการ จะแจ้งรายชื่อผู้สมัคร นายกสมาคม, อุปนายก และกรรมการกลาง ให้สมาชิกทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน ก่อนประชุมใหญ่
องค์ประกอบของสภากรรมการ
สภากรรมการ มี 19 คน
นายกสมาคม 1 คน
อุปนายกสมาคม 5 คน
กรรมการกลาง 13 คน
ส่วนเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอล เป็นตำแหน่งแต่งตั้งโดยนายกฯ จึงไม่นับเป็นสภากรรมการ
สโมสรสมาชิกเท่านั้นที่มีสิทธิ์ลงคะแนน
สำหรับการลงคะแนนโหวตเลือกนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล จะมาจากการลงคะแนนให้จากสโมสรสมาชิก 72 ที่อยู่ในโครงสร้างของสมาคมกีฬาฟุตบอล ส่วนสโมสรฟุตบอลอาชีพมีสิทธิ์เลือกได้เต็มแค่ ไทยลีก และ ลีก 2 ส่วนไทยลีก 3 และลีกภูมิภาค ที่มีเป็นร้อยๆทีมมีสิทธิ์มาลงคะแนน 31 เสียงเท่านั้น
ระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้งของสมาคมกีฬาฟุตบอล
ช่องโหว่ตรงนี้ทำให้นายวรงค์ ทิวทัศน์ อดีตเลขาไทยลีก และเป็น 1 ในผู้สมัครชิงนายกฯ ชูเรื่องนี้เป็นนโยบายว่าต้องการเปลี่ยนโครงสร้างการมีสิทธิ์โหวตเลือกนายกฯส.บอล
รายละเอียดผู้มีสิทธิ์โหวตมีดังนี้
1. สโมสรไทยลีก รวม 16 เสียง
2. สโมสรไทยลีก 2 รวม 18 เสียง
3. สโมสรไทยลีก 3 ที่ได้อันดับ 1-5 ในแต่ละโซน รวม 30 เสียง
4. แชมป์ลีกสมัครเล่น 1 เสียง
5. อันดับ 1-2 ฟุตซอลลีกชาย รวม 2 เสียง
6. อันดับ 1-2 ฟุตบอลลีกหญิง รวม 2 เสียง
7. แชมป์ฟุตซอลลีกหญิง รวม 1 เสียง
8. แชมป์ฟุตบอลชายหาด รวม 1 เสียง
9. สมาคมนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ ที่สมาคมและสหพันธ์สมาคมนักกีฬาฟุตบอลอาชีพรับรอง 1 เสียง
รวมทั้งหมด 72 เสียง
ส่วนการโหวตในการประชุมใหญ่ ต้องมีโหวตเตอร์มากกว่ากึ่งหนึ่ง จึงเป็นองค์ประชุม
วิธีการเลือกตั้ง
การลงคะแนนจะลงด้วยวิธีลับ ประธาน กกต.ฟุตบอล จะขานชื่อผู้มีสิทธิออกเสียง ทีละคน ให้ไปรับบัตรเลือกตั้ง จากนั้นผู้ถูกขานชื่อ จะลงรายมือชื่อ เพื่อรับบัตรเลือกตั้ง เดินเข้าสู่คูหาลงคะแนน ที่ต้องจัดไว้มิดชิด ห้ามนำเครื่องมือสื่อสารทุกชนิด กล้องถ่ายรูปเข้าไป ลงคะแนนด้วยการกากบาท แล้วนำบัตรเลือกตั้งไปหย่อนลงในหีบบัตรเลือกตั้ง
เมื่อเลือกเสร็จแล้วจะนับคะแนนหลังจากทุกคนเลือกเสร็จสิ้น ซึ่งการเลือกตั้งนายกสมาคม และ อุปนายก จะต้องได้รับคะแนนเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนโหวตเตอร์ (ผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง) ในที่ประชุม
หากการเลือกตั้ง มีผู้สมัครมากกว่า 2 คน และไม่มีใครได้คะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่ง ให้ดำเนินการลงคะแนนต่อไป ผู้ที่ได้คะแนนน้อยสุด จะถูกตัดออก จนเหลือผู้สมัคร 2 คน แล้วใช้วิธีลงคะแนน จนกว่าจะมีผู้ได้เกินกึ่งหนึ่ง
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.