7 อาหารต้นเหตุอาการท้องผูก ไม่อยากเหนื่อยตอนถ่ายให้เลี่ยง
อาหารบางชนิดสามารถทำให้เกิดอาการท้องผูกหรือทำให้รุนแรงขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหารและการลดการบริโภคอาหารเหล่านี้สามารถช่วยส่งเสริมการขับถ่ายได้ปกติ อาการท้องผูกเป็นปัญหาทั่วไปโดยทั่วไปหมายถึงการถ่ายอุจจาระน้อยกว่าสามครั้งต่อสัปดาห์ ในความเป็นจริงมากถึง 27% ของผู้ใหญ่ประสบกับอาการท้องผูก และอาการที่เกี่ยวข้องเช่นท้องอืดและแก๊ส ยิ่งคุณอายุมากหรือขาดการออกกำลังกายมากเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งมีโอกาสประสบปัญหานี้มากขึ้นเท่านั้น อาหารบางชนิดสามารถช่วยบรรเทาหรือลดความเสี่ยงของอาการท้องผูกได้ ในขณะที่อาหารอื่นๆ อาจทำให้แย่ลงได้ และต่อไปนี้คืออาหาร 7 ชนิดที่สามารถทำให้เกิดอาการท้องผูกได้
1.แอลกอฮอล์
เป็นสาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้ท้องผูกได้ เนื่องจากการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากอาจเพิ่มปริมาณของเหลวที่สูญเสียผ่านปัสสาวะ ทำให้ร่างกายขาดน้ำ การขาดน้ำไม่ว่าจะเกิดจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอหรือสูญเสียของเหลวมากเกินไปผ่านปัสสาวะมักเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในการเกิดอาการท้องผูกที่เพิ่มขึ้น น่าเสียดายที่ไม่พบการศึกษาใดๆ เกี่ยวกับความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างการบริโภคแอลกอฮอล์และอาการท้องผูก นอกจากนี้บางคนรายงานว่าประสบปัญหาท้องเสียแทนที่จะท้องผูกหลังจากดื่มเหล้าทั้งคืน เป็นไปได้ว่าผลกระทบอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล หากต้องการลดผลกระทบที่อาจทำให้เกิดจากการขาดน้ำ และท้องผูกของแอลกอฮอล์ควรพยายามชดเชยแด้วยน้ำหนึ่งแก้วหรือเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์อื่นๆ แทน
2.อาหารที่มีกลูเตน
กลูเตนเป็นโปรตีนที่พบได้ในธัญพืช เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์ ข้าวโพด บางคนอาจมีอาการท้องผูกเมื่อรับประทานอาหารที่มีกลูเตน นอกจากนี้บางคนยังมีอาการแพ้กลูเตน ซึ่งเรียกว่า โรคเซลิแอค (celiac disease) เมื่อคนที่มีโรคเซลิแอครับประทานกลูเตน ภูมิคุ้มกันจะโจมตีลำไส้อย่างรุนแรง ทำให้ลำไส้เสียหาย
ในสหรัฐอเมริกา ประมาณ 0.5-1% ของประชากรเป็นโรคเซลิแอค แต่หลายคนอาจไม่ทราบ อาการท้องผูกเรื้อรังเป็นอาการที่พบได้บ่อยในโรคเซลิแอค การหลีกเลี่ยงกลูเตนสามารถช่วยบรรเทาและรักษาลำไส้ได้
3.โรคแพ้กลูเตนที่ไม่เป็นโรคเซลิแอค (non-celiac gluten sensitivity) และ กลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน (irritable bowel syndrome) เป็นภาวะอีกสองภาวะที่ลำไส้ของบุคคลอาจตอบสนองต่อข้าวสาลี ผู้ที่เป็นโรคเหล่านี้ไม่แพ้กลูเตน แต่ดูเหมือนจะไวต่อข้าวสาลีและธัญพืชอื่นๆ
หากสงสัยว่ากลูเตนเป็นสาเหตุของอาการท้องผูก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาโรคเซลิแอคก่อนตัดกลูเตนออกจากอาหารvนี่เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากกลูเตนจำเป็นต้องอยู่ในอาหารเพื่อให้การทดสอบโรคเซลิแอคทำงานได้อย่างถูกต้อง หากตรวจพบโรคเซลิแอคแล้ว อาจต้องทดลองรับประทานกลูเตนในปริมาณที่แตกต่างกันเพื่อประเมินผลกระทบต่อตนเอง
4.ธัญพืชแปรรูปและผลิตภัณฑ์ของธัญพืชแปรรูป
ขนมปังขาว ข้าวขาว และพาสต้าขาว มีปริมาณไฟเบอร์ต่ำกว่าและอาจทำให้ท้องผูกได้มากกว่าธัญพืชไม่ขัดสี เหตุผลมาจากส่วนรำและจมูกของเมล็ดพืชถูกเอาออกระหว่างการแปรรูป โดยเฉพาะอย่างยิ่งรำนั้นมีไฟเบอร์ซึ่งเป็นสารอาหารที่เพิ่มปริมาณให้กับอุจจาระและช่วยให้เคลื่อนไหวได้
การศึกษาหลายชิ้นได้เชื่อมโยงการบริโภคไฟเบอร์ที่สูงขึ้นกับความเสี่ยงของอาการท้องผูกที่ลดลง ในความเป็นจริง การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้รายงานว่าโอกาสการเกิดอาการท้องผูกจะลดลง 1.8% สำหรับทุกๆ ไฟเบอร์หนึ่งกรัมที่บริโภคต่อวัน
ดังนั้น ผู้ที่ประสบปัญหาอาการท้องผูกอาจได้รับประโยชน์จากการลดปริมาณธัญพืชแปรรูปลงทีละน้อยและแทนที่ด้วยธัญพืชไม่ขัดสี
แม้ว่าไฟเบอร์เสริมจะมีประโยชน์สำหรับคนส่วนใหญ่ แต่บางคนก็พบผลตรงกันข้าม สำหรับพวกเขาไฟเบอร์เสริมอาจทำให้อาการท้องผูกแย่ลงแทนที่จะดีขึ้น หากคุณท้องผูกและบริโภคธัญพืชไม่ขัดสีที่อุดมด้วยไฟเบอร์อยู่แล้ว การเพิ่มไฟเบอร์มากขึ้นในอาหารของคุณก็ไม่น่าจะช่วยได้ ในบางกรณีอาจทำให้ปัญหาเลวร้ายลงได้ หากเป็นเช่นนี้สำหรับคุณลองลดปริมาณไฟเบอร์รายวันของคุณทีละน้อยเพื่อดูว่าจะช่วยบรรเทาอาการได้หรือไม่
5.นมและผลิตภัณฑ์จากนม
นมวัวดูเหมือนจะเป็นสาเหตุทั่วไปของอาการท้องผูก อย่างน้อยก็สำหรับบางคน ทารก เด็กวัยหัดเดิน และเด็กเล็กดูเหมือนมีความเสี่ยงเป็นพิเศษ อาจเป็นไปได้เนื่องจากความไวต่อโปรตีนที่พบในนมวัว การทบทวนการศึกษาที่ดำเนินการในช่วง 26 ปีพบว่าเด็กบางคนที่ท้องผูกเรื้อรังพบอาการดีขึ้นเมื่อหยุดดื่มนมวัว
ในงานวิจัยล่าสุด เด็กอายุ 1-12 ปีที่ท้องผูกเรื้อรังดื่มนมวัวเป็นระยะเวลาหนึ่ง จากนั้นนมวัวจะถูกแทนที่ด้วยนมถั่วเหลืองในช่วงเวลาต่อมา เด็ก 9 ใน 13 คนในกลุ่มศึกษาพบว่าอาการท้องผูกบรรเทาลงเมื่อเปลี่ยนจากนมวัวเป็นนมถั่วเหลือง
6.เนื้อแดง
เนื้อแดงอาจทำให้อาการท้องผูกแย่ลงด้วยเหตุผล 3 ประการคือ มีเส้นใยอาหารน้อยซึ่งโดยปกติเส้นใยจะช่วยเพิ่มปริมาณให้กับอุจจาระและช่วยให้เคลื่อนไหวได้ นอกจากนั้นเนื้อแดงอาจลดปริมาณเส้นใยอาหารประจำวันโดยรวมโดยตรง เพราะแทนที่จะเลือกอาหารที่มีเส้นใยสูงกว่า และเหตุผลสุดท้ายคือ เนื้อแดงไม่เหมือนกับเนื้อสัตว์ประเภทอื่นๆ เช่น สัตว์ปีกและปลา โดยทั่วไปเนื้อแดงมีไขมันสูงกว่า และอาหารที่มีไขมันสูงใช้เวลานานกว่าที่ร่างกายจะย่อยได้ ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสการเกิดอาการท้องผูกมากขึ้นไปอีก
7.อาหารทอด หรืออาหารจานด่วน
การทานอาหารทอดหรืออาหารจานด่วนในปริมาณมากหรือบ่อยครั้งอาจเพิ่มความเสี่ยงของอาการท้องผูกได้เช่นกัน นั่นเป็นเพราะอาหารเหล่านี้มักมีไขมันสูงและมีเส้นใยต่ำ ซึ่งชะลอการย่อยอาหารได้เช่นเดียวกับเนื้อแดง นอกจากนี้อาหารทอดและอาหารจานด่วนมักจะมีโซเดียมจำนวนมาก ซึ่งสามารถลดปริมาณน้ำในอุจจาระ ทำให้แห้งและทำให้ขับถ่ายออกได้ยากขึ้น
สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณกินเกลือมากเกินไป ร่างกายของคุณจะดูดซับน้ำจากลำไส้ของคุณเพื่อช่วยชดเชยเกลือส่วนเกินในกระแสเลือดของคุณนี่เป็นวิธีหนึ่งที่ร่างกายของคุณทำงานเพื่อนำความเข้มข้นของโซเดียมกลับสู่สภาวะปกติและมันสามารถนำไปสู่อาการท้องผูกได้
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.