ค้นพบเสน่ห์กาแฟไทยจาก “9 กาแฟดริปรักษ์โลกพันธุ์ไทย”

ปัจจุบันเทรนด์การดื่มกาแฟในประเทศไทยกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง กาแฟไม่เพียงแต่เป็นเครื่องดื่มยามเช้า แต่กลายเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่เรามักเห็นอยู่ติดมือคนไทยเสมอไม่ว่าช่วงเวลาใดของวัน และตอนนี้คนไทยไม่เพียงโหยหาแค่กาแฟธรรมดา แต่ต้องเป็นกาแฟพิเศษที่มีความพรีเมียม พิถีพิถันทั้งกับเมล็ดกาแฟและกรรมวิธีในการชงแบบงานคราฟ เพื่อสัมผัสประสบการณ์การดื่มด่ำกับกาแฟแก้วโปรดได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเทรนด์ตอนนี้ไม่จำกัดเพียงอยู่แต่ในคาเฟ่เท่านั้น แต่ยังขยายไปยังผู้ชื่นชอบดื่มด่ำกาแฟในบ้านอีกด้วย

กาแฟพันธุ์ไทยเล็งเห็นกระแสความต้องการของลูกค้าที่ต้องการดื่มด่ำกับกาแฟแก้วโปรดสุดคราฟที่บ้าน จึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับ “9 กาแฟดริปรักษ์โลกพันธุ์ไทย” ที่จะมาเติมเต็ม Passion ของนักดริปกาแฟสายคราฟ ที่ชื่นชอบการดริปกาแฟง่ายๆ ที่บ้าน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถเอ็นจอยกับกาแฟระดับพรีเมียมได้ตลอดเวลา

โดย “9 กาแฟดริปรักษ์โลกพันธุ์ไทย” มาใน 9 รสชาติจาก 9 นักสร้างสรรค์กาแฟชื่อดังของเมืองไทย ที่บอกได้เลยว่าแต่ละคนไม่ธรรมดา ซึ่งแต่ละท่านได้ร่วมรังสรรค์กาแฟดริปจากเมล็ดกาแฟที่ดีที่สุดจากแหล่งกำเนิดกาแฟคุณภาพทั่วประเทศมาให้กับทุกคนได้มีโอกาสดื่มด่ำกับเอกลักษณ์ของกาแฟไทยระดับพรีเมียมและค้นพบเสน่ห์ของกาแฟไทยที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก แถมยังได้สนับสนุนเกษตรกรไทยที่ตั้งใจปลูกเมล็ดกาแฟด้วยความใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมปลูกป่าไปพร้อมๆ กัน รวมถึงช่วยผลักดันอุตสาหกรรมกาแฟไทยให้พัฒนาอย่างยั่งยืนอีกด้วย

คุณวัลลภ ปัสนานนท์ – หนึ่งใน 9 นักสร้างสรรค์กาแฟดริปพันธุ์ไทย กล่าวถึงการร่วมรังสรรค์กาแฟในคอลเลกชันนี้ว่า “เราเน้นการทำกาแฟพิเศษที่มีขั้นตอนมากและถูกจำกัดด้วยเวลา Taste note โดยรวมของกาแฟที่นี่ มีความสะอาดและมีความหวาน มีความหอมโทนดอกไม้ เราแปรรูปกาแฟที่มีรสชาติตามธรรมชาติของกาแฟแบบดั้งเดิม รวมถึงให้โอกาสคนในพื้นที่ได้มีอาชีพและรายได้ หลายคนอยู่ร่วมงานกันมาเป็น 20 ปี ผมรู้สึกยินดีมากๆ และขอบคุณที่พันธุ์ไทยนำกาแฟของนายวัลย์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันนี้ ถือว่านายวัลย์ได้มีโอกาสทำให้ตลาดของคนที่ดื่มเครื่องดื่มกาแฟได้กว้างขึ้น”

ในขณะที่ คุณเอก สุวรรณโณ – หมอดิน และ Processor มือรางวัลแห่งบ้านแม่ตอนหลวง กล่าวว่า “ความตั้งใจของผมคือการพัฒนากาแฟให้มีคุณภาพและศักยภาพเทียบเคียงกับกาแฟระดับโลก เป็นความตั้งใจของนักสร้างสรรค์กาแฟชาวไทยทุกคนรวมถึงผมด้วย รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับกาแฟพันธุ์ไทย โดยกาแฟที่ผลิตให้นั้นเป็นเรื่องราวของกาแฟ Natural Process แบบ Traditional เป็น Process ที่ปราณีต ซึ่งกาแฟบ้านแม่ตอนหลวงที่ออกไปทุกเมล็ดผ่านการดูแลอย่างพิถีพิถันในทุกขั้นตอน มีการค้นคว้าพัฒนาคุณภาพกาแฟอยู่เสมอ จนได้กาแฟไทยที่มีกลิ่นและรสสัมผัสที่โดดเด่น ซึ่งคว้ารางวัลระดับโลกมาแล้วหลายเวที”

โดยคอลเลกชัน ‘9 กาแฟดริปรักษ์โลกพันธุ์ไทย’ ประกอบด้วย 9 รสชาติโดย 9 นักสร้างสรรค์กาแฟได้แก่

1. บ้านป่าเมี่ยงโดย คุณวัลลภ ปัสนานนท์ จาก จ.เชียงใหม่
2. บ้านท่าสองยางโดย คุณเปา เลอตอโกลด์ จาก จ.ตาก
3. บ้านมณีพฤกษ์ โดย คุณเคเลบ จอร์แดน จาก จ.น่าน
4. บ้านดอยผักกูดโดย คุณชาติชาย คะบู่ จาก จ.แม่ฮ่องสอน
5. บ้านดอยช้างโดย คุณอัคคเดช เปียวเชกู่ จาก จ.เชียงราย
6. บ้านแม่ตอนหลวงโดย คุณเอก สุวรรณโณ จาก จ.เชียงใหม่
7. บ้านแม่ลาน้อยโดย คุณแดง ดูลาเปอร์ จาก จ.แม่ฮ่องสอน
8. กัลยาณิวัฒนาโดย คุณแสนชัย จูเปาะ จาก จ.เชียงใหม่
9. บ้านมณีพฤกษ์โดย คุณวิชัย กำเนิดมงคล จาก จ.น่าน

ล่าสุดกาแฟพันธุ์ไทยจัดงาน “PUNTHAI Coffee dripping in the park” ใจกลางย่านสีลม เชิญ 5 นักสร้างสรรค์กาแฟจาก 9 ท่านที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชัน ‘9 กาแฟดริปรักษ์โลกพันธุ์ไทย’ มาร่วมพูดคุยกับคนรุ่นใหม่และคนกรุงเทพฯ เพื่อพาทุกคนออกเดินทางไปสัมผัสรสชาติอันซับซ้อนของกาแฟจากขุนเขา พร้อมเรียนรู้เรื่องราวของนักสร้างสรรค์กาแฟที่ปลูกฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความยั่งยืนลงบนผืนแผ่นดินไทย ถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกรไทย ยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้พี่น้องในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี

โดย 6 กิจกรรมที่น่าสนใจในงานแบบ ‘คุณภาพCUPแก้ว’ ที่จะพาคุณไปพบกับเรื่องราวของ 9 กาแฟดริปชั้นดีและเส้นทางสีเขียวธรรมชาติ ได้แก่ 1) Grand Opening of Punthai Drip Coffee เปิดตัว ‘9 กาแฟดริปรักษ์โลกพันธุ์ไทย’ คอลเลกชันสุดพรีเมียม สุดลิมิเต็ด อิดิชัน 2) The Gallery of ‘Coffee is The Story’ ชมแกลลอรีที่รวบรวมความตั้งใจในการ ปลูกกาแฟทุกเมล็ดเพื่อผืนป่าที่เขียวขึ้น ส่งต่อความออร์แกนิกฮีลใจผ่านเสียงธรรมชาติ ASMR ที่สามารถแสกนไปฟังบน Spotify ได้ทุกเวลา 3) Punthai Dripping Coffee Workshop from 5 Coffee Masters เรียนรู้วิธีดริปกาแฟจาก 5 นักสร้างสรรค์กาแฟ พร้อมชิมฝีมือกาแฟดริปจากทั้ง 5 ท่านแบบใกล้ชิด 4) Art that Love the World ชมการรังสรรค์ภาพวาดด้วยกาแฟจาก อาจารย์ทศพร จันทรสุข ศิลปินมือรางวัลสีน้ำชื่อดังที่ใช้ ’น้ำกาแฟ’ ในการวาด 5) Live Music Session ปล่อยจอยกับธรรมชาติในเมือง ดื่มกาแฟดริปไปเพลินๆ พร้อมฟังเสียงดนตรี Acoustic แบบสดๆ และ 6) Exclusive Interview from 5 Thai Processors x Punthai งานเสวนาของนักสร้างสรรค์กาแฟ 5 ท่าน ที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวของการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์ด้วยสองมือและหัวใจ ที่ไม่เพียงได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ แต่ยังดูแลป่ารักษาธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน

คุณสุขวสา ภูชัชวนิชกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการ บริษัท กาแฟพันธุ์ไทย จำกัด กล่าวเกี่ยวกับการเปิดตัวคอลเลกชัน ‘9 กาแฟดริปรักษ์โลกพันธุ์ไทย’ ว่า “อยากเชิญชวนให้คอกาแฟ มาลิ้มลองกาแฟไทยระดับพรีเมียมของพันธุ์ไทย และจะแปลกใจว่ากาแฟพรีเมียมของไทย ก็อร่อย รสชาติดีไม่แพ้กาแฟสัญชาติอื่น ซึ่งกาแฟทั้ง 9 รสชาติถูกรังสรรค์จาก 9 นักสร้างสรรค์กาแฟที่พิถีพิถันทุกขั้นตอน Cupping กันหลายต่อหลายครั้ง รวมถึงการออกแบบ Packaging ด้วยภาพวาดลายเส้นสีน้ำและดีต่อโลกเพราะเราใช้กระดาษรีไซเคิล 70% สามารถย่อยสลายได้ง่ายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก่อนจะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่พร้อมให้คอกาแฟได้ลิ้มรสมนต์เสน่ห์ของกาแฟไทยง่ายๆ ที่บ้าน ยังมุ่งส่งเสริมเกษตรกรท้องถิ่น สร้างงาน สร้างอาชีพแก่ชุมชน ซึ่งการดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืนเป็นสิ่งที่กาแฟพันธุ์ไทยให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก เราต้องการเชื่อมให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงชีวิตที่ ‘อยู่ดี มีสุข’ ผ่านผลิตภัณฑ์ของเรา”

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสัมผัสประสบการณ์การดื่มด่ำกาแฟระดับพรีเมียม ที่นอกจากจะได้สนับสนุนชุมชนและเกษตรกรไทย ยังสามารถนำไปมอบเป็นของขวัญแด่คนที่คุณรักในเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ เลือกซื้อหรือสะสมคอลเลกชัน ‘9 กาแฟดริปรักษ์โลกพันธุ์ไทย’ ได้ ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ

1. กาแฟดริปรักษ์โลกพันธุ์ไทย พรีเมียมเซต (Punthai Drip Coffee Premium Set) บรรจุกาแฟดริป 9 ซอง จาก 9 นักสร้างสรรค์กาแฟ พร้อมกาดริปและแก้วกาแฟ ราคา 1,899 บาท วางจำหน่ายที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยสาขาที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 -  31 มกราคม 2567 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด
2. กาแฟดริปรักษ์โลกพันธุ์ไทย (Punthai Drip Coffee Box) บรรจุกาแฟดริป 9 ซอง จาก 9 นักสร้างสรรค์กาแฟ ราคา 325 บาท ที่ร้านกาแฟพันธุ์ไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 - 31มกราคม 2567 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด