เสียจ่าฝูง เสียสถิติไร้พ่าย ! "อังเก้" บ่นยับใส่ VAR หลังแพ้เชลซีเละ
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเกม มันเดย์ ไนท์ หลังเกมที่สเปอร์ เปิดบ้านแพ้ให้เชลซีไป 1-4 ในเกมที่ทีม "ไก่เดือยทอง" เหลือผู้เล่น 9 คน จากการโดนไล่ออกของ คริสเตียน โรเมโร่ และ เดสตินี อูโดกี ทำให้ทีมมี 26 คะแนนเท่าเดิม
ส่งผลให้ สเปอร์ส แพ้นัดแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ พร้อมเสียจ่าฝูงให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มี 27 แต้ม ส่วน เชลซี เก็บเพิ่มเป็น 15 คะแนน ขึ้นมาอยู่อันดับ 10
ด้านอังเก้ ปอสเตโคกลู นายใหญ่สเปอร์ส พูดถึงการโดนไล่ออกของ คริสเตียน โรเมโร และ เดสตินี อูโดกี ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของความพ่ายแพ้ รวมถึงวีเออาร์ที่เป็นประเด็นถกเถียงอย่างมากในพรีเมียร์ลีกเวลานี้ ว่าวิถีที่เขาเติบโตมาคือต้องยอมรับคำตัดสินของกรรมการ
"คุณต้องยอมรับคำตัดสินของผู้ตัดสิน นั่นคือวิธีที่ผมเติบโตขึ้นมา"
"แต่การมี VAR คือการลดทอนอำนาจของผู้ตัดสินอย่างต่อเนื่อง นี่คือสิ่งที่เป็นจุดที่เกมดำเนินมาถึงปัจจุบันนี้ พวกเขา (ผู้ตัดสิน) ไม่มีอำนาจใดๆ แต่เราอยู่ภายใต้การควบคุมของคนที่อยู่หน้าจอซึ่งอยู่ห่างออกไป 2-3 ไมล์ เมื่อเขาสั่งมามันคือคำตัดสินใจที่มีผลต่อการแข่งขัน"
"ตลอด 26 ปีที่ผ่านมา ผมเจอการตัดสินแย่ๆเยอะมาก แต่ผมก็ยอมรับมัน"
"แต่ผมไม่ชอบมันเลย (VAR) เพราะมันเปลี่ยนแนวทางของเกม ยิ่งมีคนออกมาบ่นถึงการทำงานและการตัดสินมากเท่าไหร่ มันยิ่งชัดเจนว่าเรื่องนี้มีปัญหา"
"ผมอาจจะเป็นคนหัวเก่าเกินไป แต่ผมไม่ชอบมันเลย (VAR)"
สำหรับเกมนี้มีการเช็ก VAR หลายครั้ง โดยผู้ตัดสินต้องใช้เวลานานในการดูหลายจังหวะ ทั้งการยึดคืน 2 ประตูของ สเปอร์ส จาก ซอน เฮือง มิน นาทีที่ 13 และ เอริก ไดเออร์ นาทีที่ 78 และยึดคืนอีกถึง 2 ประตูของ เชลซี จาก ราฮีม สเตอร์ลิง นาทีที่ 21 และ มอยเซส ไคเซโด นาทีที่ 28 รวมเป็นการยึดคืน 4 ประตู และมีการแจกใบแดง 2 ใบให้นักเตะสเปอร์ส จาก คริสเตียน โรเมโร และ เดสตินี อูโดกี
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.