พร้อมสานต่อความยิ่งใหญ่ “เจ้าชายนโรดม” ราชวงศ์กัมพูชา เปิดใจซื้อโปลิส เทโร

จากกรณีที่สโมสรโปลิส เทโร เปิดตัว  ราชวงศ์กัมพูชา นำโดย พระองค์เจ้านโรดม อัมฤทธิวงศ์  สมเด็จพระนโรดม นรินทรพงษ์  เจ้าชายนโรดม รวิจักร์ ที่ตัดสินใจซื้อสโมสร มาบริหาร พร้อมประกาศพาทีมสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง 

ล่าสุดวันนี้ 7 พ.ย. 66 เจ้าชายนโรดม ได้ให้สัมภาษณ์กับโพสต์ ทูเดย์ ถึงแผนการทำทีม รวมถึงการลาออกของ "โค้ชอ้น" รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ที่ลาออกทันทีที่มีการประกาศเปิดตัวกลุ่มทุนจากกัมพูชาด้วย

เพราะประวัติศาสตร์จึงซื้อโปลิส เทโร 
การเข้ามาถือหุ้นใหญ่และบริหารทีมของ ราชวงศ์กัมพูชา แทนที่ของมิสเตอร์ ไบรอัน มาร์คา ประธานสโมสรคนเดิม ทำให้เกิดคำถามมากมายจากแฟนบอลทั้งไทยและกัมพูชาว่าเกิดอะไรขึ้น เรื่องนี้“เจ้าชายนโรดม” ราชวงศ์กัมพูชาเผยถึงการมาซื้อทีมโปลิส เทโรว่า

"อย่างแรกเลยคือครอบครัวชอบฟุตบอลมาก และสำหรับเราเราคิดว่าโปลิส เทโรต้องการพันธมิตร เราย้อนดูโปรไฟล์ที่ผ่านมาของทีมแล้ว ซึ่งทีมทีมนี้เคยเป็นหนึ่งในทีมแห่งหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศไทย และเราคิดว่าเราจะคืนความยิ่งใหญ่นั้นกลับมาสู่สโมสร" 

"โปลิสเทโรเคยเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่ขนาดคว้าแชมป์ในประเทศไทย ซึ่งชื่อเสียงตรงนั้นยังไม่ได้หายไปไหน เหมือนกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนจุดอ่อนยังมองไม่เห็น เห็นแต่ข้อดี และคิดว่าอาจมีการปรับโครงสร้างทีมเล็กน้อย เช่นการนำผู้เล่นจากฝั่งยุโรปเข้ามาร่วมทีมเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง"

ยังไม่เร่งสร้างสนามใหม่ ปรับโครงสร้างเล็กน้อย
"ปัจจุบันเมื่อลองวิเคราะห์แล้ว ได้มองเห็นแต่ข้อดีของทีม แต่ในแง่ของการบริหาร อาจมีการปรับโครงสร้างการบริหารทีมเล็กน้อย ลดส่วนเกิน เติมส่วนที่ขาด เพื่อเพิ่มคล่องตัวในการทำงานให้มากขึ้น รวมถึงแผนการนำนักเตะต่างชาติเข้ามาค้าแข้งเพิ่ม"

"นอกจากนี้ ทีมบริหารยังมองถึงศักยภาพในการสร้างสนามเหย้าแห่งใหม่เป็นของตัวเอง เริ่มมีการพูดคุยกันแล้ว และแน่นอนว่ามีแผนที่จะสร้างในอนาคต เพราะเป็นความฝันของทุกสโมสรที่จะมีสนามเหย้าของตัวเอง"

ปัจจุบัน โปลิศ เทโร ใช้สนามบุณยะจินดา ซึ่งเป็นสนามกีฬาอเนกประสงค์ตั้งอยู่ภายในสโมสรตำรวจ  มีความจุ 4,402 ที่นั่ง 

เหตุไม่ซื้อทีมกัมพูชา เพราะไทยลีกมีคุณภาพกว่า
"คุณภาพของบอลไทยดีกว่ากัมพูชา การเข้ามาทำทีมในไทยจะได้เรียนรู้ศักยภาพผู้เล่นของไทย และถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เล่นกัมพูชาได้ด้วย เพราะต้องยอมรับว่าฝีมือนักบอลไทยดีกว่ากัมพูชา และเชื่อมั่นว่าแฟนบอลกัมพูชาจะเข้าใจในจุดนี้"

"แน่นอนว่าในอนาคตนี่เป็นโอกาสดีที่ผู้เล่นกัมพูชาจะได้เล่นในไทยลีก จะได้เพิ่มประสบการณ์พัฒนาฝีเท้าฝนลีกที่แข็งแกร่ง และนำไปพัฒนาทีมชาติต่อไป "

"ส่วนเรื่องการปั้นนักเตะเยาวชนขึ้นมา นี่คือส่วนสำคัญเพราะทีมต้องมีอะคาเดมี่ในการสร้างเยาวชนมาช่วยเสริมทีม เราจะได้สร้างผู้เล่นใหม่ๆให้กลายเป็นผู้เล่นสำคัญของทีมในอนาคต และมีความยั่งยืนมากกว่า"

"ส่วนเรื่องข่าวลือที่จะเข้าซื้อทีมแซงเอเตียนในฝรั่งเศส ยอมรับว่าเคยเจรจากัน แต่ไม่ประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ "

เคารพการตัดสินใจลาออกของ"โค้ชอ้น" 

อีกประเด็นที่มีการพูดถึงกันมากก็คือการลาออกของ "โค้ชอ้น" รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งช่วงสายวันนี้ (7 พ.ย.) หรือ 1 วันหลังจากการเข้ามาของราชวงศ์กัมพูชา ตรงนี้เจ้าชายนโรดมเผยว่าเสียดายโค้ชอ้น แต่ก็ยอมรับในการตัดสินใจ 

"เคารพการตัดสินใจ แต่ก็รู้สึกเสียดาย อยากให้เข้าใจว่าเราเข้ามาซื้อทีมเพราะอยากเช้ามาช่วยทีมให้รุ่งเรืองเหมือนเมื่อก่อน แล้วก็หวังว่าทุกคนจะอยู่ต่อ เราเข้าใจว่าโค้ชอ้นอยู่กับทีมมานานมาก แต่ผู้บริหารทุกคนก็เคารพการตัดสินใจของเขา" 

ยืนยันสู้เต็มที่เพื่อแฟนบอล"มังกรโล่เงิน"
ฝากทิ้งท้ายถึงแฟนบอลโปลิศ เทโร โดยยืนยันว่า ทุกสโมสรฟุตบอลต้องการแฟนบอลคอยสนับสนุนอยู่แล้ว ถือเป็นสิ่งสำคัญและเป็นสมบัติล้ำค่า เพราะไม่ว่าทีมจะอยู่ในสถานะอะไร ก็มีแฟนบอลคอยให้กำลังใจเสมอ มีผลต่อการประสบความสำเร็จของสโมสรมาก ๆ หวังว่าจะให้การสนับสนุนต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนทีมผู้บริหารก็จะสู้เต็มที่ เพราะมีความตั้งใจจะทำให้ทีมดีขึ้น

ขณะเดียวกัน การเข้าร่วมทุนครั้งนี้ยังทำให้โปลิศ เทโร ได้ขยายฐานแฟนบอลไปยังประเทศกัมพูชา มีผู้ติดตามและให้ความสนับสนุนจำนวนมาก มีแฟนบอลหลายคนที่ส่งข้อความอินบ็อกซ์มาแสดงความยินดีและตื่นเต้นกับดีลนี้ และส่วนมากแฟนบอลเข้าใจดีว่าเราลงทุนในสโมสรไทยลีก เพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลกัมพูชาให้ดีขึ้น