"สมเกียรติ จันทรา" ปรากฏการณ์นักบิดไทย จากเด็กแว้น สู่โพเดียมระดับโลก

"ก่อนจะนิ่ง พี่ก็กลิ้งมาก่อน" ประโยคจากเพลงของ "ยัง โอม" นั้นใช้ได้ตรงกับชีวิตของ "ก้อง" สมเกียรติ จันทรา นักบิดระดับโลกเจ้าของแชมป์โมโตทู (Moto2)หลายสนาม จากทีม อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ที่เพิ่งจบอันดับ 3 และได้ยืนบนบังลังค์ โพเดียม ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์

แต่กว่าเข้าจะก้าวขาเข้าไปสู่ถนน (แทร็ก) การแข่งขันในเวทีระดับโลกได้ ก้องสมเกียรติ ผ่านเส้นทางลูกรังและพื้นถนนหลวงจากการเป็นเด็กแว้นมาแล้ว 

นี่คือสิ่งที่เจ้าตัวยอมรับว่าเขาเคยเป็นแบบนั้นมาก่อน และเมื่อรู้ตัวว่ามันอันตรายและเฉียดตายเขาจึงเลิกและลงแข่งในสนามแข่งอย่างถูกวิธี 

“ครั้งหนึ่งผมออกไปแว้นแล้วเจอกับคนล้มต่อหน้าต่อตา ก็รู้สึกว่าอันตราย มีแต่คนด่า ที่บ้านเองก็คุยว่าถ้าชื่นชอบการแข่งรถ ก็ให้ไปแข่งขันในสนาม ซึ่งครอบครัวก็สนับสนุนให้เป็นนักแข่ง จึงได้เปลี่ยนจากการเป็นเด็กแว้น มาเป็นนักแข่งแบบเต็มตัวแบบนี้”

นั่นคือคำพูดของสมเกียรติ จันทราที่เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ และวันนี้เขาคือตัวแทนของเด็กวัยรุ่นที่ใช้ความเร็วนำทางอย่างถูกวิธีจนก้าวมาเป็นนักแข่งมอเตอร์ไซค์ระดับโลก

จากกองเชียร์พี่ชายสู่นักแข่งตัวจริง

"ก้อง" สมเกียรติ จันทรา เกิดเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2541 ที่จังหวัดชลบุรี เจ้าตัวในวัย 24 ปีปัจจุบัน ผ่านเส้นทางบนแทร็ก และบนถนนลูกรัง และแว้น มอเตอร์ไซค์มาหลายกิโลเมตร 

สมเกียรติ เริ่มขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งแรกตอน 9 ขวบ คนทั่วไปอาจมองว่าเขาหัดขี่ตั้งแต่เด็กและเร็วเกินไป แต่เมื่อเทียบกับนักแข่งคนอื่นที่ Born to be จริงๆ ก้องถือว่าเริ่มช้ากว่า 

ในวัยเด็กเขาก็เล่นซนตามประสาเด็กทั่วไป แต่ด้วยความที่มีพี่ชายเป็นนักแข่งมอเตอร์ไซค์ และบ้านอยู่ไม่ไกลสนามพีระ เซอร์กิต เขาจึงได้เข้าสนามโดยมีพี่สาวเป็นคนพาเข้าสนาม

และเป็นเหมือนจังหวะชีวิตที่ได้พาก้องเข้าสู่วงการซิ่ง 2 ล้อแบบถูกวิธี ในปี 2550 สมเกียรติ จันทรา ในวัย 9 ขวบ เข้าสู่วงการ มอเตอร์ สปอร์ต ในโครงการ Honda Racing School ที่ต้องการปลุกปั้นเยาวชนไทย เข้าสู่วงการมอเตอร์ สปอร์ต   จัดขึ้นที่สนามพีระ เซอร์กิต พอดี “ก้อง” สมเกียรติ จึงร่วมคัดเลือกและผ่านเข้าเป็นหนึ่งในเด็กปั้นของโครงการ ในปีดังกล่าว

ซึ่งวัตถุประสงค์ของโครงการ Honda Racing School ดังกล่าว ฮอนด้า เคยพูดไว้ก่อนหน้าว่า เป้าหมายคือ การสร้างนักแข่ง และทีมแข่ง ในระดับ Moto GP  ตอนนี้ภาพของสมเกียรติชัดขึ้นเรื่อยๆจากผลงานของเขาในระดับโมโตทู MOTO 2 


 

ผลงานโดดเด่นไต่เป็นนักแข่งระดับประเทศ

หลังฝึกฝนในโครงการ Honda Racing School ได้ 1 ปี สมเกียรติ จันทรา เริ่มขยับตัวเองไปแข่งในรายการ ชิงแชมป์ประเทศไทย จากผลงานของเขาที่ดีขึ้นๆเรื่อยๆ  จนฉายแสงออกมาเริ่มได้แชมป์ทำเวลาต่อรอบเป็นสถิติบ้าง เขาก็ได้รับการจับตาจากทั้งในประเทศและระดับทวีป 

พออายุครบ 15 ปี ความสามรถของ สมเกียรติ จันทรา เด่นชัดขึ้นเรื่อยๆ เขาไปคัดเลือกในรายการ Asia Talent Cup  ที่สนามแข่งเซปัง เอฟ วัน เซอร์กิต ประเทศมาเลเซีย และผ่านการคัดเลือกจากนักบิดกว่า 600 คน ไปแข่งในเวทีระดับเอเชีย โดยเป็นหนึ่งในตัวแทนประเทศไทย ลงแข่งขันในรายการเอเชีย ทาเลนต์ คัพ

จากนั้นในปีถัดมา (2014)เขาได้รับการพิจารณาให้เข้าร่วมการแข่งขันรายการ Asia Talent Cup อีกครั้ง และโชว์ผลงานทำคะแนนสะสมคว้าอันดับที่ 11 มาครองได้ในปีแรกที่ทำการแข่งขัน

2015 ซึ่งเป็นปีสำคัญของ"ก้อง" เมื่อผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมการแข่งขันรายการ Asia Talent Cup รุ่น Moto3  เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมสร้างผลงานคว้าแชมป์การแข่งขันเรซที่ 1 ใน การแข่งขันสนามแรกที่สนาม Chang International Circuit จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมคว้ารองแชมป์อันดับ 2 ในการแข่งขันเรซที่ 1 ที่สนามโลเซล เซอร์กิต ประเทศกาตาร์ มาครอง ที่น่าสนใจคือปีดังกล่าวกเองได้รับบาดเจ็บเลยได้แข่งแค่ 2 จาก 4 สนาม และแข่งแค่ 6 จาก 12 เรซ แต่เขาก็เก็บได้มากถึง 61 คะแนน คว้าอันดับ 12 มาครอง

และปี 2016 คือปีที่ก้องประกาศให้โลกรู้ว่าเขาคือของจริง จากการเข้าร่วมการแข่งขันรายการ Asia Talent Cup และสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ในที่สุด สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักบิดไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในรายการนี้ และยังลงแข่งในรายการ Asia Road Racing Championship รุ่น AP 250 cc อีกด้วย
 
ขยับไปที่ปี 2017 นี่คือฤดูกาลแรกที่ก้องต้องออกเดินทางข้าวทวีปไปสู่ยุโรป เพื่อแข่ง รายการFIM CEV Moto3 Junior World Championship 2017 หรือโมโต3 ระดับเยาวชน  เปิดฉากมาเรซแรก “ก้อง” สมเกียรติ คว้าโพลโพซิชั่นไปครองได้ทันที ก่อนจะสร้างผลงานโดดเด่นที่ เลอ มังส์ ด้วยการคว้าอันดับ 8 และจนอันดับ 7 ที่อารากอน (สเปน) ปิดท้ายฤดูกาลในอันดับ 20 
 
ขยับรุ่นขึ้นชั้น Moto3
ปี 2018  สมเกียรติ จันทรา โชว์การพัฒนาของเขาเองต่อย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อลุยเก็บแต้มได้เรื่อยๆ แม้จะไม่มีโพเดียม แต่  “ก้อง” สมเกียรติ คว้าสิทธิ์ Wild Card   ลงแข่งขันไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018 ในรุ่นโมโต 3 และจบที่อันดับ 9 มาครอง

ซึ่งก่อนแข่ง ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018 ฮอนด้า ได้แถลงข่าวใหญ่เมื่อ เซ็นสัญญากับ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ได้ลงแข่งขันในระดับเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รุ่นโมโตทู เป็นเวลา 2 ปี ซึ่งก้องก็ไม่ทำให้ผิดหวังเมื่อเขาในฐานะนักแข่งหน้าใหม่ (Rookie) เก็บไป 23 คะแนน ในขณะที่ทีมเมทคนอื่น ๆ ไม่มีแม้แต่แต้มเดียว 

ส่วนปี 2020 สมเกียรติ จบที่อันดับ 9 จากการสะสมคะแนนทั้งฤดูกาล ทำให้เขาได้รับการต่อสัญญาออกไปอีก

คนไทยคนแรกได้แชมป์เวิลด์ กรังด์ปรีซ์
และในปี 2022 คือปีที่สมเกียรติทำผลงานได้ร้อนแรงสุดๆเมื่อ เขาสร้างประวัติศาสตร์ เป็นคนไทยคนแรกที่ได้แชมป์ระดับเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ จากนั้นเขาก็โชว์ฟอร์มได้ดีขึ้นโพเดียมแบบรัวๆ ทำให้ถูกพูดถึงและจับตามองจากสื่อมวลชนและแฟนกีฬาเจ้าความเร็ว

ซึ่งบทสรุปของปี 2022 แม้เขาจะพลาดล้มใน "โฮมเรซ" ที่บุรีรัมย์ แต่เขาจบฤดูกาลด้วยการเป็นนักบิดไทยคนแรกที่เก็บคะแนนสะสมได้มากกว่า 100 แต้มในฤดูกาลเดียว

สร้างประวัติศาสตร์คนไทยไคนแรกขึ้นโพเดียม "โฮมเรซ" 
ส่วนปี 2023 ก้องสมเกียรติ จันทรายังคงรักษามาตรฐานตัวเองได้อย่างต่อเนื่อง เพราะเขาเพิ่งได้แชมป์ Moto 2 ที่ญี่ปุ่น และในการแข่งขันที่สนามช้างอินเตอร์ เนชันแนล เซอร์กิต ที่ จ.บุรีรัมย์ สมเกียรติ ก็จบที่อันดับ 3 สร้างประวัติศาสตณ์เป็นคนไทยคนแรกที่ได้ขึ้นโพเดียมในการแข่งขันที่ประเทศตัวเอง ส่วนคะแนสะสมตอนนี้ก็ทะลุหลักร้อยแต้มไปไกลแล้ว

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.