"แพทริเซีย กู๊ด" ค้นพบตัวตนที่อยากเป็นเมื่อได้เป็น "คุณแม่"
"แพทริเซีย กู๊ด" นักแสดงสาวน่ารัก และปัจจุบันเธอยังเป็นคุณแม่ของน้องเอลิเซีย ลูกสาววัย 4 เดือน ความน่ารักของทั้งคุณแม่ คุณลูกก็ทำให้ไม่ว่าใครก็ตามที่ติดตามเธอในช่องทางโซเชียลจะต้องหลงรัก รวมไปถึงสาวแพทเองหากมีโอกาสเธอก็ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเป็นคุณแม่ในช่องทางโซเชียลส่วนตัวทำให้เหล่าแฟนคลับได้ความรู้เกี่ยวกับการเป็นคุณแม่มือใหม่ไปด้วย เมื่อ Sanook Women ได้เจอกับสาวแพทจึงถือโอกาสชวนพูดคุยเกี่ยวกับบทบาทการเป็นคุณแม่ซี่งเป็นบทบาทสำคัญของผู้หญิงหลายๆ คน รวมไปถึงตัวเธอเองที่กำลังมีความสุขกับการเป็นคุณแม่
สิ่งที่เป็นความพิเศษในชีวิตเมื่อเป็นคุณแม่
ทำให้เราเห็นคุณค่าของเวลามากขึ้น ก่อนมีลูกเราอาจนอนตื่นสาย ขี้เกียจ วันพักผ่อนไม่อยากทำอะไร ขี้เกียจดูแลตัวเอง เรามักจะผัดวันประกันพรุ่ง แต่พอมีลูกขึ้นมามันเหมือนเป็น wake up call นิดนึงว่าทุกๆ วินาทีมีค่า ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกับเขา หรือเวลาเขาหงุดหงิดอยากนอนเราก็ยังรู้สึกมีความสุข เพราะเรามองไกลไปถึงอนาคตของเขาว่าเราจะวางแผนอนาคตเขาอย่างไร เรียนหนังสืออย่างไร ค่าใช้จ่ายเป็นอย่างไร ไม่น่าเชื่อเลยเวลากลายเป็นสิ่งที่เราไม่ทิ้งกว้างอีกต่อไป
เมื่อเป็นคุณแม่รู้สึกว่าตัวเองเข้าใจอะไรในความเป็นแม่มากขึ้น
มันคือเรื่องความรักของแม่ แม่เป็นคนที่สามารถรักมนุษย์ตัวน้อยๆ คนนี้ มันคือความรักที่อธิบายไม่ได้ มันคือความรักที่คุณตายเพื่อคนๆ นี้ได้ จริงๆ ขนาดพ่อแม่เราเองเราก็รักมากๆ อยู่แล้วนะ แต่นี่มันคืออีกระดับหนึ่งเลย มันยิ่งกว่าทุกสิ่งที่คุณเคยรักอะไรมาก่อนในชีวิต
ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นทันทีที่ได้เห็นหน้าเขาเลยไหม
ใช่ มันคือจังหวะที่เราเห็นเขาเลย เราร้องไห้โดยอัตโนมัติ จำได้เลยวันนั้นได้ยินเสียงน้องร้อง เห็นหน้าน้องครั้งแรกแล้วร้อง เพราะว่าเวลาอยู่ในท้องเราก็รักนะแต่มันยังไม่ได้เห็นตัวจริงเขา ตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้าเขาจนถึงทุกวันนี้มันเหมือนความรักทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ
ตั้งแต่เป็นคุณแม่ แพทคิดว่ามีนิสัยอะไรจของเราที่เปลี่ยนไปจากเดิม
ทุกคนบอกว่าโตขึ้น แต่ก็ไม่รู้ เราก็รู้สึกว่าเราเหมือนเดิม แต่มันคงเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เป็นธรรมชาติ แพทอาจไม่รู้ตัว คนรอบข้างอาจรู้สึก แพทรู้สึกว่าเรามีความเคารพคนรอบข้างมากขึ้น ที่ผ่านมาเราอาจเอาตัวเองเป็นหลัก เป็นคนเห็นแก่ตัวบ้าง แต่พอเราเป็นแม่เราจะเห็นคุณค่าของเวลามากขึ้น ไม่ว่าเราทำอะไรเราจะค่อนข้างเป๊ะและรู้สึกถึงคนอื่นมากขึ้น มันไม่ใช่แค่ลูกเราเท่านั้น แต่มันกลายเป็นผู้ร่วมงานเราทุกๆ คน เป็นคนที่แคร์คนอื่นมากขึ้น จริงๆ หนูเป็นคนที่รักเพื่อน รักสัตว์ รักเด็กอยู่แล้ว แต่กลายเป็นอยู่ๆ ก็เป็นอ่อนไหวไปกับทุกเรื่อง เป็นคนที่ซอฟท์ลง ตลก
แพทพอใจตัวเองในเวอร์ชั่นนี้ไหม
ชอบนะ แพทรู้สึกว่านี่คือคนที่เราอยากจะเป็น มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดี ทำให้แพทตื่นเต้น เหมือนเราโตไปกับลูก ตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงของตัวเองว่าอีก 5-10 ปีเราจะเป็นคนที่มีความรอบรู้ มีความสามารถแบบไหนได้บ้าง ในขณะที่ตอนนี้เราก็ยังคิดว่าเราเปลี่ยนไปในทิศที่ดีขึ้นแล้ว มันก็คงดีขึ้นไปเรื่อยๆ เนอะ หวังว่า มันเป็นสิ่งที่เหมือนพอเรามีประสบการณ์อีกแบบ มันเป็นสิ่งที่ผ่านมามันเปลี่ยนโดยอัตโนมัติ
ความเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลไปกับสิ่งอื่นๆ รอบตัวเราด้วยไหม
ทุกด้าน ไม่ว่าจะขยันทำงานหาเงินให้ลูกมากขึ้น ซึ่งเป็นทั้งแพท และพี่โน๊ต และก็เรื่องสุขภาพ อยากอยู่กับเขานานๆ ไม่อยากป่วย อยากแข็งแรง มีแรงวิ่งเล่นกับเขา แปลกมาก กลายเป็นแคร์ทุกอย่างบนโลกใบนี้ อยากให้เขาเติบโตมาในสังคมที่ดี จิตใจดี คิดได้
แพทมีวิธีรับมือกับคอมเมนต์เกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูกของเราอย่างไรบ้าง
แพทว่าการที่เราลงรูปมันเลี่ยงไม่ได้ เราเป็นนักแสดง และการที่เราเลือกจะลงรูปมันก็คือสิ่งที่เราจะต้องเปิดใจยอมรับเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยกดดันตัวเอง เราอยากเลี้ยงลูกแบบนี้คนจะว่ามันก็เป็นเรื่องของเขา เพราะในที่สุดแล้วแต่ละบ้านเลี้ยงลูกไม่เหมือนกัน มันไม่มีสูตรตายตัวว่าแบบไหนถูก เราว่าปรับตามชีวิตและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนดีกว่า สำหรับการับมือกับคอมเมนต์นั้น ถ้าเป็นเรื่องที่ดีเราก็รับฟัง ถ้าเป็นประสบการณ์หรือเรื่องที่ดีเรารับฟังอยู่แล้ว แต่สุดท้ายเราก็ต้องเอามาปรับว่ามันเหมาะกับลูกและเราหรือเปล่า
วิธีบาลานซ์ชีวิตตัวเองทั้งในบทบาทคุณแม่ ภรรยา และการทำงาน
ทุกอย่างมันเป็นธรรมชาติ ถ้าเรารู้สึกว่าไม่ไหวเราก็ไม่กดดันตัวเอง หนูรู้สึกว่าตัวเองโชคดี มีออปชั่นที่ไม่เหมือนกับพนักงานออฟฟิศ หรือพี่พยาบาลที่อาจจะลางานไมได้ หนูพักจนเราคิดถึงงาน มันเลยเป็นธรรมชาติเพราะว่าเราไม่ได้โดนบังคับในเรื่องของเวลาว่าคุณมีเวลาเท่านี้ ทุกวันนี้ยังค่อยๆ ปรับ แค่ตอนนี้ยังไม่รับงานละครที่ต้องใช้เวลา เพราะน้องเพิ่ง 4 เดือน จริงๆ อยากกลับไปรับงานเลย แต่ก็ต้องเป้าว่าให้นมน้องถึงอายุน้อง 6 เดือน ถ้าถึงแล้วก็ถือว่าทำสำเร็จแล้ว แต่จะมาดูอีกทีว่ามีอะไรที่พอจะรับได้ไหม และหนูอยากทำงานแล้ว เพราะรู้สึกว่าการทำงานมีความสุข และนี่แหละเราต้องมาหาบาลานซ์อีกที
อะไรเป็นข้อดีของการเป็นคุณแม่ที่อายุยังน้อย
ด้วยร่างกายเราโอเค เราสุขภาพดี มดลูกดี ถ้าอายุ 35 + มันมีความเสี่ยงคูณสอง เวลาของคุณคือเมื่อไร ถ้าพร้อมเมื่อไรก็พร้อม ส่วนตัวแพทไม่ได้มองว่าเร็วเกินไป แต่สำหรับคนอื่นมันก็อยู่กับความสำคัญในชีวิต ข้อดีคือเรามีแรงไปไหนมาไหนกับเขาได้อีกนาน นึกถึงโมเมนต์ที่เราไม่แก่มากได้ไปงานแต่งเขา เราหวังในเรื่องสุขภาพ พอเขาเรียนจบแล้วเราไม่แก่มาก ไม่ต้องมาดูแลเราตอนที่เขายังไม่พร้อม
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อเป็นคุณแม่ในด้านรูปร่าง ฯลฯ
ของแพทเปลี่ยนไปหมดทั้งรูปร่าง อารมณ์ต่างๆ แพทไม่ซีเรียสกับอะไรเลยเพราะแพทคิดว่านี่คือสิ่งที่คุณต้องแลกกับการเป็นแม่ของคนๆ นึง เขาโตมาในท้องคุณตั้ง 9 เดือนและใช้สารอาหาร พลังงานในการให้นม ทุกอย่างมันคือสิ่งที่เราต้องมอบให้ลูก แต่แพทไม่ซีเรียส เรายังมีความสุขกับตรงนี้มากๆ และรู้สึกว่ามีลูกแล้วเรายังกู้รูปร่างของเรากลับมาได้ ไม่ซีเรียส
แพทกินทุกอย่างที่อยากกินและทำให้ตัวเองมีความสุข เพราะแพทเชื่อว่าความสุขจะทำให้มีน้ำนม แพทมีกินแบบหลุดๆ เหมือนกันพวกเค้ก เบเกอรี่ ช็อกโกแลต ชานมไข่มุก แต่ไม่ได้กินปริมาณที่เยอะ และเราก็กินอย่างอื่นให้ครบ แต่มันคือความสุขของเรา
คำแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่
แพทว่าอย่ากดดันตัวเอง เราทำดีที่สุด ทุกความรู้สึกที่เรามีมันส่งผลถึงลูก เดี๋ยวนี้ข้อมูลมันเยอะ ลองทำได้ เดี๋ยวคุณจะเจอสมดุลในบ้านเอง ว่าอะไรเวิร์กหรือไม่เวิร์ก ถ้าใครมาติมากก็ไม่ได้ต้องรับฟัง อย่าแคร์คนรอบข้างมาก ไม่ต้องคิดเยอะ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.