5 ความเชื่อผิด ๆ กับการใช้แอร์ อาจทำค่าไฟพุ่งกระฉูด

วันนี้เรามีบทความดีๆ จาก carrierthailand.com มาบอกต่อกันอีกแล้ว สำหรับบทความนี้ว่าด้วยเรื่องของ 5 ความเชื่อผิด ๆ กับการใช้แอร์ อาจทำค่าไฟพุ่งกระฉูด ที่หลายคนอาจจำผิดและทำมาทั้งชีวิต

ในยุคที่อากาศร้อนจนนอนไม่ได้ แถมค่าไฟฟ้าก็สูงขึ้นเช่นกัน เครื่องปรับอากาศหรือแอร์ ก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทหนึ่งที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเยอะ ซึ่งจะทำให้กินไฟมากได้ ถ้าหากมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับแอร์ ดัง 5 ข้อต่อไปนี้ ก็อาจทำให้ค่าไฟพุ่งกระฉูดแบบไม่รู้ตัวได้เช่นกัน

5 ความเชื่อผิด ๆ ที่อาจส่งผลร้ายกับแอร์ และพาค่าไฟพุ่งกระฉูด

1. ใช้แอร์เก่าไม่ยอมเปลี่ยน

แอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทหนึ่งที่มีวันเสื่อมสภาพของตัวเครื่องตามวันและเวลา เมื่อใช้งานไปนาน ๆ ก็จะเสื่อมสภาพตามการใช้งาน บางเครื่องภายนอกอาจจะยังดูดีอยู่ แต่ตัวเครื่องภายในอาจเสื่อมสภาพไปแล้ว โดยเฉพาะแอร์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี

บางครั้งการใช้แอร์เก่าอาจทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่แพง และอาจกินไฟมากจนค่าไฟพุ่งอีกด้วย ดังนั้นการเปลี่ยนแอร์ใหม่อาจคุ้มค่ากว่า เพราะในปัจจุบันแอร์แต่ละรุ่นก็มีการพัฒนาระบบ และฟังก์ชันที่มากมายตอบโจทย์ทุก ๆ ไลฟ์สไตล์ แถมยังประหยัดไฟกว่าแอร์รุ่นเก่า ๆ อีกด้วย

2. ยิ่งเลือกแอร์ BTU สูง ยิ่งดี

ในการเลือกซื้อแอร์ 1 ในสิ่งที่จะต้องพิจารณาเพื่อตัดสินใจซื้อแอร์ ก็คือค่า BTU หลายคนเชื่อว่ายิ่งค่า BTU เยอะจะทำให้แอร์ยิ่งเย็น แต่ตามหลักการทำงานของแอร์แล้ว

BTU สูง ๆ จะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ตัดบ่อย หรือถ้า BTU ต่ำเกินไปกว่าขนาดของห้อง ก็จะทำให้เครื่องทำงานหนักเกินไป ดังนั้นควรเลือก BTU ให้เหมาะสมกับขนาดห้องที่ต้องการใช้งาน

โดยวิธีคำนวณ BTU เบื้องต้น คือ BTU = พื้นที่ห้อง (กว้าง x ยาว) x ความแตกต่าง ความแตกต่างแบ่งได้ 2 ประเภท คือ ห้องที่มีความร้อนน้อย ใช้งานเฉพาะตอนกลางคืน ค่าความแตกต่างจะอยู่ที่ 600 – 700 และ ห้องที่มีความร้อนสูงใช้งานตอนกลางวัน ค่าความแตกต่างจะอยู่ที่ 700 – 800 

ตัวอย่างเช่น ห้องขนาด 3 x 4 เมตร โดนแดดน้อย ค่า BTU คือ 8,400 จะต้องใช้แอร์ขนาด 9,000 BTU หรือ ห้องขนาด 3 x 4 เมตร แต่โดนแดดมาก ๆ ค่า BTU คือ 9,600 จะต้องใช้แอร์ขนาด 12,000 BTU เป็นต้นหรือสามารถคำนวณ BTU ง่าย ๆ ผ่านระบบคำนวณ BTU ของแคเรียร์ คลิกได้ที่นี่

3. วางตำแหน่งแอร์แบบผิด ๆ

การติดตั้งแอร์นั้น สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงคือ ตำแหน่งของการติดตั้งแอร์ ซึ่งตำแหน่งของการติดตั้งแอร์นั้น จะต้องวางคอมเพรสเซอร์แอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสมตามคำแนะนำในคู่มือของแอร์แคเรียร์แต่ละรุ่น โดยควรเป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีสิ่งของบังทางลม และไม่เป็นบริเวณมุมอับ เพราะจะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานหนัก ส่งผลให้กินไฟมาก และค่าไฟสูงได้

ส่วนการติดตั้งแอร์บนผนังบ้านที่รับแสงแดดจัด ๆ หรือ ทิศตะวันตก และการติดตั้งแอร์ใกล้กับประตู หรือหน้าต่าง ก็จะทำให้ตัวเครื่องแอร์ทำงานหนักและส่งผลให้กินไฟมากเช่นกัน ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงในบริเวณดังกล่าว

4. เปิดแอร์อุณหภูมิต่ำจะทำให้แอร์เย็นเร็ว

เป็นที่ทราบกันดีว่าแอร์ยิ่งอุณหภูมิต่ำ ก็จะยิ่งเย็นมาก ดังนั้นจึงทำให้หลาย ๆ คนมีความเชื่อว่า เปิดแอร์อุณหภูมิต่ำ ๆ ไว้ก่อนแอร์จะได้เย็นเร็ว ๆ แล้วค่อยลดอุณหภูมิทีหลัง แต่ความจริง แล้วนั้นเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ เพราะไม่ว่าจะเปิดแอร์อุณหภูมิมากหรือน้อย แอร์ก็จะใช้เวลาในการปรับอุณหภูมิของห้องเท่าเดิมอยู่ดี

5. เปิด – ปิดแอร์บ่อย ๆ จะได้ประหยัดไฟ

การเปิด – ปิดแอร์บ่อย ๆ ไม่ได้มีส่วนช่วยให้ประหยัดไฟ แต่จะส่งผลเสียกับตัวเครื่องอย่างมาก เพราะในการทำงานแต่ละครั้ง เครื่องจะต้องเริ่มการประมวลผลการทำงานใหม่อยู่ตลอดเวลา หากเปิด – ปิดแอร์บ่อย ๆ ตัวเครื่องก็จะต้องเริ่มใหม่ในทุก ๆ ครั้ง การเปิด – ปิดแอร์เป็นเวลา จะช่วยประหยัดค่าไฟ และยืดอายุการใช้งานของแอร์ให้ใช้ได้นานกว่าการเปิด – ปิดบ่อย ๆ

เมื่อทราบแล้วว่าการใช้งานแบบไหน ที่จะช่วยให้ประหยัดค่าไฟ ไม่ให้ค่าไฟพุ่งกระฉูด ก็อย่าลืมเลือกแอร์ที่มีคุณสมบัติที่ช่วยประหยัดไฟยิ่งขึ้น อย่างแคเรียร์ Color Smart ,XInverter Plus และ Copper10 ที่ได้รับการันตีการประหยัดไฟเบอร์ 5 (3ดาว) นอกจากนี้ยังมีการรับประกันคอมเพรสเซอร์ยาวนานถึง 10 ปี และชิ้นส่วนอะไหล่อื่น ๆ นานถึง 5 ปีอีกด้วย และอุ่นใจได้เสมอ เพราะแคเรียร์มีบริการหลังการขายที่ช่องทางการติดต่อหลากหลาย พร้อมดูแลคุณไปยาว ๆ

 

 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.