[รีวิว] iPhone 15 Plus มือถือรุ่นคุ้มค่า กับสีสันสุดพาสเทล

กลับมาพบกับรีวิวจากทีม Sanook Hitech อีกครั้ง สำหรับครั้งนี้ มาพบกับการทดลองใช้งาน iPhone 15 รุ่นปกติกันบ้างในครั้งนี้ทีมได้รับทดลอง iPhone 15 Plus ที่ได้สเปกจัดเต็ม บางคนบอกรุ่นนี้ไม่น่าเล่น จริงไหม มารับชมกันได้เลย

รายละเอียดสเปก iPhone 15 

  • ขนาดตัวเครื่อง 147.6 x 71.6 x 7.8 มิลลิเมตร  
  • น้ำหนัก 171 กรัม  
  • หน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว ใช้หน้าจอ Super Retina XDR (OLED) แบบ Dynamic Island
  • ความละเอียดหน้าจอ :  2556 x 1179 พิกเซล รองรับการแสดงผล HDR10+ Dolby Vision True-Tone และ Wide Color Gamut ความสว่าง 2,000 nits
  • กระจกหน้าจอ : Ceramic Shield
  • มาตรฐานการกันน้ำ IP68  กันน้ำได้ลึกสุด 6 เมตร
  • ชิปเซ็ต : Apple A16 Bionic | GPU : เป็นของ Apple เองเป็นแบบ 5 Core 
  • RAM: 6GB LPDDR5X
  • ความจำในตัว :128 / 256 / 512GB
  • เพิ่มความจำผ่าน iCloud Storage
  • ระบบปฏิบัติการ : iOS 17 
  • การเชื่อมต่อWiFi 6 (AX), GPS, 5G, Bluetooth 5.3 NFC
  • พอร์ต : USB-C
  • รองรับ eSIM และ Nano SIM      
  • ระบบเสียง 
  • ลำโพง Stereo ทั้งด้านบนและล่าง รองรับ Dolby ATMOS
  • กล้องมีหลังประกอบด้วย 2 ตัวด้วยกันประกอบด้วย   
    • กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F/1.6 มาพร้อมกับ LED Flash รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 24/30/60 FPS, Full HD 30/60/120/240, Timelapse ทั้งกลางวันและกลางคืน sensor-shift OIS
    • กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง 4 มุมมอง120 องศา 
  • กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล  พร้อมระบบ Auto Focus
  • แบตเตอรี่ ยังไม่ระบความจุ
  • ระบบชาร์จไฟ : รองรับกำลังชาร์จไฟ (20W) รองรับทั้ง ชาร์จไร้สาย (15W)
  • ระบบความปลอดภัย สแกนหน้าแบบ Face ID
  • สี : ดำ, ฟ้า, ชมพู, เขียว, เหลือง

รายละเอียดสเปก iPhone 15 Plus

  • ขนาดตัวเครื่อง 160.9 x 77.8 x 7.8 มิลลิเมตร  
  • น้ำหนัก 201 กรัม  
  • หน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว ใช้หน้าจอ Super Retina XDR (OLED) แบบ Dynamic Island
  • ความละเอียดหน้าจอ :  2796 x 1290 พิกเซล อัตราส่วน 19.5:9 รองรับการแสดงผล HDR10+ Dolby Vision True-Tone และ Wide Color Gamut ความสว่าง 2,000 nits
  • กระจกหน้าจอ : Ceramic Shield
  • มาตรฐานการกันน้ำ IP68  กันน้ำได้ลึกสุด 6 เมตร
  • ชิปเซ็ต : Apple A16 Bionic | GPU : เป็นของ Apple เองเป็นแบบ 5 Core 
  • RAM: 6GB LPDDR5X
  • ความจำในตัว :128 / 256 / 512GB
  • เพิ่มความจำผ่าน iCloud Storage 
  • ระบบปฏิบัติการ : iOS 17 
  • การเชื่อมต่อWiFi 6 (AX), GPS, 5G, Bluetooth 5.3 NFC 
  • พอร์ต : USB-C
  • รองรับ eSIM และ Nano SIM      
  • ระบบเสียง 
  • ลำโพง Stereo ทั้งด้านบนและล่าง รองรับ Dolby ATMOS
  • กล้องมีหลังประกอบด้วย 2 ตัวด้วยกันประกอบด้วย   
    • กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F/1.6 มาพร้อมกับ LED Flash รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 24/30/60 FPS, Full HD 30/60/120/240, Timelapse ทั้งกลางวันและกลางคืน sensor-shift OIS
    • กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง 4 มุมมอง120 องศา 
  • กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล  พร้อมระบบ Auto Focus
  • แบตเตอรี่ 4383 mAh
  • ระบบชาร์จไฟ : รองรับกำลังชาร์จไฟ (20W) รองรับทั้ง ชาร์จไร้สาย (15W)
  • ระบบความปลอดภัย สแกนหน้าแบบ Face ID
  • สี : ดำ, ฟ้า, ชมพู, เขียว, เหลือง

เปิดกล่องมาเจออะไร

  • ตัวเครื่อง iPhone 15 Plus
  • คู่มือ / ใบรับประกัน / สติ๊กเกอร์
  • เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด
  • สาย USB-C

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ iPhone 15 Plus

แทบจะต้องบอกเลยว่าแค่รุ่นเล็กอย่าง iPhone 15 และ iPhone 15 Plus ก็ต่างจากรุ่นเดิมแล้วเพราะได้หน้าจอ Super Retina XDR แต่ว่า Refresh Rate 60 Hz เท่านั้น ซึ่งต่างจากรุ่น Pro ที่ได้ Dynamic Island แล้วตั้งแต่เริ่มต้น และยังมีการปรับได้เหมือนกับรุ่นโปร พร้อมครอบด้วยกระจก Ceramic Shield แกร่งสุดๆ


รอบตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียมเหมือนกับ iPhone 14 และมีความโค้งมนกว่าเล็กน้อยปุ่มกดด้านข้างฝั่งซ้ายมารพร้อมกับปุ่มเลื่อนเปิด / ปิดเสียง, ปุ่มปรับระดับเสียง, ช่องใส่ซิมการ์ด อีกฝั่งจะมีปุ่มเปิดเครื่อง และกดค้างเพื่อเรียก Siri

ส่วนบนของตัวเครื่องไม่มีปุ่มแต่มีเสาอากาศของเครื่องมาให้ส่วนด้านล่างมาพร้อมกับไมโครโฟน, ตำแหน่ง USB-C และมีลำโพงตัวเครื่องมาให้นั่นเอง ซึ่งลำโพงจุดที่ 2 อยู่ด้านบน

พลิกมาพร้อมกับด้านหลังจากพร้อมกับกระจกด้านหลังที่ออกแบบที่แตกต่างจากไปเลย จากเดิมกระจกเงารอบนี้ทำกระจกให้ด้านมากขึ้น พร้อมกับตำแหน่งกล้องที่วางคล้ายกับเดิม แต่ว่าสิ่งที่ต้องบอกก่อนเลยว่า ไม่สามารถใส่เคสร่วมกันได้ แต่ใช้คำว่าอย่าทำตก อาจจะแตกได้ง่าย (ยากกว่า iPhone 15 Pro Max)

น้ำหนัก / การจับถือ / สีสันของเครื่อง


สำหรับของเครื่องถือว่าไม่ได้แตกต่างจากเดิมเท่าไหร่ ที่เห็นได้ชัดคือ น้ำหนักของเครื่องแอบหนักขึ้น แต่จับจริงๆ แล้วกลับไม่ได้หนักเลยยังคงเบาๆ เหมือนเดิมด้วยครับ กับน้ำหนักแค่ 201 กรัมในรุ่น Plus และ รุ่นปกติคือเบาหวิวไปเลย ถ้าใครชอบเบาๆ และไม่จำเป็นต้องเอากล้องซูม แต่เน้นแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย แนะนำรุ่นธรรมดาก็พอ ส่วนสีสันก็มีให้เลือกเยอะมาก

ภาพและเสียงเป็นอย่างไร

สำหรับในเรื่องการเชื่อมต่อไร้สายของ iPhone 15 Plus ก็มีคุณภาพที่เรียกว่าสดใสเพราะได้หน้าจอที่มีความสว่างที่สูงพอสมควรถึง 2,000 nits เพียงแต่ว่าหน้าจอจะมีค่า Refresh Rate ที่ 60 Hz เท่านั้น การสัมผัสถือว่าใช้ได้อยู่นะครับ นอกจากนี้ยังได้ระบบเสียงที่เรียกว่าดังมากพอสมควรเลยครับ

ประสิทธิภาพ / การเล่นเกม / การเชื่อมต่อ



การที่ยกขุมพลังจากรุ่นที่แล้วมาทำให้ iPhone 15 Plus กลับทำคะแนนประสิทธิภาพที่ออกมาถือว่าทำได้ดีเลยแล้วสำหรับรุ่นนี้ การเล่นเกมยังถือว่าทำได้ดี โดยไม่จำเป็นต้นอัปเกรดไปรุ่น Pro ก็ได้ และรุ่นนี้จะมีความเย็นและเสถียรมากกว่ารุ่น Pro


การเชื่อมต่อรองรับทั้ง Wi-Fi 6, Bluetooth 5.3, GPS, A-GPS แถมมี UWB ให้ติดต่อได้ด้วยเรียกว่ามาแบบครบๆ เลยครับ

เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญคือการเปลี่ยนแปลงเป็น USB-C นี่แหล่ะ โดยในเรื่องของการเชื่อมต่อต่างๆ ง่ายขึ้น แต่ว่ารุ่น 15 และ 15 Plus กลับได้ USB2 ที่ความเร็วเท่ากับ Lightning ทำให้ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูล ทำได้ยังไม่ไวเท่ากับรุ่น Pro

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายใน / ระบบความปลอดภัย

ภายในของ iPhone 15 Series เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 17 ใหม่ล่าสุด โดยเป็นระบบปฏิบัติการที่ปรับปรุงจากเดิมมากขึ้นในเรื่องการทำงานต่างๆ ทั้งนี้ทีม Sanook Hitech ได้สรุปเรื่องต่างๆ ไว้สามารถอ่านได้จากข้างล่างนี้

  • 10 ฟีเจอร์ใหม่ของ iOS 17 ที่ต้องลอง เดี๋ยวไม่อินเทรนด์
  • เรื่องควรรู้ก่อนติดตั้ง iOS 17 ให้เสถียรสุดๆ
  • สรุปฟีเจอร์ใหม่ "iOS 17" หลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ปังแค่ไหนมาดูกัน!

เปิดสเปกกล้องของ iPhone 15 / 15 Plus

  • กล้องมีหลังประกอบด้วย 2 ตัวด้วยกันประกอบด้วย   
    • กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F/1.6 มาพร้อมกับ LED Flash รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 24/30/60 FPS, Full HD 30/60/120/240, Timelapse ทั้งกลางวันและกลางคืน sensor-shift OIS
    • กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง 4 มุมมอง120 องศา 
  • กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล  พร้อมระบบ Auto Focus

ฟีเจอร์ของกล้อง iPhone 15 และ iPhone 15 Plus

นอกจากสเปกกล้องอัปเกรดแล้ว iPhone 15 และ 15 Plus การกดปรับแต่งสามารถทำได้ตั้งแต่การทำละลายหลังหรือ Portrait Mode ที่ปรับได้หมดและปรับรวมถึง Gallery ด้วยเช่นเดียวกัน และนอกจากนี้การถ่ายวิดีโอก็มี Action Mode ให้กดเล่นได้อยู่ครับ อย่างไรโหมดโปรก็จะหายไปทั้งหมดรวมถึง Macro ด้วยครับ

ผลงานภาพนิ่งของ iPhone 15 Plus

 









แบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ

สำหรับแบตเตอรี่ของ iPhone 15 Plus มีขนาดแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า iPhone 15 Pro Max เล็กน้อย และใหญ่กว่าเดิมนิดหน่อย การใช้งานพบว่าอยู่ได้นานพอสมควร แต่ถ้ากดใช้งานที่หนักหน่วง อาจจะหมดไวเหมือนเดิม

อย่างไรก็ตาม ระบบชาร์จไฟของเครื่องรุ่นนี้อยู่ที่ 20W แบบสาย (เสียบจริงถ้าไฟเหลือน้อยอาจจะได้ 27W) และไร้สายถ้าใช้ MagSafe ทำได้ที่ 15W เช่นเคย

สรุปหลังจากทดลองใช้งาน iPhone 15 Plus มาสักระยะเวลาหนึ่ง

เรียกว่าปีนี้เลือกกันไม่ถูกแน่นอนสำหรับ iPhone 15 เพราะ iPhone 15 Plus ที่ได้ทดลองนี้ถ้าเป็นคนที่ใช้งานไม่เยอะเท่าไหร่ นี่เป็นอีกรุ่นที่จัดเต็มเกี่ยวกับฟีเจอร์ภายในของตัวเครื่องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น การอัปเกรดกล้อง 48 ล้านพิกเซล หน้าจอ Dynamic Island และยังมีสีสันที่ลงตัว

ส่วนราคาของเครื่องมีดังนี้

ราคา iPhone 15

  • iPhone 15 ขนาด 128GB ราคา 32,900 บาท
  • iPhone 15 ขนาด 256GB ราคา 36,900 บาท
  • iPhone 15 ขนาด 512GB ราคา 45,900 บาท

ราคา iPhone 15 Plus

  • iPhone 15 Plus ขนาด 128GB ราคา 37,900 บาท
  • iPhone 15 Plus ขนาด 256GB ราคา 41,900 บาท
  • iPhone 15 Plus ขนาด 512GB ราคา 50,900 บาท

ปิดท้ายสำหรับ รีวิว iPhone 15 Series ทั้งหมดที่ตัวนี้คือ ขอสรุปแยกออกเป็นดังนี้

  • ถ้าคุณต้องการ iPhone 15 ไปคุยกับเพื่อนว่าได้เครื่องใหม่แต่ก็ได้สเปกที่เพียงพอต่อการใช้งาน = iPhone 15
  • ถ้าคุณมีงบแต่ไม่อยากได้เครื่องใหญ่ขอสเปกสุด แต่ต้องได้เครื่องถือได้อยู่ในกำมือ = iPhone 15 Pro
  • ถ้างบประมาณเหลือและต้องการความสุด พบกันได้ใน iPhone 15 Pro Max
  • และถ้าคุณต้องการเครื่องที่อยู่ตรงกลางที่ใช้คำว่ามันก็จบแล้วในราคาที่สมเหตุสมผล = iPhone 15 Plus

แต่ทั้งหมดนี้ ทีม Sanook Hitech ก็อยากให้คุณได้ลองตัดสินใจและลองเล่นเองเพิ่มเติมก่อนจะจ่ายเงินซื้อนะครับ

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.