รีวิว iPhone 16 รุ่นเล็กสีจัดจ้าน สเปกให้คุ้มเกิ้น

กลับมาพบกับรีวิวจาก Sanook Hitech อีกครั้ง ต่อจากบทความที่แล้วกับ iPhone 16 Pro และ 16 Pro Max ที่แสดงถึงความยอดเยี่ยมของไอโฟนตัวท็อปไปแล้ว แต่มันมีอีกรุ่นที่น่าสนใจอย่าง iPhone 16 ที่ปีนี้ค่าตัวถูกลงจากเดิมเหลือ 29,900 บาท จากค่าเงินบาท แข็งตัว ทำให้เกิดความน่าสนใจขึ้นมา วันนี้เราจะมารีวิวได้ดูกันแบบเต็มๆ 

สเปก iPhone 16 / 16 Plus

ดีไซน์ iPhone 16 / 16 Plus

แรกเห็น iPhone 16 กับหน้าจอขนาด 6.1 นิ้ว รอบนี้พิเศษคือหน้าจอเป็นแบบ Super Retina XDR OLED แล้ว ทำให้ได้ความละเอียดมากขึ้น และความสว่างหน้าจอสูงสุด 2,000 nits และ Dim ให้ต่ำสุดที่ 1 nits เอาใจคนดูข้อมูลกลางคืนได้ด้วย โดยด้านหน้าเป็นแบบ Dynamic Island พร้อมกับกล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล 

รอบตัวเครื่องทั้งหมดจะเป็นวัสดุอลูมิเนียม ที่ให้ผิวสัมผัสต่อเนื่องกับด้านหลัง ซึ่งประกอบไปด้วย

• ฝั่งซ้าย = ปุ่ม Action Button, ปุ่มปรับระดับเสียง และช่องใส่ซิม
• ฝั่งขวา = ปุ่ม Power / Siri, Camera Control

ส่วนบนจะไม่มีอะไร ส่วนล่างจะมีไมโครโฟน, USB-C และ ลำโพงตัวเครื่องมาให้ 

ด้านหลังวางตำแหน่งกล้องตรงกัน ถือเป็นการเปลี่ยนดีไซน์ที่ดูลงตัวมากขึ้น แต่สเปกกล้องจะเป็นตัวหลัก 48 ล้านพิกเซล และ Ultra Wide 12 ล้านพิกเซล ผิวด้านหลังสากกว่า iPhone 15 ทำให้จับได้แม่นยำมากขึ้น 

สีสันของเครื่องจริงมีทั้งหมด 4 สีด้วยกันคือ ดำ, ขาว, ชมพู, เขียวอมฟ้า และ น้ำเงิน Ultramarine ที่คุณเห็น

ข้อสังเกตุที่ให้ไว้คือ น้ำหนักเครื่อง iPhone 16 เบากว่า iPhone รุ่นก่อนหน้า ชัดเจน และบางลงชัดเจนมากๆ และ iPhone 16 Plus จะต่างกันแค่ขนาดเท่านั้น ที่เหลือแทบจะไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่

ประสิทธิภาพของ iPhone 16 

หลังจากรุ่นปกติ ไม่ได้ขุมพลังใหม่มาสักพักใหญ่ แต่ด้วยการมี Apple Intelligence ทำให้ขุมพลังต้องอัปเกรดด้วย ทำให้ปีนี้เลยได้ A18 ใหม่มาแทน ซึ่งเคลมว่าเร็วกว่าเดิม 30% และประหยัดไฟมากขึ้นด้วย แน่นอนคะแนนประสิทธิภาพถือว่าสูงและเล่นเกมทำได้ดีเลยครับ ค่อนข้างลื่น และรองรับ Ray Tracing ตั้งแต่รุ่นนี้เลย!!! 

การเชื่อมต่อก็รองรับ 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3 เหมือนรุ่น Pro

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นของ iPhone 16 / 16 Pro

สำหรับ iPhone 16 เลือกใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 18 สำหรับฟีเจอร์ของ iOS 18 นั้นเราได้ทำเอาไว้ให้คุณอ่านหลากหลายฟีเจอร์ โดยกดอ่านได้ตามหัวข้อดังนี้

•  8 ฟีเจอร์เด็ดใน iOS 18 รู้ก่อนดาวน์โหลด 17 กันยายน นี้
• สรุปฟีเจอร์กล้องใน iOS 18 ที่คุณอยากรู้ก่อนอัปเดต
• ส่องลูกเล่นเครื่องคิดเลขใน iOS 18 มีการเพิ่มลูกเล่นที่มาพร้อมกับสิ่งที่คุณไม่คิดว่าจะมี
• 5 ฟีเจอร์ที่ iOS 18 เติมเต็มให้คุณใช้ได้กับ AirPods Pro

ฟีเจอร์กล้อง 

สำหรับ iPhone 16 ก็ได้ลูกเล่นคล้ายๆ กับรุ่น Pro แต่ว่าจะลดทอนแค่ ไม่สามารถปรับแต่งเสียงหลังจากการถ่ายวิดีโอ, ProRes, ProRAW, และซูมได้น้อยกว่า นอกนั้น เหมือนกันเลยครับ 

ส่วนปุ่ม Camera Control เหมือนกันเป๊ะ โดยการทำงานแบ่งออกเป็นดังนี้

• กดลงไป = ถ่ายภาพ หรือ ถ่ายวิดีโอ
• แตะลงไป 1 ครั้ง = ใช้ฟีเจอร์ที่เลือกไว้
• แตะแล้วออกแรงกด = เปลี่ยนฟีเจอร์ใหม่

จากการสัมผัสพบว่าปุ่มกด อยู่ในตำแหน่งที่ลึกอยู่ทำให้อาจจะกดถ่าย

ภาพจาก iPhone 16

ดูต่อได้ใน Gallery ด้านล่าง

แบตเตอรี่

เช่นเคยเราต้องมาปิดท้ายที่แบตเตอรี่กันครับ จากการใช้งานทั้งวันโดนเล่นเกมและใช้งานกล้องและโทรด้วยครบ 12 ชั่วโมงยังอยู่ได้โดยไม่ต้องชาร์จไฟ แบตเตอรี่เหลือ 26% ถือว่าเอาอยู่ แต่ถ้าใช้งานกล้องเยอะๆ แนะนำว่าควรชาร์จไฟ 1 รอบอย่างน้อย หรือพก Power Bank ไว้ก็ดี หรือถ้ากลัวแบตเตอรี่หมดและไม่เกี่ยงขนาด แนะนำ iPhone 16 Plus เลยครับ

สำหรับระบบชาร์จไฟรอบนี้ทางเลือกทั้งแบบชาร์จไฟสายกำลังจะสูงขึ้นประมาณ 30W และไร้สายรองรับ Qi2 ทำให้ชาร์จไฟได้กำลังสูงสุด 20W ทั้งนี้ต้องขึ้นกับที่ชาร์จว่าได้มาตรฐานไหม ที่เราบอกคือ เป็นของ Apple แท้

สรุปหลังใช้งาน iPhone 16 มาสักพัก

มาถึงจุดนี้ เรามาสรุปกันกับ iPhone 16 รอบนี้มีความโดดเด่นการเติมเต็มจาก iPhone 15 จนเรียกว่า เปลี่ยนทุกอย่างใส่ทุกอย่างเพื่อคุณ โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกล้องที่โดดเด่นให้ลูกเล่นพื้นฐานจนแทบไม่ต้องไปรุ่น Pro ฟีเจอร์ต่างๆ มาครบและสีสันสวยงาม กับราคาเริ่มต้น 29,900 บาท เท่านั้น

ซึ่ง iPhone 16 เหมาะกับคนใช้งานทั่วไป ที่เล่นเกมบ้าง ต้องใช้ iPhone ทำงาน แต่ไม่อยากจ่ายเงินจนเกินตัว หรือ อาจจะเล่นรุ่น Pro มาก่อนแล้วบอกว่า มันเกินความจำเป็น นี่คือมือถือสำหรับคุณครับ