เปิดราคาเลนส์ RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye รุ่นใหม่ จาก Canon
แคนนอน (CANON) แบรนด์ผู้นำด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพ พร้อมนำคุณสู่โลก 3 มิติที่สมจริงกับการบันทึกภาพแบบ VIRTUAL REALITY (VR) ด้วยเลนส์ฟิชอายรุ่นใหม่ “RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye” ที่มาพร้อมคุณสมบัติขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา และการออโต้โฟกัสที่แม่นยำ โดยเลนส์ฟิชอายรุ่น 2 ของแคนนอนนี้ออกแบบมาสำหรับกล้อง APS-C โดยเฉพาะสามารถใช้งานร่วมกับกล้อง EOS R7 ได้ทันที
คอนเทนต์ VR มอบประสบการณ์ที่ดื่มด่ำและน่าประทับใจยิ่งกว่าให้กับผู้ชม เพราะทำให้เราสามารถสำรวจฉากได้แบบรอบด้าน ครอบคลุมขอบเขตการมองเห็นมากกว่าภาพนิ่งหรือวิดีโอ 2D ทั่วไปในรูปแบบเดิม ๆ ทั้งยังสามารถเลือกได้เองว่าจะมองขึ้น ลง ซ้าย หรือขวา มอบศักยภาพใหม่ ๆ มากมายที่สามารถนำไปใช้ได้ทั้งกับการเล่าเรื่อง การแสดงข้อมูลเสริมในเนื้อหา และการนำเสนอผลงานสร้างสรรค์ต่าง ๆ อย่างไร้ข้อจำกัด
สร้างสรรค์ภาพยนตร์ VR ระดับ 4K อย่างง่ายดาย
เลนส์ RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye ประกอบด้วยเลนส์ฟิชอายสองตัวซึ่งติดตั้งเว้นระยะห่างกัน เช่นเดียวกับรุ่นก่อนหน้าอย่าง RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye เพื่อให้สามารถถ่ายภาพพร้อมกันสองภาพที่ซ้อนเหลื่อมกันบนเซนเซอร์ภาพตัวเดียว โดยข้อมูลภาพที่ได้จะมีมุมมอง 144° ซึ่งสามารถแปลงเป็นภาพยนตร์ 3 มิติแบบ VR ที่กว้าง 180° ได้ด้วยซอฟต์แวร์ EOS VR Utility หรือ EOS VR Plug-in สำหรับโปรแกรม Adobe Premiere Pro และด้วยการทำงานที่ง่ายดายโดยไม่จำเป็นต้องตั้งค่าเพิ่มเติม ซิงค์ข้อมูลภาพ หรือต่อภาพจากกล้องหลายตัว ทำให้ผู้บริโภคทั่วไปสามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ VR ความละเอียดสูงได้อย่างง่ายดายในราคาที่ไม่แพง
เลนส์ RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye ยังเป็นเลนส์ฟิชอายคู่รุ่นแรกของแคนนอนที่มีออโต้โฟกัส (AF) จึงสามารถจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ พร้อมการใช้งานที่ง่ายดายเหมือนเลนส์ RF ทั่วไป ซึ่งเกิดจากกลไกมอเตอร์ STM บนเลนส์คู่ที่ขับเคลื่อนทั้งเลนส์ซ้ายและขวาไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งหากจำเป็น ผู้ใช้ยังสามารถปรับความแตกต่างของโฟกัสซ้าย-ขวาแบบละเอียดได้อย่างง่ายดาย ด้วยวงแหวนควบคุมแบบอิเล็กทรอนิกส์และสวิตช์โหมดสำหรับปรับระยะโฟกัสให้แตกต่างกัน
ผู้ใช้ยังสามารถควบคุมตำแหน่งของกรอบ AF ด้วยแอปพลิเคชัน EOS Utility หรือ Camera Connect ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานเมื่อต้องถ่ายภาพในมุมมองที่แปลกตา หรือในสถานที่ที่มีความยากลำบากสำหรับผู้ทำงานหลังกล้อง
มอบคอนเทนต์คุณภาพสูงแม้ถ่ายย้อนแสง
RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye ยังเป็นเลนส์นอกกลุ่ม L รุ่นแรกที่มีการเคลือบผิวเลนส์ป้องกันแสงสะท้อนแบบ ASC (Air Sphere Coating) เพื่อภาพที่ใสสะอาดและคมชัด โดยมีแสงโกสต์และแสงแฟลร์เกิดน้อยที่สุดแม้จะมีแหล่งกำเนิดแสงจ้าอยู่ในกรอบภาพก็ตาม เมื่อใช้งานร่วมกับกล้อง EOS R7 จะช่วยให้เลนส์มีความหนาแน่นของพิกเซลภาพสูง (จำนวนพิกเซลต่อมุมรับภาพ 1°) เทียบเท่าเลนส์รุ่น RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye ในกล้อง EOS R5 เมื่อบันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ให้ภาพความละเอียดสูงทั่วกรอบภาพแบบมุมต่อมุม
ฟีเจอร์ขั้นสูงอื่น ๆ เพื่อการทำงานที่ง่ายขึ้น
เลนส์ RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye มีขนาดเกือบเท่ากับรุ่น RF5.2mm f/2.8L Dual Fisheye แต่น้ำหนักเบากว่าเล็กน้อย (ประมาณ 290 กรัม ไม่รวมตัวยึดฟิลเตอร์ด้านหลัง) การออกแบบที่กะทัดรัดยังช่วยให้พกพาได้สะดวก เลนส์ยังมาพร้อมกับตัวยึดฟิลเตอร์ด้านหลังที่สามารถติดตั้งฟิลเตอร์แผ่น (ฟิลเตอร์เจลาติน) ที่มีจำหน่ายทั่วไป รวมถึงฟิลเตอร์แบบเกลียวขนาด 30.5 มม.
นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “แคนนอนเปิดตัวเลนส์ RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye เพื่อช่วยลดปัญหาของบรรดาครีเอเตอร์ในการเริ่มต้นสร้างคอนเทนต์ VR และเปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไปได้ทดลองสร้างเนื้อหาแบบ VR ได้ง่ายขึ้น เราเชื่อว่าเลนส์รุ่นนี้จะเปิดโลกแห่งโอกาสได้อีกมากมาย
เพราะในปัจจุบันผู้คนต่างแสวงหาแนวทางในการทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนใครเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสำหรับกลุ่มคอนเทนต์ครีเอเตอร์นั้น เลนส์ RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye จะเปิดโอกาสให้พวกเขาสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ไม่ซ้ำใครด้วยมุมมองที่สดใหม่ เพื่อสร้างความโดดเด่นในการแข่งขันและสามารถเข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ราคาวางจำหน่าย Canon RF-S3.9mm f/3.5 STM Dual Fisheye อย่างเป็นทางการในประเทศไทย 45,990 บาท เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2567 เป็นต้นไป
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.