9 พฤติกรรมที่คนใช้มือถือยังเข้าใจผิด ในปี 2024 ก็ยังผิดอยู่

ถึงแม้ในปี 2024 จะเป็นปีที่มีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีมือถือมากมายแล้วก็ตาม แต่ว่าก็ยังมีเรื่องที่คนส่วนใหญ่ใช้งานมือถือ หรือ สมาร์ทโฟนผิดอยู่ วันนี้ทีม Sanook Hitech รวบรวม พฤติกรรมแบบผิดๆ ในการใช้งานมือถือมาฝากกัน

ชาร์จไฟบ่อย

สำหรับในการชาร์จไฟมือถือเป็นเรื่องฮิตว่า ว่างก็ชาร์จไฟไปเลย เผื่อเหลือดีกว่าขาด การทำแบบนี้ไม่ส่งผลดีกับมือถือแน่นอน เพราะจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้เร็วมากขึ้น เพราะการทำงานของแบตเตอรี่มือถือโดยมากจะนับรอบของการชาร์จไฟ

ทั้งนี้การชาร์จไฟที่เหมาะสมยังคงแนะนำว่า ไม่ควรชาร์จไฟต่ำกว่า 20% แต่ถ้าไฟเกิน 80% หากไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องใช้งานอย่างต่อเนื่อง ไม่ควรชาร์จเพิ่ม เพื่อจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้

ชาร์จไฟเต็มร้อยอยู่เสมอ

เช่นเดียวกันกับเรื่องที่ผ่านมา คือหลายคนจะเข้าใจว่า แบตฯ ต้องเต็มร้อยเสมอ ซึ่งจริงๆ เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เนื่องแบตเตอรี่มือถือในปัจจุบันเป็นแบบ ลิเธียมไอออน หรือ ลิเธียมโพลิเมอร์ มักไม่ชอบเรื่องความร้อนอยู่ทุนเดินและ อาจจะมีปัญหาเรื่องความร้อนสะสมจนทหอายุการใช้งานสั้นลง

ปล่อยให้หมดก่อนแล้วชาร์จไฟ

อีกเรื่องที่ยังเข้าใจผิดอยู่ว่า ปล่อยให้แบตฯเหลือน้อยที่สุด หรือหมดไปเลยค่อยชาร์จไฟ อันนี้ก็มีผลร้ายกับแบตเตอรี่จะทำให้รอบการชาร์จน้อยลง แบตเตอรี่เสื่อมไวมากขึ้น

มือถือกันน้ำ จะกันน้ำตลอดไป!

เรื่องนี้ผิดอย่างร้ายแรงเพราะ ปกติมือถือที่กันน้ำจะมีซีลภายใน หากคุณใช้งานมือถือไปเรื่อยๆ และโดยความร้อนของเครื่องหรือปัจจัยภายนอกก็จะทำให้ซีลเครื่องเสื่อมได้ โดยมากแล้วมือถือกันน้ำมักจะกันน้ำได้แค่ 1 – 2 ปี

วางมือถือที่หัวเตียงเวลานอน

เรื่องนี้มีคนบอกมาว่า ถ้าวางแล้วอจจะมีผลต่อประสาทและระบบการนอนหลับ จริงแล้วมี่มีผลอะไร เพราะคลื่นที่ปล่อยมาค่อนข้างอ่อน แต่ที่จะทำให้นอนไม่หลับเพราะคุณเผลอหยิบมาเล่นมากกว่า

แนะนำว่าถ้าจะวางที่หัวเตียงหรืออยู่ดีๆ ขึ้นไปบนเตียงไม่ควรเสียบชาร์จไฟ

เปิด 5G ตลอดเวลา

เทคโนโลยี 5G มีผลดีคือเรื่องความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่ทำให้โดดเดนมากพอสมควร แต่ว่า ผลเสียคือแบตเตอรี่จะกินไฟมากขึ้น ดังนั้นถ้าไม่จำเป็น ปิดได้ก็ปิด หรือ เดี๋ยวนี้มือถือจะเลือกสัญญาณเอง จะทำให้ใช้ใช้ขุมพลังที่คุ้มค่ามากกว่า

เลือก อะแดปเตคอร์ชาร์จไฟที่กำลังสูงมาใช้

จริงๆ ไม่ใช่เรื่องผิด แต่การเลือกก็ควรจะเลือกที่เหมาะสมกับมือถือเครื่องนั้นๆ เพราะนอกจากจะเปลืองเงินแล้ว กำลังไฟที่เข้ายังคงเท่าเดิม

ใช้สายอะไรก็ชาร์จไฟมือถือ

เรื่องนี้บางคนคิดว่าเอาสายราคาถูกมาชาร์จไฟมือถือก็ได้ แต่สังเกตไหมว่าถ้าชาร์จไฟแล้วอยู่ดีๆ เครื่องตัดการทำงานก็เพราะสายไม่มีคุณภาพ อาจจะมีกำลังไฟที่น้อยไปหรือ สูงเกินกว่าเครื่องจะรับได้ ดังนั้นควรจะเลือกสายชาร์จ หรือสาย USB ที่เหมาะกับเครื่องจะดีกว่า หรือ ดูจากสายติดกล่องก็ได้ครับ

ปิดเครื่องทุกครั้งหากไม่ได้ใช้

อาจจะเป็นเรื่องจริงเฉพาะมือถือที่ไม้ได้ใช้นานๆ หรือบางคนที่ชอบสะสม แต่ถ้าเป็นคนทั่วไปไม่จำเป็นต้องปิด แค่รีสตาร์ทเครื่อง 3 – 4 วันครั้งหนึ่งก็ได้ เพื่อให้เครื่องเริ่มต้นใหม่เสมอ จะได้ทำงานไวขึ้นเช่นกัน

เห็นไหมครับจริงๆ เรื่องที่เราใช้มือถือผิดๆ อาจจะอยู่ใกล้ตัวกว่าที่เราคิด ถ้าจะใช้มือถือเครื่องนั้น นานๆ เราควรจะใช้ให้ถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง