ชมเครื่องจริง Xiaomi 14 Series ของจริงก่อนเปิดตัวในเมืองไทย

สำหรับพรีวิวรอบนี้เนื่องจากเวลาเหลือ ก็เลยมีการพาคุณไปดูมือถืออีกรุ่นที่จะมาขายในประเทศไทยอย่างแน่นอนกับ Xiaomi 14 Series โดยรอบนี้มีภาพมาฝากเล็กน้อยด้วยครับ มารับชมได้เลย

Xiaomi 14

รายละเอียดสเปกของ Xiaomi 14

• ขนาดตัวเครื่อง (ยาว x กว้าง x หนา) 152.8 x 71.5 x 8.2 มม. 

• น้ำหนัก 188 กรัม 
• หน้าจอ AMOLED  ขนาด 6.36 นิ้ว หน้าจอ E6 OLED Materials ความละเอียด 1200 x 2670 Refresh Rate 120Hz แบบ Adaptive Sync ความสว่าง 3,000 niuts
• ชนิดกระจกกันรอย ไม่ได้ระบุแต่คาดว่า ไม่ได้ระบุ
• ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3
• กราฟิก : Adreno 750 

•  RAM ขนาด 8/12/16GB 
• พื้นที่จัดเก็บภายใน : 256/512GB และ 1TB
• พื้นที่จัดเก็บภายนอก : ไม่สามารถเพิ่มได้ 
• การเชื่อมต่อ WiFi11 B/G/N/AC/AX(6E)/BE(7), Bluetooth 5.4, 4G, 5G, A-GPS, GPS 
• ลำโพง : Dual Speaker บนและล่าง รองรับ Dolby ATMOS 

• กล้องดิจิทัลด้านหน้า 
• ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล Super Pixel 4-in-1 F.2.0 รองรับ Dynamic Frameing (0.8 – 1x) 
• วิดีโอ : 4K@30/60fps, 1080p@30/60fps

• กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว เลือกใช้ ประกอบด้วย 
• กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ Light Hunter 900 รูรับแสง F/1.6 เก็บความสว่างมากขึ้น 80% พร้อมกับระบบ OIS
• กล้อง Telephoto ความละเอียด 32 ล้านพิกเซลและเข้าใกล้มากสุด 10 เซนติเมตร พร้อมระบบ OIS
• กล้องมุมกว้างความละเอียด 50 ล้านพิกเซล และมุมกว้าง 115 องศา พร้อมกับระบบ EIS
• วิดีโอถ่ายได้ที่ 8K@30FPS / 4K@30/60fps, 1080p@30/60/120fps Slowmotion ช้าสุด 1,920FPS , HDR, gyro-EIS, สีแบบ 10-bit 
• LED Flash 
• ปรับค่าสีได้ทั้ง Leica Authentic Look & Leica Vibrant Look และฟิลเตอร์ จาก Leica ทั้งหมด 5 รูปแบบ 

• ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น :IP68 
• ระบบปลดล็อค Face Recognition แบบ 3D ToF Scanner และ ระบบสแกนนิ้วในหน้าจอ 
• แบตเตอรี่ความจุ 4610mAh 
• รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 90W แบบ Turbo Charge / 50W แบบ Wireless Turbo Charge / 10W Reverse Wireless Charging 
• ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 13 + MIUI 14 
• สี Black, Silver, Pink, Green

Xiaomi 14 Pro

รายละเอียดสเปกของ Xiaomi 14 Pro

•  ขนาดตัวเครื่อง (ยาว x กว้าง x หนา) 161.4 x 75.3 x 8.5 มม. 
• น้ำหนัก 223 กรัม 
• หน้าจอ AMOLED  ขนาด 6.73 นิ้ว เทคโนโลยี E6 OLED Materials ความละเอียด 3200 x 1440 Refresh Rate 120Hz แบบ Adaptive Sync Pro ระหว่าง 1 – 120Hz ค่าความสว่าง 3,000 nits
• ชนิดกระจกกันรอย ไม่ได้ระบุแต่คาดว่า Xiaomi Longjing Glass
• ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 
• กราฟิก : Adreno 750 
•  RAM ขนาด 12 / 16GB 
• พื้นที่จัดเก็บภายใน : 256/512/GB และ 1TB 
• พื้นที่จัดเก็บภายนอก : ไม่สามารถเพิ่มได้ 
• การเชื่อมต่อ WiFi11 B/G/N/AC/6E(AX)/7(BE), Bluetooth 5.4, 4G, 5G, A-GPS, GPS 
• ลำโพง : Dual Speaker บนและล่าง รองรับ Dolby ATMOS 
• กล้องดิจิทัลด้านหน้า 
• ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล Super Pixel 4-in-1 F.2.0 รองรับ Dynamic Frameing (0.8 – 1x) 
• วิดีโอ : 4K@30/60fps, 1080p@30/60 FPS

• กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว เลือกใช้เลนส์ LEICA VARIO-SUMMICRON ประกอบด้วย 
• ตัวหลักความ 50 ล้านพิกเซล ขนาด 1/1.31 พร้อมกับขนาดเซนเซอร์ 2 μm รองรับ Dynamic Range ชดเชยแสงได้ 13.5 EV เลนส์มุมกว้าง 23 มิลลิเมตร รูปรับแสง F/1.42 และแคบสุด F/4.0
• เลนส์ Telephoto ระยะ 75 มิลลิเมตร F/2.0 ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล (50 ล้านพิกเซลในแบบ Portrait Mode)
• เลนส์ Ultra Wide มุมกว้าง 115 องศา ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/2.2 สามารถเข้าใกล้สูงสุด 5 เซนติเมตร
• กล้องหน้าคาว่าใช้ 32 ล้านพิกเซลเหมือนเดิม
• วิดีโอถ่ายได้ที่ 8K @30 FPS / 4K@30/60fps, 1080p@30/60/120fps Slowmotion ช้าสุด 1,920FPS , HDR, gyro-EIS, สีแบบ 10-bit 
• LED Flash 
• ปรับค่าสีได้ทั้ง Leica Authentic Look & Leica Vibrant Look และฟิลเตอร์ จาก Leica ทั้งหมด 5 รูปแบบ 

• ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น :IP68 
• ระบบปลดล็อค Face Recognition แบบ 3D ToF Scanner และ ระบบสแกนนิ้วในหน้าจอ 
• แบตเตอรี่ความจุ 4880mAh 
• รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 120W แบบ HyperCharge / 50W แบบ Wireless Turbo Charge / 10W Reverse Wireless Charging 
• ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 14 + HyperOS 
• สี ดำ, ขาว, เขียว (Rock Green) และสีพิเศษคือ Titanium Special Edition

โดยรวมแล้วทั้งคู่ไม่ได้แตกต่างจาก Xiaomi 13 ในเรื่องการออกแบบโดยเฉพาะตัวเล็ก แต่ว่าถ้าเป็น Xiaomi 14 Pro ชัดเจนว่าเบากว่าเดิมนิดหน่อย และยังออกแบบให้ตัวเครื่องนั้นจอโค้งน้อยลง

ความลื่นไหล เราคงต้องลุ้นกับเวอร์ชั่นตลาดโลก แต่สำหรับในเวอร์ชั่นจีนถือว่าตอบสนองได้รวดเร็วและการทำงานของ HyperOS สร้างความแปลกใหม่ โดยรอบนี้ภายในมีการอัดฟีเจอร์เยอะอยู่จนเรียกว่าเวลาที่เล่นไม่ได้เยอะมากอาจจะเจาะให้ไม่หมด แต่ยังคงแนะนำให้รอเวอร์ชั่นตลาดโลกดีกว่า

สุดท้ายมันจะเป็นอีกรุ่นที่น่าจับจ้องในตลาดเรือธงของปีอีกตัวหนึ่งเรียกว่าคู่แข่งต้องหันมองเพราะบางจุดทำได้ดีอยู่แถมปรับปรุงระบบชาร์จไฟใหม่ด้วยนะ ในรุ่นเล็กจะชาร์จไฟเร็วขึ้น แต่ว่ารุ่นไทเทเนียมคาดว่าไม่มา ไม่ต้องหวังอะไรหรอกนะ

แต่ลุ้นกันต่อไปว่ามือถือเรือธงรุ่นนี้จะเปิดตัวในตลาดโลกเมื่อไหร่ และวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ รอติดตามกันต่อไปครับ แต่เชื่อว่า ไม่นานหรอกครับ