ท้าวทองกีบม้า กับชีวิตที่กลับมารุ่งโรจน์หลังฟอลคอนตาย-โดนขังคุก “พรหมลิขิต”
จากละคร พรหมลิขิต ชีวิตของ ท้าวทองกีบม้า มีช่วงที่รุ่งโรจน์สุดๆ และจุดที่ตกต่ำที่สุด แต่ยังสามารถกลับมามีชีวิตที่สุขสบายดีได้อีกครั้งจนสิ้นอายุขัย เกิดอะไรขึ้นกับท้าวทองกีบม้าบ้าง
กลับพระนคร ทำงานในวัง
หลังจากที่ฟอลคอนโดนสั่งประหาร ท้าวของกีบม้าและลูกๆ โดนจับเข้าคุก ซ้ำหลวงสรศักดิ์ (พระเจ้าเสือ) หรือกรมพระราชวังบวรสถานมงคล พระราชโอรสในสมเด็จพระเพทราชา พระเจ้าแผ่นดินใหม่ ได้หลงใหลพึงใจในรูปโฉมของนาง และมีพระประสงค์ที่จะนำนางไปเป็นบาทบริจาริกา แต่เมื่อไม่สมดั่งใจประสงค์ก็แปรเป็นความเกลียดและขู่อาฆาต จนทำให้นางพยายามหาทุกวิถีทางที่จะติดต่อกับชาวฝรั่งเศส เพื่อขอออกไปจากแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา จนได้รับความช่วยเหลือจากนายพลเดฟาร์ฌที่ประจำการที่ป้อมวิไชยเยนทร์ที่บางกอกได้ให้สัญญากับนางว่าจะพาออกไปพ้นกรุงสยาม แต่นายพลเดฟาร์ฌได้บิดพลิ้วต่อนาง นอกจากปฏิเสธนางแล้ว ยังได้กักขังหน่วงเหนี่ยวนางในหอรบ ควบคุมอย่างเข้มงวด และส่งตัวนางกลับอยุธยา
เมื่อท้าวทองกีบม้าได้กลับมายังกรุงศรีอยุธยาอีกครั้ง สมเด็จพระเพทราชาให้นางปฏิบัติหน้าที่เป็นพนักงานเครื่องต้นในวัง
ส่งจดหมายทวงเงินให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14
ในปี 2249 ระหว่างที่ยังทำวานเป็นเครื่องต้นในวัง ท้าวทองกีบม้าส่งจดหมายหาพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ให้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ บังคับให้รัฐบาลฝรั่งเศสส่งส่วนแบ่งรายได้ของบริษัทฝรั่งเศสที่สามีเคยเป็นผู้อำนวยการแก่นางบ้าง และพรรณนาความทุกข์ยากลำบากของนาง ว่าทำงานหนักตลอดเวลา ไม่มีที่ซุกหัวนอนเป็นหลักแหล่ง ได้แต่นอนบนดินชื้นๆ เฝ้าห้องเครื่อง
ทำขนมไทย
การทำงานเป็นเครื่องต้นในวัง เป็นจุดเริ่มต้นของท่านท้าวทองกีบม้าที่เป็นต้นสั่งสอนให้ชาวสยามทำของหวานคือขนมทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอด ขนมทองโปร่ง ทองพลุ ขนมผิง ขนมฝรั่ง ขนมขิง ขนมไข่เต่า ขนมทองม้วน ขนมสัมปันนี ขนมหม้อแกง และสังขยา ที่ชาวไทยรู้จักเธอในนาม “ราชินีแห่งขนมไทย” ในเวลาต่อมานั่นเอง
เรื่องของการทำขนมไทย ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าท้าวทองกีบม้าเป็นคนคิดสูตรขนมเองจริงๆ หรือเป็นสูตรขนมมาจากคนอื่น แต่อย่างไรก็ตาม ท้าวทองกีบม้าก็ยังเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ขนมไทยเหล่านี้ให้เป็นที่รู้จัก และเอกลักษณ์ของขนมไทยจนถึงทุกวันนี้
ขนมไทยที่เชื่อกันว่าท้าวทองกีบม้าอาจเป็นคนทำขึ้น
เมื่อครั้งที่ท้าวทองกีบม้า เข้ารับราชการในห้องเครื่องต้น กำกับเครื่องชาวพนักงานหวานในพระราชวัง ก็ได้สร้างสรรค์ขนมหวานหลายชนิด โดยดัดแปลงมาจากตำรับอาหารโปรตุเกสให้เป็นขนมหวานของไทย โดยผสมผสานความรู้ด้านการทำอาหารที่มีมาแต่เดิมมารวมเข้ากับวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่น ทั้งยังสอนความรู้ดังกล่าวแก่เหล่าสตรีในบัญชา จนตำรับเป็นที่เผยแพร่โดยทั่วไปและตกทอดสู่อนุชนรุ่นหลัง ถือเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมโปรตุเกสที่แพร่เข้าสู่สังคมไทย ขนมที่เชื่อว่าท้าวทองกีบม้าได้ดัดแปลงเป็นขนมหวานของไทยนั้น มีดังต่อไปนี้
- ทองม้วน
- ทองหยิบ
- ทองหยอด
- ทองพลุ
- ทองโปร่ง
- ฝอยทอง
- กะหรี่ปั๊บ
- ขนมหม้อแกง
- สังขยา
- ขนมผิง
- สัมปันนี
- ขนมขิง
- ขนมไข่เต่า
- ลูกชุบ
ชีวิตกลับมารุ่งโรจน์ มีข้าราชบริพารในอำนาจมากมาย
หลังสิ้นรัชกาลพระเจ้าเสือ ชีวิตของมาดามฟอลคอนได้กลับมาดีขึ้นโดยลำดับ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระทรงโปรดเกล้าให้มาดามฟอลคอนเข้ามารับราชการฝ่ายใน โดยไว้วางพระราชหฤทัยให้นางดูแลเครื่องเงินเครื่องทองของหลวง และเป็นหัวหน้าเก็บพระภูษาฉลองพระองค์ และมีสตรีในบังคับบัญชากว่า 2,000 คน ทั้งนี้ท้าวทองกีบม้าปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต คืนเงินสู่ท้องพระคลังปีละครั้งมาก ๆ ทุกปี จนเป็นที่โปรดปรานในองค์พระมหากษัตริย์ รวมทั้งจอร์จ บุตรชายของเธอที่ยังมีชีวิตอยู่ ด้วยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระทรงโปรดไว้ใกล้ชิดพระองค์
ส่วนบุตรคนเล็กคือ คอนสแตนติน ได้สนองพระเดชพระคุณสร้างออร์แกนเยอรมันถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ จากหลักฐานของมิชชันนารีฝรั่งเศส คอนสแตนตินถูกเรียกว่า ราชมนตรี เป็นตำแหน่งผู้นำของชุมชนคริสตัง
ได้เงินส่วนของสามีจากรัฐบาลฝรั่งเศส ใช้ชีวิตอย่างสุขสงบจนถึงแก่กรรม
ในปี พ.ศ. 2260 รัฐบาลฝรั่งเศสได้มีมติอนุมัติให้ส่งเงินรายได้ที่เป็นของฟอลคอนแก่นางตามที่นางขอร้องในจดหมายที่เคยส่งไปมาให้ ที่สุดหลังพ้นจากวิบากกรรมอันเลวร้าย ท้าวทองกีบม้าได้ใช้เวลาแห่งบั้นปลายชีวิตที่เหลือด้วยการปฏิบัติศาสนกิจอย่างเคร่งครัดโดยพำนักอยู่กับลูกสะใภ้ที่ชื่อ ลุยซา ปัสซัญญา (Louisa Passagna) ภริยาม่ายของคอนสแตนติน และได้ถึงแก่มรณกรรมในปี พ.ศ. 2265 สิริอายุขัย 63-64 ปี
- เปิดประวัติ "ท้าวทองกีบม้า" ราชินีขนมไทยใน "บุพเพสันนิวาส" จากสูงสุดสู่จุดต่ำสุดในชีวิต
- เปิดประวัติ เจ้าพระยาวิชเยนทร์ สแตนติน ฟอลคอน ขุนนางตัวร้าย ใน บุพเพสันนิวาส
- เปิดประวัติ "พระเพทราชา" พระเอกหรือผู้ร้าย? "บุพเพสันนิวาส"
- เปิดประวัติ "พระเจ้าเสือ" หลวงสรศักดิ์ กษัตริย์อยุธยาผู้มีนิสัยไม่ธรรมดา "พรหมลิขิต"
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.