เปิดใจ เน็ค นฤพล คนกลัวผีมาเป็น "สัปเหร่อ" สืบสานพิธีกรรมงานศพ

เน็ค นฤพล สมหวังได้เป็นส่วนหนึ่งของ จักรวาล ไทบ้าน เปิดประสบการณ์คนกลัวผี มาเป็น สัปเหร่อ สืบสานพิธีกรรมงานศพ ปลื้มฮอตจนโรงแตก

เน็ค นฤพล นักร้องลูกทุ่งอีสาน จากค่ายแกรมมี่ โกลด์ เปิดใจกับทีมข่าว Sanook.com รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก ที่ได้รับความไว้วางใจจาก จักรวาล ไทบ้าน ให้ได้รับบท เจิด พระเอกภาพยนตร์ สัปเหร่อ ภาคต่อ ไทบ้าน เดอะซีรีส์ ผลงานกำกับ ต้องเต-ธิติ ศรีนวล

เจ้าของเสียงร้องเพลงเจ็บส่ำฟ้า บอกว่า การได้มาเล่นภาพยนตร์ที่กำลังโกยรายได้เนื้อๆ เน้นๆ ในเวลานี้ สำหรับเขาเรียกมันว่า "สมหวัง"

"ผมเป็นคนอีสาน มีบ้านอยู่ทั้งที่สุรินทร์ และศรีสะเกษ โซนเดียวกับพี่ๆ ทีมงานจักรวาล ไทบ้าน ติดตามผลงานไทบ้านเดอะ ซีรีส์ มาทุกภาค ชื่นชอบผลงานของเขา ชื่นชอบความเป็นไทบ้าน จนเกิดความอยาก ถ้าได้เป็นส่วนหนึ่งก็คงจะดี"

"แต่ก่อนจะสมหวัง ก็ต้องผ่านการแคส หรือคัดเลือกนักแสดง เพราะทางทีมงานติดต่อผมมาให้ไปแคสก่อน ไม่ใช่ให้ไปเล่นเลย ซึ่งตอนที่คัดเลือกก็มีหลายคน ผมแสดงออกไปในสิ่งที่อยากจะเล่น อยากจะให้เจิดเป็นแบบที่เราอยากให้เป็น แล้วก็สมหวังได้เล่น"

เน็ค บอกต่อ ตัวตนที่แท้จริงเขาเป็นคนกลัวผี เวลาอยู่ในบรรยากาศเงียบสงัด รู้สึกวังเวง แค่ได้ยินเสียงก๊อกแก๊กๆ จะรู้สึกตกใจกลัวจนไม่คิดหน้าคิดหลัง ส่งผลกับการทำงานในช่วงแรกๆ เนื่องจากการถ่ายทำเน้นความเรียล ถ่ายทำกันในป่าช้าจริงๆ มีทั้งความกลัว ตื่นเต้น ปนความกดดัน

"คำว่าไทบ้าน สิ่งที่เด่นของเขาคือความเรียล เห็นในสิ่งที่เห็น รู้สึกในสิ่งที่รู้สึกจริงๆ ถ้าปลอมก็รู้เลยว่าปลอม ช่วงแรกๆ ต้องปรับตัวหนักมาก ถ่ายกัน 20-30 เทค กว่าจะผ่านได้แต่ละฉาก ไปถ่ายในสถานที่จริง เป็นป่าช้าเก่า"

"มันมีเหตุการณ์อยู่เหตุการณ์หนึ่ง ไฟเกือบไหมหัวผู้กำกับ ตอนนั้นถ่ายฉากเผาศพ ตามพิธีกรรมของคนอีสาน สมันก่อนเอาโลงศพไปตั้งบนกองฟอน หรือกองฟืน เอาน้ำมันโซล่าราดแล้วก็จุดไฟเผา ถ่ายกันอยู่หลายเทค พอเทคที่ 4 สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น"

"ผมอยู่ห่างจากผู้กำกับไม่เกิน 2 วา ความรู้สึกเหมือนมีลมตีเข้าหน้าวูบหนึ่ง แล้วเปลวไฟมันพวยพุ่งเขามาที่หัวผู้กำกับ ไหม้ผมแล้ว เขาไปแช่น้ำดับได้ทัน โชคดีที่ยังไม่ไหม้ทั้งหัว เราถ่ายในป่าช้าจริง ไม่รู้ว่าเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค หรือว่าใครทำพลาดอะไร แต่ก่อนถ่ายทำก็มีการทำพิธีบอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทาง สิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็นตลอด"

"แล้วก็มีอยู่วันหนึ่ง ผมไปมาจากงานคอนเสิร์ต ระหว่างรอเข้าฉากผมก็ไปนอนตรงหน้าเมรุ ที่เขาพักศพก่อนทำพิธีฌาปนกิจ มันเหมือนมีคนมาสะกิด แล้วก็เขย่า บอกว่า มานอนอะไรตรงนี้ มาทำอะไรตรงนี้ ตื่นๆ บอกแบบนี้หลายๆ รอบ จนผมสะดุ้งตื่น ลืมตาขึ้นมาก็ไม่เห็นเจอใคร ไม่มีใคร ขนลุกเลย วันนั้นก็ไม่กล้านอนอีกเลย ง่วงก็ง่วง เพลียก็เพลีย ฝืนเอาทนเอา"

เน็ค เล่าต่อว่า การมารับบทเจิด นอกจากศึกษาจากบทที่ผู้กำกับมอบให้แล้ว เพื่อความสมจริง เขายังต้องศึกษาพิธีกรรมการทำศพ การทำงานของสัปเหร่อเพิ่มเติม และลงมือปฏิบัติธรรมจริงๆ ได้รู้ถึงความเชื่อ และซึมซับคติธรรมจากการทำศพ จากคนกลัวผีวันนี้เปลี่ยนเป็นไม่กลัวแล้ว

"เจิดเป็นลูกของสัปเหร่อเรียนกฏหมายที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม พอเรียนจบ ระหว่างรอสอบตั๋วทนายได้กลับมาอยู่บ้าน ไม่มีความรู้เกี่ยวกับงานสัปเหร่อเลย พ่อป่วยไปทำงานไม่ได้ พอมีคนตายได้ไปทำแทน อย่างที่บอกว่าหนังเน้นความเรียล ผมทำทุกอย่างเหมือนสัปเหร่อจริงๆ"

"ได้รู้เรื่องศาสนพิธี ประเพณี พิธีกรรม การกระทำแต่ละขั้นตอน โบราณท่านได้สอนธรรมไว้ในพิธีกรรมเหล่านั้นด้วย เช่นการรดน้ำที่มือของผู้ตาย เป็นการมุ่งเตือนสติผู้ที่มาร่วมงานว่าผู้ที่ตายทุกคนไปมือเปล่าไม่ได้อะไรติดตัวไปเลย แม้แต่เทลงฝ่ามือก็ไหลร่วง"

"มัดตราสังข์ สามเปราะ มัดที่คอ หมายถึง บ่วงรักลูก มัดที่มือ หมายถึง บ่วงรักสามี ภรรยา มัดตรงข้อเท้าหมายถึง บ่วงรักทรัพย์สมบัติ ติดอยู่สามบ่วงนี้ไปนิพพานไม่ได้ ต้องเวียนว่ายในสังสารวัฏฏ์ไม่จบสิ้น"

"การเคาะโลง รับศีล ไม่ใช่ให้คนตายมารับศีล แต่เป็นการบอกผู้มาร่วมงานว่า อย่ามัวเมาจนขาดสติ เมื่อหมดโอกาสทำความดี เคาะจนโลงแตกก็ลุกขึ้นมาทำไม่ได้ รวมถึงการใช้น้ำมะพร้าวล้างหน้าศพ เพื่อชี้ให้เห็นว่าน้ำมะพร้าวเป็นบริสุทธิ์ ต้องชำระจิตใจให้สะอาดด้วยน้ำพระธรรม"

"หนังได้ถ่ายทอดคติธรรม และความเชื่อ ผ่านความเป็นคนขี้สงสัยของเจิด บทคาถาที่สัปเหร่อบ้านผมท่อง จากที่ไม่รู้ตอนนี้ท่องได้เป๊ะเลย ผมโทรไปให้คุณตาท่องให้ฟังแวอัดเทปไว้ท่องตาม พูดถึง 32 ประการในตัวเรา"

"ผมอินมาก ทำให้เข้าใจความตายว่าเป็นเรื่องปกติ ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากการปรุงแต่ง เราต้องมีสติในการดำเนินชีวิต ตอนนี้ไม่กลัวผีแล้ว วันหนึ่งเราก็ไปอยู่ในจุดนั้นไม่ใครหนีพ้น แต่กลัวตัวเองจะขาดสติจนลืมทำความดีมากกว่า"

ในการเปิดใจครั้งนี้ นักร้องหนุ่ม ผลผลิตจาก โครงการน้องใหม่ไต่ดาว โครงการ 2 ได้รับโอกาสเป็นศิลปินค่ายเพลงชั้นนำ มีผลงานเพลง และงานละคร ออกมามอบความสุขแฟนๆ ต่อเนื่อง บอกว่า ภาพยนตร์เรื่องสัปเหร่อ เป็นการถ่ายทอดประเพณี และพิธีกรรมของคนอีสาน ให้คนดูกลัวไป เศร้าไป ยิ้มไป ฮาไป กรี๊ดไป ได้อย่างกลมกล่อม

"ผมว่านี่เป็นอีกปรากฏการณ์ คำว่าสืบสานประเพณี หลายคนอาจจะคิดถึงแต่งงานรื่นเริง สงกรานต์ บุญโน่นบุญนี่ แต่การทำงานศพมันก็เป็นประเพณีหรือพิธีกรรมที่หลายคนมองข้าม ส่วนใหญ่รู้ว่าสงกรานต์ต้องทำยังไง วันไหนวันครอบครัว รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ต้องเตรียมอะไรบ้าง มีขั้นตอนยังไง แต่พิธีกรรมทำศพมีขั้นตอนยังไง หลายคนไม่รู้"

"หนังเรื่องนี้มีการทำศพหลายแบบ แบบฝรั่งแบบคริสต์ก็มี การทำศพสัตว์ก็มี แต่การทำศพของภาคอีสานค่อนข้างชัดเจน งานศพก็เป็นประเพณีหนึ่งที่ต้องสืบสาน รู้ไว้ก็ดี มีขั้นตอน หนึ่ง สอง สาม ยังไง ถ้าโลกหมุนไปอีก 40 ปี คนที่เป็นสัปเหร่อหายหมด ใครจะเป็นคนสืบทอด"

เน็ค บอกอีกว่า หลังจากได้เปิดประสบการณ์ การเป็นสัปเหร่อ ในหนังเรื่องนี้ ส่วนตัวมองว่า "อาชีพสัปเหร่อ" เป็น "อาชีพที่มีเกียรติ" เป็นอาชีพที่ต้องมีใจเสียสละ ควรได้รับการยกย่อง มิใช่ถูกเหยียดว่าเป็นอาชีพต่ำเตี้ยเรียดิน หากินกับศพ

"อาชีพ สัปเหร่อเป็นอาชีพที่คนอาจไม่มองข้าม แต่ก็ไม่ได้คิดถึง คนที่ทำอาชีพนี้ต้องมีความเสียสละ มีใจรัก ต้องการนำพาดวงวิญญาณของร่างที่ไร้ลมหายใจไปสู่สุขคติ ประกอบพิธีทางศาสนาให้เป็นไปตามพิธีกรรม แล้วแต่เจ้าภาพจะใส่ซองให้ เป็นจุดเริ่มต้นของงานศพ และบทสรุปสุดท้าย"

"อยากให้ทุกคนมองว่าสัปเหร่อเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เหมือนทุกอาชีพ ลองคิดตามดูสิ เวลาที่มีคนตาย พี่น้องก็ไม่ใช่ ญาติก็ไม่ใช่ เขาทำทุกอย่างให้โดยไม่เกี่ยงว่าเป็นใคร ต้องได้ค่าจ้างเท่านั้นเท่านี้ ตั้งแต่รดน้ำศพจนเผาเหลือแต่เถ้ากระดูก ถ้าไม่มีอาชีพนี้ตายแล้วเผาไปเลยแบบไม่มีพิธีกรรม"

ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ เน็ค บอกทิ้งท้ายว่า เขารู้สึกภูมิใจ ที่ได้เป็นหนึ่งในนักแสดงเรื่องสัปเหร่อ ภาพยนตร์ที่คอหนังรอคอยกันมานานกว่า 5 ปี เมื่อได้กำหนดเข้าฉายได้รับความกระแสตอบรับท่วมท้น รายได้ทะลุ 50 ล้าน หลังจากเข้าโรงเพียงแค่ 3 วัน "โรงแตก รอบไม่พอ จนต้องเพิ่มรอบ"

ทั้งยัง มีเสียงชื่นชมมากมายว่า เป็นผลงานคุณภาพ เป็นหนังไทยฟอร์มแจ่ม

สำหรับภาพยนตร์เรื่อง สัปเหร่อ เป็นภาพยนตร์ภาคแยกจากจักรวาล ไทบ้าน ที่คอหนังรอคอยกันมายาวนานกว่า 5 ปี หลังจากไทบ้าน 2.2 เป็นภาพยนตร์แนวระทึกขวัญปนคอมเมดี้ เนื้อเรื่องเนื้อหามีผีเข้ามาเกี่ยวข้อง ผู้กำกับแสดงความสามารถทำให้มุกตลกกับความน่ากลัว และดราม่าไปด้วยกันได้ สร้างสรรค์ความเป็นธรรมชาติตามแบบฉบับอีสาน ถือเป็นเสน่ห์ของภาพยนตร์ตระกูลไทบ้าน เดอะซีรีส์

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.