"หนุ่ม กรรชัย" เล่าแบบเปิดใจ โทรคุย "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ถึง 3 ครั้ง พี่ถือว่า พี่ให้โอกาสแล้ว

กลายเป็นประเด็นที่ถูกให้ความสนใจทันที สำหรับกรณีที่ หนุ่ม กรรชัย ได้แฉคลิปเสียงคล้ายอดีตนักร้องชื่อดังพูดคุยกับ บอสปัน ดิไอคอน ให้ไปออกรายการ โหนกระแส แต่ต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนสูงถึง 20 ล้านบาท

ซึ่งต่อมา ฟิล์ม รัฐภูมิ ก็ได้ออกมาแถลงข่าว ยอมรับเป็นเสียงจริง พร้อมชี้แจงตนเป็นแค่ส่วนบริษัทพีอาร์เท่านั้น

ล่าสุด หนุ่ม กรรชัย ได้ออกมาเปิดใจขณะจัดรายการ ตีข่าวใส่ไข่ ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งยังเล่าว่าได้มีโอกาสโทรคุยกับ ฟิล์ม รัฐภูมิ ถึง 3 ครั้งด้วยกัน นั่นถือว่าเป็นการให้โอกาสแล้ว

"พี่ไม่ได้สนิทกับฟิล์ม คือพี่บอกแบบนี้ พี่ไม่ได้คุยกับฟิล์มมาประมาณ 5 ปี แล้วอยู่ๆ ฟิล์มเริ่มติดต่อมาตอนที่เริ่มมีประเด็นดิไอคอนนี่แหละ โทรมาบอกว่ารู้จักกับทางพอลและเมียของพอล อยากจะพามาออกรายการ พี่ก็บอกก็มาได้ พี่ยินดี เขาจะได้มาชี้แจงในมุมของเขาไปเลย จะมาวันไหน วันนี้ได้ไหม วันนั้นได้ไหม แต่เขาก็บอกไม่ได้ ถ้าจะมาออกต้องมีข้อแม้ 1 อย่าง คือขอเอาพี่สาวคนหนึ่งมาออกด้วย ก็คือฝั่งของคนที่มาออกนั่นแหละ คนนึง"

"คือต้องบอกแบบนี้ คลิปทั้งหมดมันมี 29 นาทีครึ่ง ที่ผมเปิดให้ฟัง 4 คลิปนี้คืออยู่ท้ายคลิป แต่กว่าจะมาถึงตอนนี้คือมันจะมีการบรรยายมาหมดเลย เรื่องยังไง ชวนเชื่อ ชวนให้บอสปันเชื่อว่าคุยกับพี่ได้นะ เดี๋ยวจะหาทางลงให้ เป็นการโน้มน้าว และปิดที่บอกจะโทรหาศิลปินท่านนั้น เพราะเขาเป็นคนคุยกับพี่แล้ว"

"สิ่งที่ไปพูดกันแบบนี้ ว่า กรรชัย ชี้ถูกหรือชี้ผิด มันไม่ดี ผมไม่ใช่ศาล ไม่ใช่ผู้พิพากษา ผมไม่ใช่ตำรวจ ไม่มีกฎหมายในมือเลย รายการโหนกระแส เป็นแค่กระบอกเสียง สุดท้ายสังคมจะเป็นคนตัดสินเอง แต่นอกเหนือจากการที่เขาจะไม่ให้เกียรติพี่แล้ว เขายังไม่ให้เกียรติกฎหมายของประเทศด้วยนะ เขาไม่ให้เกียรติศาล ไม่ให้เกียรติใครเลย"

"ที่เอาชื่อพี่ไปพูด พี่รู้สึกว่ามันแย่มากนะ ที่มันเลวร้ายกว่านั้นคือต้องฟังสุดท้าย 20 ล้าน ขอเป็นเงินสด ได้เหรอ ไม่ควรทำอะไรแบบนี้เลย คลิป 29 นาทีครึ่ง คุณจะอึ้งกว่านี้ มันไม่ใช่การพีอาร์ มันไม่ใช่การตัดต่อ มันพิสูจน์กันได้"

หนุ่ม กรรชัย

"ก่อนที่จะอกมาพูดวันนี้ในรายการ ได้มีโอกาสคุยกับฟิล์มแล้ว โทรไปเมื่อคืน ก็ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น พี่โทรไป 3 ครั้ง ครึ่งหนึ่งพี่บอกว่า มีคนมาบอกพี่แบบนี้ เขาก็บอกมันไม่ใช่ เขาก็บอกเหมือนที่เขาอธิบายนั่นแหละ ว่าเขาไปรับงานพีอาร์มา ทางนั้นเสนอมา เขาจะเอา 20 ล้าน ไปออกรายการอื่นด้วย ไม่ใช่โหนกระแสอย่างเดียว เขาพูดมาแบบนี้ครั้งแรกนะ พี่บอกมันใช่เหรอ เขาบอก ใช่พี่"

"ครั้งที่ 2 โทรไปอีก ตอนถ่ายสามแซ่บเสร็จ เขาก็พูดเหมือนเดิม รู้สึกไม่สบายใจ เพราะตอนที่พี่โทรไป พี่ไม่ได้บอกว่าพี่มีคลิปอยู่ในมือแล้ว 29 นาทีครึ่ง พี่แค่ถามนำแค่นั้นเอง"

"สุดท้ายพี่โทรจริงๆ ตอนห้าทุ่มกว่า พี่บอกฟิล์ม พี่ได้ยินเสียงทั้งหมดแล้วนะ มีคนเปิดให้พี่ฟัง จะว่ายังไง ฟังพี่นะ พี่ก็พูด พูด พูด แล้วบอกไม่เข้าใจ ทำไมต้องทำแบบนี้ มันไม่ถูกต้อง พี่ก็พูดประมาณ 10 นาทีอะ เขาก็ยังตอบคำเดิม เขาน่าจะถูกตัดต่อเสียง ถ้ามันมีเสียงคลิปจริงๆ พี่ก็โอเค จบ เพราะพี่ถือว่า พี่ให้โอกาสแล้ว"

"คนเรา ถ้ามันมีความจริงใจ มันจะบอกเอง พี่จะรู้เอง เขาจะต้องพูดกับพี่เลยว่าข้อเท็จจริงคืออะไร จริงๆ ไม่จำเป็นต้องให้พี่บอกด้วยว่าพี่ได้ยินเสียงแล้ว ตั้งแต่ที่พี่โทรไปถาม เขาควรจะเล่าให้พี่ฟังแล้วว่า เรื่องจริงคืออะไร"

"เท่านั้นแหละ พี่รู้สึกว่า พี่ไม่โอเคแล้ว มันไม่ถูกต้องแล้ว พี่ก็ยกหูหาทนายเลย หลังจากที่คุยกับฟิล์มเสร็จ บอกเลยว่าผมส่งคลิปนี้ให้นะ พี่เอาคลิปนี้ไปให้ตำรวจ พรุ่งนี้ส่งใบตั้งทนายมาให้ผม เดี๋ยวผมเซ็นให้ เขาก็เอาใบมาให้ผมเซ็นตอนเช้า และให้มอเตอร์ไซค์ส่งเอกสารไปให้ เขาก็เข้าแจ้งความ จากนั้นพี่ก็เปิดในรายการตอนกลางวันเลย"

"ฟิล์มมีสิทธิ์ที่จะชี้แจงของเขา แต่พี่จะบอกว่าเรื่องนี้ถ้าเราพูดอะไรออกมา คำพูดจะเป็นนายของเราเอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราพูดออกมา เราก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เราพูด ถูกไหม เรื่องนี้มันพิสูจน์ได้ไม่ยากว่าคลิปมีการตัดต่อไหม"

"ส่วนที่ฟิล์มมาขอโทษพี่ ไม่ต้องมาขอโทษหรอก เพราะเมื่อคืนตอนที่พี่โทรไป ฟิล์มขอโทษพี่แล้ว ไม่ต้องมาขอโทษซ้ำอะไรอีก แค่อยากให้รู้ว่ามันไม่ควรทำแบบนี้ แต่ฟิล์มก็มีสิทธิ์ที่จะพูดในมุมของฟิล์มนะ แต่ต้องรับผิดชอบในคำพูด เรื่องนี้จะต้องมีการพิสูจน์แน่ๆ"

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.