คุยกับ WAII ศิลปินผู้อยาก (พูด) แทนคนที่ไม่กล้าเผยความรู้สึกจากใจ

หลังจากปล่อยเพลงเร็วกับค่าย XOXO Entertainment มา 2 ซิงเกิล ล่าสุด หวาย ปัญญ์ธิษา ก็กลับมาแล้วกับเพลง “ให้พูดได้มั้ย?” เพลงช้าเพลงแรกในรอบหลายปี ซึ่งเธอได้ท้าทายความสามารถในการแสดงและนำเรื่องความเจ็บปวดมาเล่า ซึ่งที่ผ่านมาเพลงของหวายก็มีจุดเด่นในแง่การถ่ายทอดความมั่นใจ ในแบบที่หลายคนไม่กล้าพูด

การที่กลับมากับเพลงที่หลายคนคุ้นเคยในส่วนของดนตรี ทำให้ Sanook ได้มาอัปเดตชีวิตกับหวายถึงการทำงานและทัศนคติที่มีต่อหลายโอกาสและเหตุการณ์รอบตัวเธอที่กำลังเกิดขึ้นพร้อมกันในวัย 30 ณ เวลานี้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องดีๆ สวนทางกับเพลง 

เพลง “ให้พูดได้มั้ย?” มีที่มาอย่างไร 

WAII : ก็มีการพูดคุยกันว่า ไม่ได้ปล่อยเพลงช้าเลย ตั้งแต่มาอยู่ค่าย เจอแฟนๆ ทักตลอดว่าเมื่อไหร่จะปล่อยเพลงช้า อยากทำเพลงช้าที่ปล่อยออกมา รู้สึกความเป็นหวาย นึกถึงอดีตก็เป็นเพลง “ให้พูดได้มั้ย?” ที่อาร์แอนด์บี ตั้งแต่เพลงก็ทำการบ้านดีมาก ฟังเพลงเก่าๆ เอาความหวายเมื่อก่อนมาใส่ในเพลง ถ้าคนไปฟังจะเห็นอีสเตอร์เอ้กที่พูดในเพลง “ทำร้ายฉันมาร้ายแรงเท่าไหร่ กอดสุดท้ายหมดความหมาย กลายเป็นรักที่หล่นหายไป” ก็ “กอดสุดท้าย” ก็เป็นเพลงของหวาย “ร้ายแรงเท่าไหร่” ก็เป็นเพลง “เสียใจแต่ไม่แคร์” มันจะแตกต่างตรงเพลงนี้โตขึ้น คนที่เคยฟังเพลงหวายตอนเด็กๆ มาฟังเพลงนี้มันจะจี้จุดค่ะ 

แล้วฟีดแบคหลังจากที่เรากลับมากับเพลงที่แฟนๆ คุ้นเคยเห็นอย่างไร 

WAII : ดีใจนะคะ บางทีเราอยู่วงการเพลงมานาน ตั้งแต่ 13 และมา 30 ก็จะแบบทุกคนยังรอผลงานเราอยู่ไหม อะไรอย่างนี้ และทุกคนให้กำลังใจเต็มที่ ปล่อยออกมาก็กระแสดีเพราะน่าจะได้น้อง เน็ต (สิรภพ มานิธิคุณ) มาด้วย แฟนคลับน้องๆ ก็น่ารักดี ทวิตจนขึ้นเทรนดิ้งประเทศไทย ขอบคุณมากๆ ค่ะ ตอนถ่ายทำก็สนุก ก็ขอบคุณน้องเน็ตที่รับบทนี้ เพราะมันไม่ง่ายเลยที่จะแสดง มันเป็นบทที่พระเอกเอ็มวีไม่ใช่คนดี น้องก็เล่นเก่ง และเราเล่นไม่เก่ง เวลาเล่นบทที่ไม่ตลก หรือยิ้มแย้มต้องใช้อินเนอร์เยอะมากๆ แล้วก่อนหน้านี้มิวสิควิดีโอของหวายจะแบบ ฉันไม่สน ฉันไม่แคร์ คือเราต้องแคร์มากๆ ตอนแรกต้องแคร์ ตอนหลังต้องไม่แคร์ ด้วยความยากแบบนี้ ด้วยความยาก คนส่งบทมันต้องดี และน้องเน็ตก็ส่งบทได้ดีมาก ช่วยเราได้มาก รวมถึงผู้กำกับมิวสิควิดีโอช่วยหวายได้จริงๆ เพราะก็หลุดขำบ้างยิ้มบ้าง มีกลัวบ้างแบบนี้ค่ะ 

หวายเป็นคนที่ผ่านเรื่องราวเรื่องความรักมาหลายรูปแบบ และเคยอยู่ข้างคนที่เจ็บปวดจากคนที่รัก เราอยากบอกอะไรคนที่เพิ่งเริ่มเจอ TOXIC Relationship 

WAII : อยากบอกว่า ณ จุดนี้ที่เราอยู่ เราจะแบบเราต้องอยู่กับคนนี้ หรือหลุดพ้นตรงนั้นไม่ได้ แต่ถ้าคุณก้าวออกไปเมื่อไหร่ บอกเลยว่าชีวิตจะสดใสขึ้นมาก และมันมีวันที่ดีขึ้นข้างหน้า บางทีเราอาจจะมีความรู้สึกว่าเขาไม่ดี แต่เขาก็รักเรานะ อะไรอย่างงี้ อยากบอกว่ามันมีคนที่รักเรา และไม่ทำให้เราเจ็บปวดทั้งทางคำพูด หรือการกระทำ มันไม่มีข้ออ้างที่จะอยู่ให้เขาทำร้าย มันมีวันที่ดีอยู่ข้างหน้า หวายจะคอยซัพพอร์ต มีอะไรหวายอยู่ตรงนี้ค่ะ 

ในรายการ ความลับกามิ เราได้รู้เลยว่าหวายเป็นคนซีเรียสกับภาพงานที่ออกไปว่าต้องเป็นตัวเองสุดๆ ตั้งแต่เด็ก ในอนาคตเราจะได้เห็นหวายลองทำอย่างอื่นไหม อย่างแต่งเพลงเอง โปรดิวซ์เอง หรือกำกับงานของตัวเอง 

WAII : เราแค่คิดว่าทำแล้ว ก็อยากทำให้ดีที่สุดค่ะ คือเราอยากให้ฟังแล้วรู้ว่าเป็นหวาย อย่างบางดราฟท์บางเดโม่มันไม่ใช่ตัวเรา บางทีก็แบบอีกนิดมันจะสุดยอด ชอบทำอะไรทำให้มันเข้ากับเราที่สุด และดีที่สุดต่างจากเราได้ค่ะ จริงๆ อยากกำกับมิวสิควิดีโอเพลงเองมากแต่ยังไม่มีโอกาสทำ อยากแต่งเนื้อร้องทำนอง แต่จะติดเรื่องภาษาค่ะ 

หวายเป็นคนที่เจออะไรมาหนักมากตั้งแต่เริ่มวงการ แต่วันนี้หวายกลับได้รับคำชมเยอะมาก เรารู้สึกอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงนี้ 

WAII : ตอนแรกเลยที่สังเกตว่าทุกคนเปลี่ยนจากแง่ลบเป็นดีมากๆ ก็งง ก็ทำไมทุกคนชมเราในทางที่ดีมากๆ ก็ไม่ชินเท่าไหร่ ก็เข้าใจว่าทุกคนกล้าแสดงออกว่ารักเรามากขึ้น สมัยนั้นก็มีคนที่รักเรา แต่ไม่เยอะเท่าคนที่กล้าว่าเราค่ะ ก็รู้สึกดีใจที่ทุกคนกล้าบอกว่าซัพพอร์ตเรา อยากบอกทุกคนชีวิตคนเราต้องผ่านทุกอย่างบางทีก็ยาก หวายก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้น ท้ายที่สุดก็อยากบอกว่ามีคนที่รักเรามากมาย มีคนที่ชอบ ก็ต้องมีคนไม่ชอบ มันก็ต้องดูว่าเราแคร์คนที่ไม่ชอบเราไหม แคร์คนที่รักและจริงใจกับเราดีกว่า สมมุติว่าถ้าคำพูดมัน Negative แต่มันทำให้เราปรับปรุงผลงานเราก็ฟัง แต่ถ้ารูปร่างหน้าตาร่างกายก็ไม่แคร์ค่ะ บางทีก็มองว่าพวกเรา Kamikaze เกิดมาผิดยุค แต่ก็เป็นตัวแทนคนไม่คิดใครค่ะ  

ใน 2 เดือนข้างหน้าหวายจะมีงานบนอิมแพ็ค 2 งานเลย และปีที่แล้วก็มี 1 คอนเสิร์ต การขึ้นเวทีใหญ่ระดับนี้ให้อะไรกับเรา มีสตอรี่อะไรที่อยากแชร์ไหม

WAII : ถึงมีมาปีแล้ว แต่ก็ซึ้งและตื้นตันว่าทุกคนยังรักเราอยู่ค่ะ และยังซัพพอร์ตเราและเพื่อนเรา และการกลับมาเจอกันมันมีความเป็นครอบครัวมากๆ เพราะเมื่อก่อนอยู่ด้วยกันซ้อมด้วยกัน และช่วงหนึ่งก็ต้องโตขึ้นจากกันไป แต่ไม่ใช่จากกันขนาดนั้นเพราะหวายยังเจอเพื่อนอยู่ ในการที่กลับมาทำงานด้วยกัน มันทำให้นึกถึงเมื่อก่อน และปีนี้ดีใจที่ได้ขึ้น 2 รอบกับ GrammyRS ก็ไม่คิดว่าจะได้รวมตัวกัน เพราะการทำงานแยกกันตลอด ค่ายใครค่ายมัน แต่พอมาคอนเสิร์ตนี้ได้อยู่ด้วยกัน แต่ละโชว์และสคริปต์ตื่นเต้นมากๆ อยากให้ทุกคนแฮปปี้ แต่ละโชว์คือพีคทั้ง ส่วน Kamikaze Reunion ก็มั่นใจว่าดีแน่นอน เพราะมีรุ่นสอง เราก็ต้องดูแลรักษาสุขภาพในหัว พยายามทำให้แข็งแรงเข้มแข็ง และฟิตร่างกายให้พร้อม ก็อยากเต็มที่ที่สุดๆ 

ตอนนี้หวายคิดอย่างไรกับวงการทีป็อปตอนนี้ อยากเห็นอะไรในวงการอีกบ้าง 

WAII : หวายรู้สึกว่า T-POP มันก้าวผ่านหลายเจนจนรู้สึกว่ามีจุดยืนจริงๆ ค่ะ หลายๆ ศิลปินควรและสามารถโกอินเตอร์ได้เร็ว และภูมิใจที่มาถึงจุดนี้และแฟนคลับยอมรับ เพราะหวายรู้สึกว่าแฟนคลับเหมือนสนับสนุนศิลปินไทยมากๆ ค่ะ ในเรื่องการเติบโตอยากให้ศิลปินทีป็อปโกอินเตอร์ ได้ไปถึงบิลบอร์ดอเมริกาค่ะ

หวายเป็นคนที่มีซิกเนเจอร์ชัดเจนมาก อยากให้คนจำหวายรูปแบบไหน 

WAII :  อยากให้จำเราเป็นตัวแทนคนที่ไม่สามารถพูดถึงความรู้สึก คือตั้งแต่เริ่มแนวเพลงก็ค่อนข้างใหม่ เนื้อหาเนื้อร้องก็รู้สึกว่าเขากล้าจัง ก็อยากให้คนมองว่าเป็นปากเป็นเสียงให้กับเขาค่ะ

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.