หลังรีเทิร์น "เอสเธอร์" พูดแล้วกับ "เคน ภูภูมิ" อยากใช้ชีวิตด้วยกัน
นางเอกสาว เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา ที่วันนี้ขออวดความหวานฉ่ำกับการหวนคืนดีกับพระเอกหนุ่ม เคน ภูภูมิ หลังยุติความสัมพันธ์กันไปพักนึง พร้อมเปิดเส้นทางความรักกว่า 10 ปี งานนี้บอกเลยว่าเพราะความไม่เข้ากันคือความเข้ากัน พร้อมตอบเรื่องอนาคตชีวิตคู่ สาวเอสเธอร์บอกเลยว่า หนุ่มเคน นี่แหละที่จะแต่งงานด้วย โดยเจ้าตัวเปิดใจผ่าน รายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง One31 ที่มี ชมพู่ ธัณย์สิตา และ ดีเจพุฒ พุฒิชัย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
เห็นสวยๆ แบบนี้ในกองเห็นว่าโก๊ะมาก?
ดีเจพุฒ : ตอนแรกที่ก่อนจะเล่นละคร ดูน้องสวย นางพญา ต้องแบบ เริ่ดๆ เชิ่ดๆ หยิ่งๆ แน่ๆ แต่พอได้สัมผัสจริงๆ เป็นผู้หญิงที่เปิ่นๆ โก๊ะๆ แขนขายาวไปหมด เดินก็มีสะดุดบ้าง
ทุกวันนี้หายโก๊ะหรือยัง?
เอสเธอร์ : คือเราเองจะรู้สึกว่าเราปกติ แต่ทำไมคนที่มองภายนอกเข้ามารู้สึกว่าเราโก๊ะ บ๊องๆ เหรอ
ดีเจพุฒ : ไม่ถึงขนาดนั้น แต่มันมีความเด็กๆ
อัปเดตหน่อย เคน ภูภูมิ?
เอสเธอร์ : ปัจจุบันโอเค เรื่อยๆ
ก่อนหน้านี้เอสเธอร์กับเคน ภูภูมิ เว้นวรรคความสัมพันธ์ไปพักนึง?
เอสเธอร์ : ใช่
ตอนนี้กลับมารีเทิร์น แล้วจะเห็นคลิปน่ารักๆ กระจายเต็มโซเชียล กลับมาครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง?
เอสเธอร์ : ครั้งนี้เหมือนมาทำความรู้จักกันใหม่ เหมือนเราได้เจอพี่เคนอีกร่างนึงที่เราไม่เคยเจอ ตัวหนูรู้สึกว่าพี่เขามีความโตขึ้น มีวุฒิภาวะมากขึ้น จากเมื่อก่อนไม่ค่อยใส่ใจใคร ไม่ค่อยสนใจคนรอบข้าง แต่พอกลับมาครั้งนี้เขาใส่ใจคนรอบข้างมากขึ้น ดูเปฌนห่วง เป็นใยมากขึ้น
ความรู้สึกเหมือนกลับมาจีบกันใหม่เลยไหม?
เอสเธอร์ : มันก็มีมุมนั้นบ้าง แต่ว่าดีกว่าเดิมเยอะเลยค่ะ
แฮปปี้นะ?
เอสเธอร์ : แฮปปี้ค่ะ
บางคนจะกลัวกับการอ่านหนังสือเล่มเก่า ครั้งนี้กลับไปแฮปปี้กว่าเดิม?
เอสเธอร์ : ใช่ค่ะ
ตัดสินใจถูกที่กลับไป?
เอสเธอร์ : เราเอาความรู้สึกปัจจุบันเป็นหลัก ถ้าเรารู้สึกว่าแฮปปี้อยู่ก็ตัดสินใจถูกแล้ว แล้วเราก็มองบวก คนสองคนมาคบกัน นิสัยมันไม่เหมือนกัน 100% อยู่แล้ว มันไม่มีเรื่องอะไรที่เราพอใจในตัวเขา 100% เราค่อยๆ เรียนรู้กันไป ปรับกันไป สู้กันไป
ตอนหยุดความสัมพันธ์ไปประมาณกี่เดือน?
เอสเธอร์ : ประมาณ 4-5 เดือน คือรอบนี้ที่หนักๆ เลย เอสเป็นคนบอกพี่เขาเลยว่าไม่ไหวแล้ว เรารู้สึกว่าอยากหยุดแล้ว เพราะว่าเหตุผลข้อ 1,2,3,4,5 ก็บอกเขาไปตรงๆ ตอนนั้นพี่เขาอยู่ที่อังกฤษพอดี เราแค่พิมพ์คุย เขาก็ช็อกอยู่นะคะ อยู่ดีๆ ก็พิมพ์มายาว
ในตอนนั้นพี่เคนเขาว่ายังไง?
เอสเธอร์ : เขาก็จะมีเหตุผล อันนี้เขารู้สึกอย่างนี้ เขาก็ยังรู้สึกเหมือนเดิม ทำไมนู้น นี่นั่น แต่ลึกๆ คือรู้ทั้งคู่ปัญหามันสะสมมาหลักปี จนทั้งคู่มันเฉยชา ซึมๆ ไม่มีใครกล้าที่จะเริ่มพูดสักที มันเป็นการคบกันเรื่อยๆ ไป จนวันนึงตัวหนูรู้สึกว่าเราอายุมากขึ้นนะ ความสัมพันธ์ ถ้าคบกันแล้วเป็นอย่างนี้ต่อไป มันก็อาจจะไม่ค่อยดี ผู้หญิงเราก็อายุมากขึ้น เราก็มองอนาคตว่าจะเอายังไงต่อ เราจะวางอนาคตไว้ยังไง จนไม่ไหวแล้ว จนเราตัดสินใจเลิก
พอตัดสินใจหยุดความสัมพันธ์ตอนนั้นเป็นยังไงบ้าง?
เอสเธอร์ : คือคุยกัน พูดกันตรงๆ แต่ยังไม่ได้พูดคำว่าตัดขาด เขารู้ว่าเราไม่โอเค แต่มันไม่มีใครพูดว่าหยุดนะ แต่ขอพักไว้ก่อน อย่าเพิ่งมาลงดีเทล อย่าเพิ่งมาจี้คำถาม คืออยู่กับตัวเอง แล้วก็รอดูไปเรื่อยๆ ว่าเขาจะมีรีแอคยังไง
เศร้าไหม มีมุมร้องไห้ไหม?
เอสเธอร์ : ไม่มีเลยค่ะ มันเป็นความรู้สึกเคยชิน ตอนที่คบกัน มีเขาอยู่หรือไม่มีเขาอยู่ก็เหมือนกัน
แล้วใครเป็นคนตัดสินใจกลับมาขอรีเทิร์น?
เอสเทอร์ : พี่เคนเขาเป็นจุดเริ่ม เขาต้องสู้ เลยขอเริ่มจีบเราใหม่
ตอนนั้นที่เคนบอกว่าจะจีบเราใหม่ ความสัมพันธ์ยังไม่ได้จบลงใช่ไหม?
เอสเธอร์ : ใช่ค่ะ ไม่ใช่บอกแบบตัดเลย แต่ว่าเราก็ไม่ได้ปิดโอกาสเขา เราก็ยังให้โอกาส
อะไรที่ทำให้เราใจอ่อน?
เอสเธอร์ : เราเห็นถึงความพยายามของเขา จากเมื่อก่อนเห็นเขาเป็นเด็กๆ แต่พอกลับมาครั้งนี้เขาจริงจัง แล้วเอาจริงกับการกลับมาครั้งนี้ แล้วเราเห็นความพยายามในการปรับตัวเอง ปรับนิสัยบางอย่าง เอาใจใส่เรามากขึ้น เรารู้สึกว่าเป็นได้นิ ทำไมไม่เป็นตั้งแต่แรก
อยากรู้ว่าที่ปรับ มันเปลี่ยนแปลง มันมีอะไรบ้าง?
เอสเธอร์ : จริงๆ เป็นเรื่องทั่วๆไปในชีวิตประจำวัน อย่างเช่นถาม กินข้าวไหม เมื่อก่อนไม่สนใจเลยว่าจะกินข้าวมาหรือยัง แต่รอบนี้มีการให้เราดูแลตัวเองมากขึ้น เป็นห่วงเรื่องสุขภาพ ถามว่ากินข้าวยัง กินอันนี้ไหม ออกไปกินอาหารร้านนี้ไหม ซึ่งเมื่อก่อนไม่มี แต่ตอนนี้มันมี เราเลยรู้สึก
มุมหวานมีเพิ่มไหม?
เอสเธอร์ : ไม่มีค่ะ เหมือนเดิมเลย อาจจะเป็นเพราะตัวเอสกับพี่เคนไม่ได้เป็นคนโรแมนติกทั้งคู่ เป็นคนชิลๆ ทั้งคู่ เรารู้สึกว่าแบบนี้โอเค แค่เอาใจใส่มากขึ้น เป็นห่วงมากขึ้นก็โอเคแล้ว
กลับมารีเทิร์นครั้งนี้ คุณเคนเขาให้สัญญาอะไรเป็นพิเศษไหม?
เอสเธอร์ : ไม่มีค่ะ ส่วนใหญ่เขาทำให่เห็นมากกว่า
เขาปรับตัวเข้าหาเรา แล้วเราปรับตัวอะไรไหม?
เอสเธอร์ : ปรับตัวค่ะ ความสัมพันธ์ที่เป็นแบบนี้มันเป็นเพราะตัวเราด้วยส่วนนึง มันทั้งคู่ พอฝั่งนู้นเฉยชา ฝั่งนี้ก็มีทิฐิ ฉันก็ไม่ยอมที่จะเปลี่ยน เขาสิที่ต้องปรับเข้าหาเรา พอเขาไม่เปลี่ยน เราก็ไม่เปลี่ยน เลยไม่เปิดใจที่จะพยายามทำให้ความสัมพันธ์มันดีขึ้น มันยิ่งแย่ลงทั้งคู่ แต่กลับมาครั้งนี้ตัดสินใจว่าเขาเปลี่ยนเพื่อเรา เรารู้สึกว่าอะไรไม่ดีในตัวเรา เราก็ต้องพยายามบ้าง ไม่ใช่ให้เขาพยายามอยู่ฝ่ายเดียว ก็เปิดใจใหม่ทั้งคู่แล้วค่อยๆ ทำให้ความสัมพันธ์มันดีขึ้น
มีมุมอะไรที่เราต้องปรับบ้าง?
เอสเธอร์ : เมื่อก่อนหนูจะเฉยชามาก สมมติถ้าเขาไม่บอกรักเรา เราก็ไม่บอกรักเขา เขาไม่ถามเป็นห่วง เป็นใยเรา ก็ไม่เป็นไรก็อยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ถ้าเธอไม่สนใจ ฉันก็ไม่สนใจ แต่พอมารอบนี้เราก็ดูแลเขามากขึ้น เป็นห่วง เป็นใยเขามากขึ้น หากิจกรรมทำมากขึ้น จากที่เมื่อก่อนไม่เคยทำกิจกรรมด้วยกัน ไม่พยายามหาเวลาที่จะอยู่ด้วยกัน
ตอนนี้ไม่ต้องให้เขาบอกรัก บอกคิดถึง เราเริ่มบอกเองได้หรือยัง?
เอสเธอร์ : ใช่ ก็เริ่มบอกเลย
คุณเคนเขาเป็นผู้ชาย แต่หัวใจเขาเด็กมาก?
เอสเธอร์ : ใช่ ที่บ้านแซวว่าเขาคือลูกชายคนสุดท้อง เอสเป็นคนโตสุด แล้วมีน้องอีกคน พี่เคนเลยเป็นน้องคนสุดท้อง เท่ากับหนูมีน้อง 3 คน
เขาเด็กยังไง?
เอสเธอร์ : อย่างเช่น เขาโมโหหิว เขาก็หน้าบึ้งไม่พูด ไม่จา ไม่มีอารมณ์ร่วม พูดจาไม่เข้าหู แต่ว่าจริงๆ คือโมโหหิว หลังๆ เรารู้ว่าเขาโมโหหิว เมื่อถึงเวลากินข้าว เราก็ต้องหาอะไรให้เขากินก่อน
เห็นว่าเคนไม่ค่อยมีปากเสียงกับเอสเธอร์เวลาทะเลาะกัน?
เอสเธอร์ : ไม่ว่าจะกับหนูหรือกับใคร เขาเป็นคนไม่ค่อยพูด เขาเป็นสายเงียบ ทุกทีที่มีปัญหา เราต้องคอยถามเขาว่าเขารู้สึกยังไง คิดอะไรอยู่ เพราะเขาเป็นคนไม่พูดเลย ถึงแม้บางทีเราเดือดๆ เขาก็ไม่พูด เขาเงียบ
การที่เขาพูดหรือไม่พูด อยากได้แบบไหน?
เอสเธอร์ : เงียบเหมือนเดิม ให้หนูถามเองดีกว่า
คำที่เขาพูดออกมาที่เราไม่ชอบเลย คือคำว่าอะไร?
เอสเธอร์ : พี่เคนชอบพูดว่าทำไมอะ คือสมมติถ้าเราพูดอะไรออกไป แล้วเกิดเขาไม่พอใจ หรือเขารู้สึกว่า ทำไมเหรอ มีเหตุผลอื่นเหรอ เขาก็จะพูดกลับมาว่า ทำไมอะ ด้วยน้ำเสียงเขา บุคลิกท่าทาง บางทีหน้าเขาออก เก็บหน้าไม่ค่อยได้ เขาก็รู้ตัว จนบางทีหนูแซวเขา ทำไมอะชอบพูดคำนี้
เขาดูแลเราดีขนาดไหน?
เอสเธอร์ : เรียกได้ว่าดูแลซึ่งกันและกัน แต่ส่วนใหญ่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ จะเป็นเราดูแลเขามากกว่า คือเขาเป็นผู้ชายๆ
จุดเริ่มต้นเจอกันได้ยังไง?
เอสเธอร์ : เจอกันตอนถ่ายนิตยสารที่ต้องไปถ่ายตามสถานที่ต่างๆ เจอในพาร์สของการทำงานก็หายไปเลย จน 5 ปีหลัง เขาขอไลน์จากผู้จัดการหนู นางก็ทักมาคุยกับเรา เขาบอกอยากรู้จัก อยากคุยด้วย เราไม่คิดอะไรก็ให้ไลน์แล้วกัน บวกกับตอนนั้นเอสจะไปเกาหลี 3 เดือน
ได้ถามไหมว่าทำไมเขาเว้นวรรคนานจัง?
เอสเธอร์ : ไม่ได้ถาม เขาทักมาครั้งแรก หนูก็ถามว่า พี่เคนสบายดีนะ เขาก็ตอบว่าสบายดี แต่มารู้ให้หลังว่าเขาลืมไปแล้วว่าเราเคยเจอกัน
เขาจีบยังไง?
เอสเธอร์ : แค่ไลน์ ตอนนั้นไลน์คุยกันเรื่อยๆ คุยกันทุกวัน จนวันนึงออกไปข้างนอกทำความรู้จักกัน
ตอนที่เขาไลน์หาเรา รู้ยังว่าเขาจีบ?
เอสเธอร์ : ก็เริ่มรู้
เริ่มชอบเขาตอนไหน?
เอสเธอร์ : ไม่รู้เลย รู้ตัวอีกทีคือชอบแล้ว น่าจะแบบคุยไปเรื่อยๆ แล้วเขาน่ารักดี
แพลนในอนาคตเป็นยังไง?
เอสเธอร์ : ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่เราวางไว้
มีคุยเรื่องแต่งงานหรือยัง?
เอสเธอร์ : จริงๆ ก็มีคุยกันเรื่อยๆ เรามองเป้าหมายไว้เหมือนกัน อยากสร้างครอบครัวอยู่ด้วยกัน แต่ ณ ตอนนี้ เรารู้สึกว่าทั้งคู่ยังต้องมีอะไรทำ ณ ตอนนี้ยังไม่พร้อม แต่เมื่อไหร่ที่พร้อมก็จะแต่ง
แล้วเคยคุยกันไหมว่าเราอยากมีลูกไหม?
เอสเธอร์ : มีค่ะ สำหรับตัวเอสมีก็ได้หรือไม่มีก็ได้ แต่ตัวพี่เคนเหมือนเขาอยากมี
อะไรที่วันนี้ทำให้เราคิดถึงการแต่งงาน?
เอสเธอร์ : หนูกับพี่เคนคบกันมาค่อนข้างนานแล้ว แล้วเรารู้สึกว่าถ้าเราทิ้งกันไปตอนนี้มันก็เสียดายเวลาด้วย แล้วรู้สึกว่าเราอยู่ด้วยกันก็มีความสุขดี เราก็ต้องมองถึงอนาคต ก็คนนี้แหละ เราอยากใช้ชีวิตกับคนนี้แหละ
ครอบครัวเคนกับครอบครัวเอสเธอร์เป็นยังไงบ้าง?
เอสเธอร์ : เข้ากันได้ดีมาก ดีเกินไป คุณพ่อ คุณแม่ รักพี่เคนเหมือนลูก แล้วพี่เคนก็ทำตัวเหมือนลูกเลย บางทีแบบว่า ถ้าเป็นคนรู้จักกันไม่มีความเกรงใจกันเลย แต่ก็เป็นความเอ็นดูที่มันสนิทกันมากๆ คุณแม่ก็รักเหมือนลูกชาย ดูแลเหมือนลูก
ติดตามชมรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.