"อรอนงค์ ปัญญาวงศ์" เปิดใจต่อสู้กับโรคมะเร็ง ได้กำลังใจดีมากจากลูกๆ
อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ เปิดใจต่อสู้กับโรคมะเร็ง แต่ได้รับกำลังใจจากลูกๆ ดีมาก ใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนเดิม
นักแสดงสาวพ่วงตำแหน่งคุณแม่ลูกสองและมีดีกรีเป็นนางสาวไทย ปี 2535 อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ ที่ตอนนี้เธอกลับมาเป็นโสดอีกครั้ง และกลับเข้าสู่วงการบันเทิงใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กับลูกชายสองคนที่กำลังเติบโตเป็นวัยรุ่นแล้ว ไม่พอเท่านั้นต้องบอกว่าเธอสวยขึ้นทุกวันจริงๆ หากใครติดตามอินสตาแกรมก็จะเห็นออร่าเป๊ะในทุกๆ เฟรม
ล่าสุด อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ ได้มาเป็นแขกรับเชิญ รายการแฉ ที่มี มดดำ, น็อต วรฤทธิ์ และ เอมมี่ มรกต เป็นพิธีกร พร้อมกับเปิดใจถึงอาการป่วยก่อนหน้าที่เธอเข้ารับการผ่าตัดเป็นต่อมไทมัสโตผิดปกติ และเธอตรวจชิ้นเนื้อพบเป็นเนื้อร้าย ต้องต่อสู้กับโรคมะเร็ง แต่เธอกำลังใจดีมากและกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติแล้ว
"หลายๆ คนอาจจะมองว่ามะเร็งเป็นโรคที่น่ากลัว แต่จริงๆ แล้วมะเร็งยังดีกว่าโรคที่ติดต่อ จากการสัมผัสจากการเจอกัน ซึ่งแบบนั้นเราไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ แต่มะเร็งอยู่กับตัวเราเอง เพราะฉะนั้นเราต้องดูแลรักษาตัวเอง และรักษามะเร็งควบคู่ไปด้วย"
"รู้ว่าเป็นมะเร็งเมื่อปีที่แล้ว จริงๆ แล้วไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นเลย เพราะว่าตอนจะไปถ่ายละครนั้นเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ไม่หายใจลงข้างล่างไม่ลงท้องเลย แต่ก่อนหน้านี้ไม่มีสัญญาณอะไรเลย ไม่มีสาเหตุอะไร ไม่เคยนอนโรงพยาบาล ไม่เคยรักษาโรคอะไร บทมันจะมามันตีขึ้นมาเลย และแน่นหน้าอกเจ็บบริเวณหน้าอก เวลาหายใจแล้วเจ็บ ก็เลยไปหาหมอ สันนิษฐานว่าเราจะเป็นโรคหัวใจหรือเปล่า หรือเป็นโรคอย่างอื่นมั้ย ให้คุณหมอตรวจ วัดคลื่นหัวใจวัดอะไรหมดเลย ปรากฏว่าไปเจอว่าต่อมไทมัส อยู่ระหว่างกลางหัวใจและปอด ครั้งแรกที่ได้ยินคือร่างกายเรามีต่อมนี้ด้วยเหรอ คุณหมออธิบายว่าอาจจะเจอน้อยนะ แต่ว่ามันจะไม่ร้ายแรง พอเราฟังก็สบายใจว่าอ๋อไม่ได้ร้ายแรง เคสของต่อมไทมัสสักหนึ่งแสนคนจะเป็นสักคนเดียว เพราะฉะนั้นในการรักษานั้นมันจะไม่ได้เยอะมาก กับที่เราไปจะเสิร์ชหาข้อมูล ถ้าถามว่าสาเกตุเกิดจากอะไร สาเหตุหนึ่งเกิดจากความเครียด พักผ่อนน้อย ทำงานหนัก ความเครียดสะสม"
"ต่อมไทมัสทำหน้าที่สร้างความเจริญเติบโต มันมีมาตั้งแต่เราคลอดแล้ว เพราะเด็กต้องใช้ต่อมไทมัสในการสร้าง พอเราอายุมากขึ้นต่อมนี้จะหดลง แต่พอต่อมผิดปกติมันใหญ่ขึ้น แล้วตอนนั้นที่เอ็กซ์เรย์ดูใหญ่ประมาณ 4 เซนติเมตร ตอนนั้นมันอาจจะเริ่มโตและไปเบียดปอดกับหัวใจ ตอนแรกนึกว่าเราเป็นกรดไหลย้อน"
"ตอนนั้นก็เป็นกังวลตรงที่ว่ามันจะน่ากลัวมั้ยเพราะลูกเราก็ยังไม่โต ต้องดูแลคนในครอบครัว คนโตอายุ 19 พอเรารู้ว่าต้องผ่าตัด ก็เลยขอกองละครว่าเราต้องผ่าตัด ก็วางแพลนว่าวันที่ 6 ตุลาคมปีที่แล้วจะผ่าตัด คุณหมอให้คำแนะนำว่าต่อมพวกนี้มันผิดปกติได้ แต่หากเรารับประทานอาหารประเภทสุกๆ ดิบๆ เยอะมันเป็นกรด ร่างกายเรามีกรดเยอะ ทำให้ในร่างกายของเราไม่บาลานซ์ กรดต่างๆ ทำให้เกิดโรค"
"หลังจากที่คุณหมอได้ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ คุณหมอบอกเป็นมะเร็งระยะที่สอง เพราะเริ่มไปเบียดอัวยวะของเราแล้ว เริ่มฉายรังสีตั้งแต่ตุลาคมจนถึงเดือนธันวาคม เริ่มดูแลตัวเองมาตลอดแล้ว ได้กำลังใจจากลูกๆ และคุณหมอที่ดูแลก็ให้กำลังใจตลอดเวลา"
"โชคดีที่เราศึกษาธรรมะมาร่างกายไม่ใช่ของเรา แต่เราก็อยากอยู่ดูแลลูกเรา (ยิ้ม) เราต้องดูแลร่างกายของเราให้ดียิ่งขึ้นเพราะมะเร็งอยู่กับเราแล้วค่ะ"
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.