"เอิร์ท-มิกซ์" กับ 25 ปีวัยค้นหาตัวตนและเรียนรู้ทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามา

เคยจินตนาการไหม ตอนเราอายุ 25 ปี เราจะเป็นยังไง?

สองนักแสดงคู่ซี้ เอิร์ท-พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ และ มิกซ์-สหภาพ วงศ์ราษฎร์ ที่แจ้งเกิดจากผลงานแสดงเรื่องดัง นิทานพันดาว กลายเป็นพี่น้องคู่ซี้ที่เติบโตในเส้นทางวงการบันเทิงคู่กันมาหลายปี หลากหลายความท้าทายที่เข้ามาในชีวิตพวกเขา กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ได้ค้นหาตัวเอง และเรียนรู้ไปกับบททดสอบชีวิตเพื่อจะได้เติบโตในวันข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง

ในโอกาสครบรอบ 25 ปีเว็บไซต์ sanook.com ได้ชวนสองนักแสดง เอิร์ท-มิกซ์ มาแชร์ประสบการณ์และมุมมองของวัย 25 ปีของพวกเขา พร้อมทั้งช่วงเวลา เบญจเพส ที่เป็นบททดสอบอย่างหนักของชีวิตพวกเขา กลายเป็นทั้งช่วงเวลาแห่งการเติบโตและการค้นหาความสุขในชีวิต

เอิร์ท-มิกซ์ มุมมองก่อนอายุ 25 ปี

วัยแห่งความสดใสช่วงเวลาแห่งการเติบโตที่ยังต้องค้นหาตัวเอง เรียนรู้และรู้จักสิ่งที่ชอบ คือสิ่งที่พวกเขาค้นพบ

มิกซ์: ถ้าเป็นตอนที่เรายังเด็กอยู่นะ ผมคิดว่าตอน 25 จริง ๆ คิดว่าน่าจะไม่ต่างจากตอนเด็กมาเท่าไหร่ เพราะเรารู้สึกว่า 25 เป็นช่วงวัยแรกที่เพิ่งเรียนจบ แล้วก็เหมือนทำงานอีกแค่ 3 ปีผมว่าความเป็นอยู่ ความนึกคิดมันน่าจะไม่ได้ต่างกันขนาดนั้นหรอก น่าจะใกล้ ๆ กับเราในวัยมหาวิทยาลัย อะไรประมาณนี้ครับ

เอิร์ท: ส่วนผมก็จะเป็นวัยที่ลองผิดลองถูก แล้วก็ค้นหาตัวเอง สมมติเราชอบอะไรไม่ชอบอะไรอะไร พอเราเริ่มรู้สึกว่าในวัยก่อนที่จะ 25 เนี่ย เราค้นหาตัวเองได้มาระยะหนึ่งแล้วมันก็เจอ อย่างเช่นผมเจอว่าผมชอบวาดรูปมาก เออ เราก็จะมุ่งไปทางนั้นเลย ชอบร้องเพลงก็จะมุ่งไปในทางร้องเพลงไปเลย เหมือนเราเริ่มค้นหาตัวเอง

 

วัย 25 ปีของ เอิร์ท-มิกซ์

มิกซ์: คิดว่าคงไม่ต่างจากตอนอายุ 20 เท่าไหร่ แต่พอมาจริง ๆ แล้วนะ ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ปีนี้ผม 25 พอดี ผมรู้สึกว่าผมเปลี่ยนไปจากตอนที่ผมอายุ 20 มาก หนึ่งผมรู้สึกว่า อุ้ย! มันจะดูเป็นการอวดตัวเองเกินไปหรือเปล่า แต่ว่าผมรู้สึกว่าการที่ผมทำงานในวงการบันเทิง หรือว่าเราเรียนหนังสือไปด้วย เราทำงานไปด้วยมันเหมือนทำให้เรามีความรับผิดชอบมากขึ้นมั้ง อาจจะไม่ได้มากกว่าเดิมมาก แต่ผมรู้สึกว่ามันทำให้ผมโตขึ้นทีละสเต็ป แล้วก็จนมาถึงตอนที่ 25 ตอนเนี่ย ผมรู้สึกว่า เออ เราก็ถือว่าประสบความสำเร็จในก้าวนึงของชีวิตแล้วครับ

เอิร์ท: ก็ค่อนข้างที่จะ success ในความรักความชอบในอะไรบางอย่างเหมือนกัน รู้สึกว่าอย่างที่ผมบอกไปว่ามันเป็นการค้นหาตัวเอง เลยรู้สึกว่า เอออายุ 25 พอดี เราเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แล้วเราเริ่มรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ผมรู้สึกว่า เออ อันเนี้ยมันทำให้เรามีความสุข เวลาเราชอบวาดรูป มันทำให้เรามีความสุข เราไม่ใช่วาดรูปเพื่อวาดแล้วทิ้ง ไอ้การวาดรูปหรือว่าลายเส้นของเรามันบ่งบอกนิสัยของเรา แล้วก็บ่งบอกความคิดของเราใน ณ โมเมนต์นั้น แล้วก็ยิ่งทำให้เราหลงไหลกับการวาดรูปเยอะขึ้น

มิกซ์: แต่จริง ๆ มันมีคำที่พี่เอิร์ทบอกว่าตอนที่เราอายุ 25 เหมือนเรากำลังค้นหาว่าความฝันความชอบของเราจริง ๆ มันคืออะไร เพราะจริง ๆ แล้วตอนนี้ ถ้าถามมิกซ์ว่าตอนนี้มิกซ์ชอบอะไร ตอนนี้มิกซ์ก็ยังหาไม่เจอเหมือนกันนะ ว่าแบบ เฮ้ย ในอนาคตเราอยากจะทำอะไร ไปตลอด หรือว่าเราอยากจะทำสิ่งไหนไปตลอด แค่ตอนนี้คือทำทุกวันให้มันดี งานในวงการ ถ้าตอนนี้มันยังมีอยู่ เราก็ทำให้มันอย่างเต็มที่ ก็คือผมเรียนปีสุดท้าย แล้วก็กำลังคิดอยู่ว่า พอเราจบสัตวแพทย์แล้วเนี่ย เราอาจจะเป็นหมอต่อก็ได้ เราก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ก็เลยรู้สึกว่ามันเป็นเหมือนวัย ถ้าเป็นคำสมัยก่อนก็น่าจะแบบหัวเลี้ยวหัวต่ออย่างงี้ปะ

วัย 25 ปีกับการค้นหาตัวเอง ซึ่งมีทั้งยังไม่พบเจอความชอบของตัวเองและมีทั้งคนที่ค้นพบความชอบของตัวเองแล้ว และกำลังดื่มด่ำกับมันกลายเป็นความสุขของชีวิต แต่ไม่ว่าจะเป็นช่วงอายุไหนก็สามารถค้นหาความเป็นตัวเองได้เสมอ

เอิร์ท-มิกซ์ กับความเชื่อเรื่อง "เบญจเพส"

ช่วงเวลาเบญจเพศที่เป็นความเชื่อของผู้คน ทั้งสองหนุ่มเอิร์ท-มิกซ์ ก็มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้มาแชร์เหมือนกัน ซึ่งสิ่งที่พวกเขาได้เจอเรียกว่าหนักหนาจนแทบตั้งรับไม่ทัน แต่ทุกอย่างก็กลายเป็นบทเรียนให้ชีวิตได้ก้าวเดินต่อไปอย่างมีสติและมั่นคง

เอิร์ท: นี่ไง กำลังคิดอยู่ว่าเขาจะมีคำถามนี้ไหม เพราะว่าช่วงอายุ 25 เอิร์ทอยู่ ปี 3 เข้าปี 4 คือตอนแรกเอิร์ทก็ไม่เชื่อ เอิร์ทคิดว่าแค่แบบว่าทำดีก็ได้ดี คิดดีก็ได้ดี ทำชั่วก็ได้ชั่วปกติ action เท่ากับ reaction แต่...มันมีอุบัติเหตุ คือเอิร์ทรถคว่ำ ตอนปี 3 เข้าปี 4 แล้วก็แม่เสียช่วงนั้น รู้สึกว่า เฮ้ย หรือว่าเป็นเบญจเพสวะ อาจจะเป็นช่วงเวลาหรือว่าช่วงที่เขาแบบว่า หัวเลี้ยวหัวต่ออะไรแบบเนี้ย ไม่รู้แบบว่าดวงเรากำลังตกอะไรอย่างงี้ 25 ที่เขาว่ากันว่านะ ก็อาจจะเป็นไปได้ แต่ยังไงเราก็เชื่ออยู่ดีว่าถ้าเราไม่ประมาท แม่ป่วยก็เลยรีบกลับไปหาแม่ ก็รถคว่ำเลย (เหตุการณ์มันต่อเนื่องเลยเหรอ) ใช่ครับ แต่จริง ๆ ก็กลับมาคิดว่า หรือไม่ใช่ เพราะว่าถ้าเราขับรถไม่ประมาทรถก็จะไม่คว่ำ เอ้อ มันก็จะมีความแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ทุกอย่างปัญหามันเข้ามาในช่วงอายุ 25 หมดเลย ทั้งธีสิส โห แบบไม่ได้หลับไม่ได้นอน เรื่องแม่ เรื่องรถอีก

(แล้วเราผ่านมันมาได้ยังไง รู้สึกว่ามันหนักมากเลยนะ) ใช่ มันหนักมากนะ เพราะว่าปีเดียวเข้ามาแบบ 3-4 เรื่องเลยอะ รู้สึกว่า ร้องไห้ทุกวันช่วงนั้น คือร้องไห้ในเรื่องแบบการเรียน เรื่องแม่ เรื่องรถคว่ำอีก แต่ก็ต้องผ่านมันไปให้ได้เพราะว่าทุกอย่างมัน มันต้อง go on ต่อไป ต้องดำเนินชีวิตต่อไป เราแค่รักษาคนรอบข้างให้ดีที่สุดก็พอแล้วใน ณ เวลานั้นครับ

 

มิกซ์: อ่า เชื่อในเรื่องเบญจเพสไหม จริง ๆ แล้วผมเพิ่งจะ 25 มาตอนเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา แล้วพี่เชื่อปะ 22 คือวันที่ วันเกิดผม แต่วันที่ 23 เหมือนวันนั้นผมมีงาน มันคือวันแรกของวัย 25 เลย วันนั้นผมไปทำงานมา แล้วก็ตอนเย็นอะขับรถกลับบ้าน แล้ววันนั้นฝนตกหนักมาก แล้วก็ยางรถระเบิด แบบ สามเส้นอะ 1 2 3 ระเบิดแบบ ปึ้ง! เอ้อ แล้วก็...คือตอนแรกอะไม่ได้คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ว่าเคยไปดูหมอดูอะไรอย่างงี้ เขาบอกว่า 25 ปีนี้ ผมจะประสบอุบัติเหตุเกี่ยวกับรถ อะไรอย่างงี้ แล้วก็ตอนนั้นพอมันระเบิดปุ๊บเราก็ตกใจไง เกิดมาไม่เคยขับรถแล้วยางระเบิด คือมันเหมือนมันไปเหยียบเข้ากับอะไรสักอย่างแข็ง ๆ อะ แล้วเหมือนมันแบบระเบิดตู้ม ตู้มเลย แต่เราก็เข็นรถกลับบ้านจนได้เพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะฝนมันตกหนักมากน้ำก็ท่วมอะไรประมาณนี้ 

(มีวิธีเตรียมรับมือยังไง) ก็น่าจะเป็นแบบฟีล ๆ ทำบุญแหละ แต่ว่าผมเป็นคนชอบนั่งสมาธิอยู่แล้ว ละก็สวดมนต์ด้วยก็รู้สึกว่า เออ ช่วงนี้ก็ทำเยอะขึ้นแหละ เผื่อ...ไม่รู้ดิ มันอาจจะทำให้เรามีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้นมั้ง หรืออาจจะแบบ ถ้าเกิดสมมติว่าเรามีสติมากขึ้น ถ้าเราขับรถอยู่แล้วเรามีสมาธิที่ดีอะ เราอาจจะจดจ่ออยู่ตรงถนนแล้วเราจะเห็นทุกอย่าง ถ้าเราไม่ได้นั่งสมาธิไม่ได้สวดมนต์ ไม่ได้มีสมาธิที่ดี เราจะวอกแวกข้างทางได้แล้วเราอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้

 

ความสนุกในวัย 25 ปีของ เอิร์ท-มิกซ์

ในวัย 25 ปีที่สองหนุ่มเอิร์ท-มิกซ์ได้เจอ การค้นหาความเป็นตัวเองก็พาให้เขาได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ที่อาจจะตอบโจทย์ของชีวิต และมีความจริงจังขึ้นตามวัย

มิกซ์: จริง ๆ มันก็คล้าย ๆ กับคำตอบเมื่อกี้แหละ มันเป็นช่วงเวลาที่เราได้หาว่าเราชอบอะไร ผมรู้สึกว่าเออ ช่วงนี้คือผมหาทุกอย่างเลยนะว่าผมชอบอะไรกันแน่ ผมเริ่มมาจากการเป็นสัตวแพทย์ แล้วผมก็อยากลองทำงานในวงการบันเทิง ก็เลยไปแคสซีรีส์ดูก็เลยได้เล่นละคร ได้นู้นได้นี่อะไรเงี้ย แล้วตอนนี้ก็รู้สึกว่า เอ้อ เราอยากหาอะไรใหม่ ๆ ดู ผมก็เลยลงเรียนพวกเกี่ยวกับพวกเศรษฐศาสตร์ พวกการเล่นกองทุน เล่นหุ้นหรือว่ากองเขาเรียกว่าอะไรอะ ETF หรืออะไรประมาณเนี้ย เราก็รู้สึกว่าเอ้อ มันก็เป็นอีกศาสตร์นึงที่เราอะไม่เคยรู้มาก่อนแล้วก็มันน่าสนใจที่จะลงเรียน

เอิร์ท: ส่วนผมก็หาธุรกิจที่ต่อยอดไปได้มากขึ้นแล้วก็ยั่งยืนมากขึ้นอะไรอย่างเงี้ย เผื่ออนาคตมันไม่มีอะไรแน่นอนเนาะมิกซ์ (มิกซ์: ใช่ มันไม่มีอะไรแน่นอน) เราก็เลยต้องหาธุรกิจที่มันมั่นคงแล้วก็ ยังชีพตัวเองได้ครับ

มิกซ์ : คำตอบเราดูจริงจังกับชีวิตมากเลยเหมือนกันเนาะ แต่มันก็จริง มันคือวัยที่เราหาความ stable อะไรสักอย่างให้กับชีวิตเราอะ

 

อยากบอกอะไรกับตัวเอง ในวัย 25 ปี

ช่วงชีวิตที่สองหนุ่มพบเจอเรียกว่าทั้งหนัก และเป็นเหตุการณ์ที่เข้ามาสอนชีวิตให้เรียนรู้และเติบโตต่อไป จนต้องขอบคุณตัวเองที่ผ่านสิ่งเหล่านั้นมาได้ การก้าวผ่านความเจ็บปวดโดยที่หัวใจยังมีความรักให้กับโลกใบนี้ เป็นสิ่งล้ำค่าที่พวกเขาค้นพบ จนได้รับความรักจากผู้คนในทุกวันนี้

เอิร์ท: เก่งมากที่ผ่านมาได้ เก่งจริงๆ แล้วก็ ขอบคุณ ขอบคุณตัวเองที่อดทน และเข้มแข็งมาได้อายุถึง 29 แล้วก็ขอบคุณที่ยังมีความหวัง และขอบคุณที่ยังมีความรักให้กับทุกสรรพสิ่งที่อยู่บนโลกครับ

มิกซ์: สาธุ แต่ชอบคำสุดท้ายมาก การที่เรายังมีความรักให้กับทุกสรรพสิ่งบนโลก ของมิกซ์ ปีนี้มิกซ์ 25 เลยอะ ตรงเวอร์ ผมน่าจะบอกกับตัวเองว่า ถ้าบอกกับตัวเองได้จริง ๆ นะก็อยากให้ขอบคุณสิ่งที่มันผ่านเข้ามาในชีวิตเรา แล้วก็ขอบคุณที่มันสอนเราหลาย ๆ อย่างแล้วก็ขอให้หลังจากนี้เราได้สิ่งที่มันผ่านเข้ามาสอนกับชีวิตเราให้เราเป็นคน ที่อย่างน้อยเป็นคนที่ดีกว่าเดิม อาจจะต้องแบบ เราไม่ต้องดีมากอะไรขนาดนั้นหรอก เพราะว่าสุดท้ายแล้วคนเรามันผิดพลาดกันได้ แต่ก็อยากให้ขอบคุณตัวเองเสมอ แล้วก็ก้าวผ่านมันไปครับ

 

อยากให้ 25 ปีข้างหน้าเป็นยังไง

เอิร์ท: อยากเห็นความเท่าเทียมบนโลกใบนี้ รู้สึกว่าความเหลื่อมล้ำในสังคมในประเทศเราอะมันมีอยู่เยอะมาก ทั้งเรื่องของการศึกษา แล้วก็ในเรื่องของ อะไรหลาย ๆ อย่าง มันมีความเหลื่อมล้ำกันเยอะอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เอิร์ทรู้สึกว่าให้คุณค่ากับมันคือความเท่าเทียมกัน รู้สึกว่าการให้เกียรติซึ่งกันและกัน แล้วก็การเคารพในตัวตนของคน ๆ นั้นอะมันคือสิ่งสำคัญสำหรับเอิร์ทครับผม อยากเห็นความเท่าเทียมนั่นเอง

มิกซ์: ของผม มันจริง ๆ แอบคล้ายพี่เอิร์ทนะแต่ผมแค่รู้สึกว่าคนเราอะ มองคนไม่เท่ากันเว้ย เอาจริง ๆ แล้วถ้าเรามองกันดี ๆ อะ คนเราอาจจะแบบมีความเหยียดหรือมีความยกย่องคนบางคนที่เขาอาจจะมีอะไรพิเศษกว่าเรา แต่จริง ๆ แล้วอะ ถ้าเรามองคนให้เป็นคนเท่ากันอะ เราจะรู้จักการให้เกียรติคนคนนึงในฐานะคนคนนึงเหมือนกัน แล้วก็ผมว่าโลกมันจะน่าอยู่ขึ้นนะถ้าเกิดทุกคนให้เกียรติซึ่งกันและกันครับ

เชื่อว่าโลกใน 25 ปีข้างหน้าที่ เอิร์ท-มิกซ์ ต้องการ น่าจะเป็นสิ่งที่ผู้คนอีกหลายล้านคนต้องการเหมือนกัน ขอให้ความเท่าเทียมเกิดขึ้นบนโลกนี้อย่างแท้จริง

ติดตามสัมภาษณ์รูปแบบวิดีโอได้ เร็วๆ นี้ 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.