"พีท - เจ็ง" ตอบแล้ว สถานะความสนิท "มิย่า - อชิ" รีเทิร์น จริงหรือเปล่า?

ถูกจับตามองทุกความเคลื่อนไหวจริงๆ สำหรับสมาชิกครอบครัวทองเจือ เพราะไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร ก็กลายเป็นกระแสให้ต้องพูดถึงบนโลกโซเชียลฯ ตลอด...ตลอด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สเตตัสความสนิทระหว่างลูกสาวคนสวย มิย่า กับ อชิ อชิรวัตติ์ ทายาทนักแสดงหนุ่มโปรไฟล์หรู ฟลุค เกริกพล ที่มีข่าวลือออกมาให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ ว่า ทั้งสองได้กลับมาพูดคุยกันอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีเหตุให้ความสัมพันธ์ต้องสะดุด!?

กระทั่งล่าสุด พีท ทองเจือ พร้อมภรรยา เจ็ง วิไลลักษณ์ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์แบบเปิดใจ เกี่ยวกับประเด็นร้อนดังกล่าว ในงานแถลงข่าว Hi! ใจ ส่งต่อความสุขไม่รู้จบ ให้เราได้ฟังว่า... 

อนุญาตถามถึงเรื่องลูกสาว รีเทิร์น ไม่รีเทิร์น ?
เจ็ง : จริงๆ เขาก็เป็นเพื่อนกันอยู่แล้วนะ อย่างที่เห็นตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาก็มีการถ่ายรูปร่วมเฟรม ไปแฮงค์เอ้ากับกลุ่มเพื่อน ซึ่งเราก็ทราบอยู่แล้ว

พีท : ใช่ครับ เพื่อนๆ ก็ยังเป็นกลุ่มเดิม

แสดงว่าไม่ได้มีปัญหาตั้งแต่ต้น ?
เจ็ง : คำว่าปัญหา คือมันเป็นปัญหาเด็กๆ มันเป็นเรื่องของเด็ก แล้วเราก็ไม่ได้ไปซีเรียสอะไรขนาดนั้น เราไม่ได้มีแบบว่า หนูห้ามคบคนนั้นนะ ห้ามคบคนนี้นะ หรือต้องเลิกคบคนนั้นเดี๋ยวนี้ คือเราไม่เคย เราไม่เคยพูดแบบนั้นกับลูกเลย เพียงแต่ว่าทุกอย่างต้องอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่ อยู่ในสายตาของพ่อแม่ ลูกทําอะไรเราเห็นหมด เรารับรู้หมด

หลายคนยังสงสัยว่าที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้น ?
เจ็ง : จริงๆ ที่ผ่านมาเขาก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่นะ เขาก็ยังไปทานข้าว ไปแฮงค์เอ้ากันกับเพื่อนกลุ่มเดิมเหมือนเดิม คือไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพียงแต่ว่าอาจจะไม่มีการเมนชั่นถึง และเขาก็อาจจะระวังตัวมากขึ้น ทําอะไรก็คิดถี่ถ้วนมากขึ้น จะพูดอะไรก็ต้องคิดมากขึ้น เพราะอย่างที่มิย่าเคยบอก เขาพยายามจะโตขึ้น พยายามที่จะเป็นผู้ใหญ่

น้องเคยปรึกษาคุณพ่อคุณแม่เหมือนกันสำหรับเรื่องข่าว ?
เจ็ง : เขาปรึกษาเราทุกเรื่องอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าบางทีการนำเสนอข่าว หรือว่าการพิมพ์ข้อความ การเขียนอะไรในโซเชียลฯ เราไปห้ามทุกคนไม่ได้ ฉะนั้นเราก็เลยต้องสอนลูกว่า หนูต้องรู้ว่าเราเป็นยังไง เราทําอะไร เพราะฉะนั้นใครเขียนอะไรไม่จริง หรือว่าใครพูดอะไรไม่จริง เราก็ไม่ต้องไปใส่ใจ เพราะว่าถ้าเราจะเอาคําพูดทุกคนมาคิดมาใส่ใจ เราอยู่ไม่ได้หรอก ซึ่งครอบครัวเราโชคดีที่มิย่าเป็นเด็กที่เขารู้ว่าตัวเขาเองทําอะไรอยู่ แล้วก็เกิดอะไรขึ้น เขาก็เลยจะไม่ค่อยแบบฟูมฟาย ซีเรียส หรือว่าเครียดเรื่องข่าว

เราสบายใจไหมที่ มิย่า เขามีวัคซีนเรื่องโซเชียล ?
เจ็ง : ก็ดีนะคะ ความเป็นพ่อแม่ยังไงก็ห่วงลูกอยู่แล้วแหละ แต่ว่าเราก็อุ่นใจในอีกระดับหนึ่ง ที่ลูกรู้จักแยกแยะ รู้ตัวเขาเองว่าอะไรคือเรื่องจริง อะไรคือเรื่องไม่จริง รู้จักปล่อยวาง

พี่พีท ทองเจือ ทราบใช่ไหม ที่มันมีข่าวลือประมาณว่า ครอบครัวของเราสองฝ่ายมีปัญหากัน ?
พีท : จริงๆ ผมไม่ได้ซีเรียสเลยนะ ข่าวก็คือข่าว และอย่างที่ผมบอก ผมกับฟลุคไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

เจ็ง : ก็เจอกัน ก็ยังทักทายกันปกติ

พีท : ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

คุณแม่ได้เจออชิแล้วรึยัง ?
เจ็ง : ก็เจอบ้าง ก็อย่างที่บอกว่าเขาก็ยังไปแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนกลุ่มเดิม ไม่ได้เปลี่ยนกลุ่ม ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง เวลาเราไปรับลูก เราก็เห็นทุกคนเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไร มันเป็นเรื่องของเด็ก เขาอาจจะแค่ทะเลาะกัน 2-3 วัน แล้วก็ดีกัน มันเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ว่าบางทีเราไม่ได้ออกมาพูดอะไรเยอะ หรือแก้ตัวเยอะ เพราะเรามองว่าการออกมาพูดเยอะมันคือการแก้ตัว มันคือการทําให้เรื่องมันไม่จบ ส่วนเด็กเดี๋ยวเขาก็เคลียร์กันเอง เป็นเพื่อนกันปกติ

ความสัมพันธ์ทั้งสองครอบครัวยังเหมือนเดิม ?
เจ็ง : คําว่าเหมือนเดิมเ เราก็ไม่รู้นะว่าเหมือนเดิมคือยังไง เขาก็คือเพื่อนกัน เรายังมีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ไม่ใช่แค่อชิกับมิย่า เพื่อนทุกคนในกลุ่มก็เหมือนกัน ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันทุกคน

ลูกรักใคร เราก็รักด้วย ?
เจ็ง : เราก็ไม่เคยมีปัญหาอยู่แล้วอ่ะ คือไม่ว่าจะใครก็แล้วแต่ ยกตัวอย่าง บางทีลูกไปเที่ยวแล้วกลับบ้านดึก หรือเพื่อนลูกจะนั่งแกร็บกลับ เรายังไม่ให้ไปเลยนะ เราบอกเดี๋ยวแม่ไปส่ง เพราะมันดึก เราทําใจไม่ได้ที่จะปล่อยให้เด็กกลับเองต่อหน้าต่อตา โดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิง เราก็จะแบบว่า ไม่เป็นไรลูก เดี๋ยวแม่ไปส่ง ซึ่งอันนี้เป็นเนเจอร์ของเรา ลูกรักใคร ลูกแฮปปี้กับใคร เราดูแลทุกคนหมด โดยที่เราไม่ติดอะไรอยู่แล้ว

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.