สัมภาษณ์พิเศษ พัคมินยอง-นาอินอู จากซีรีส์ Marry My Husband ย้อนเวลาได้จะเลือกทางไหน?
Marry My Husband ซีรีส์เกาหลีเรื่องดังมาแรงสุดขีดเวลานี้ กับเรื่องรายการย้อนเวลากลับมาแก้แค้นคนรักเก่าและเพื่อนรักทรยศที่ทำคนดูเกาะติดตอนต่อตอน อีกทั้งยังเป็นการรวมตัวนักแสดงเคมียอดเยี่ยมอย่าง พัคมินยอง, นาอินอู, อีอีคยอง และ ซงฮายุน ถ่ายทอดเสน่ห์ตัวละครที่ทำคนดูลุ้นและเอาใจช่วยทุกตอน ประสบความสำเร็จด้วยเรตติ้งทะลุ 2 หลักอย่างสวยงาม
Sanook ได้ร่วมสัมภาษณ์พิเศษกับนักแสดงนำ พัคมินยอง และ นาอินอู พูดถึงเบื้องหลังการถ่ายทำที่สนุกสนาน ความประทับใจระหว่างการถ่ายทำ รวมทั้งมุมมองของนักแสดงที่ได้ถ่ายทอดบทบาทความคิดของตัวละคร มาพูดคุยกับพวกเขาถึงเรื่องนี้กัน!
- เรื่องย่อ Marry My Husband สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ ซีรีส์เกาหลีแนวเกิดใหม่ล้างแค้น
บทสัมภาษณ์นักแสดงซีรีส์ Marry My Husband
- ช่วยเล่าเรื่องย่อของ 'Marry My Husband' และตัวละครที่คุณได้รับให้ฟังคร่าวๆ หน่อยได้ไหม
นาอินอู: ยูจีฮยอกเป็นผู้ชายที่อาจจะดูนิ่งๆ เย็นชา และแข็งกร้าว แต่ก็เป็นคนอบอุ่น ยืดหยุ่น และจะแสดงมุมอ่อนโยนออกมาเวลาที่อยู่กับจีวอนครับ
พัคมินยอง: ตัวละครของฉัน คังจีวอน เธอถูกฆาตกรรมโดยสามีและเพื่อนสนิท แต่ก็ได้รับโอกาสให้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เธอจึงใช้โอกาสนี้เพื่อเอาคืนคนที่ทำร้ายเธอ เรียกได้ว่าเธอคือคนที่เอาชนะโชคชะตาของตัวเองได้สำเร็จค่ะ
อีอีคยอง: ตัวละครของผมคือ พัคมินฮวาน ครับ เป็นคนที่น่าจะทำให้ผู้ชมรู้สึกโกรธและหัวเราะได้ในเวลาเดียวกัน เขาอาจจะทำให้คุณรู้สึกโกรธได้ แต่ก็มีด้านที่ดูไร้เดียงสาสำหรับเขาเช่นกัน
ซงฮายุน: ตัวละครของฉัน จองซูมิน เป็นผู้หญิงหน้าสวยใสที่ซ่อนความปรารถนาและความร้ายไว้เบื้องหลังค่ะ เธอเป็นคนมีเสน่ห์ที่ไม่สามารถอธิบายได้
- คุณมีวิธีเข้าถึงตัวละครยังไงบ้าง และการถ่ายทอดมุมไหนของตัวละครที่คุณรู้สึกว่าท้าทายหรือภูมิใจที่สุด
นาอินอู: จริงๆแล้ว ในเรื่องตัวละครของผมจะอยู่กับจีวอนเยอะที่สุด แต่ผมก็จะพยายามนึกถึงตัวละครอื่นๆ ที่อยู่รอบตัวจีฮยอกด้วย เพราะว่าผมอยากจะให้ตัวละครของผมมีความยืดหยุ่นและมีมิติมากขึ้น วิธีนี้ทำให้ผมได้เห็นเสน่ห์ของจีฮยอกในหลายรูปแบบ ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่ผมรู้สึกภูมิใจที่สุดในการสร้างตัวละครตัวนี้ครับ
พัคมินยอง: ส่วนฉันจะพยายามมองย้อนกลับไปถึงชีวิต 40 กว่าปีของคังจีวอนค่ะ มันช่วยให้ฉันเข้าใจตัวละครของตัวเองมากขึ้นมากๆ การถูกคนอื่นขโมยทุกสิ่งในชีวิต และการต้องสูญเสียทุกอย่าง ความตกใจที่โชคชะตาถูกขโมยไป ฉันรู้สึกเข้าใจเธอมากขึ้นผ่านการจินตนาการแบบนี้ ดังนั้นวิธีนี้จึงช่วยฉันได้มากๆเลยค่ะ
อีอีคยอง: มินฮวานไม่ใช่ตัวร้ายทั่วๆไปที่คุณนึกถึง ไม่ใช่ตัวร้ายที่ชอบอาละวาดหรือขว้างปาข้าวของ ในบางมุมคุณอาจจะรู้สึกสงสารเขา และในบางมุมก็รู้สึกตลก ผมพยายามเข้าถึงและถ่ายทอดตัวตนของเขา ให้ดูสมจริงและมีความเป็นมนุษย์ ผมภูมิใจที่สุดตอนที่ถ่ายทำฉากหนึ่งเสร็จ แล้วทีมงานวิจารณ์กันว่าเขาเป็นคนเลวมาก เป็นขยะสังคมจริงๆ พอได้ยินอย่างนั้น ผมรู้สึกภูมิใจมากเลยครับที่ถ่ายทอดตัวละครออกมาได้ดีในฉากนั้น
ซงฮายุน: ถ้าพูดถึงการสร้างตัวละคร ฉันพยายามที่จะถ่ายทอดตัวตนของเธอออกมาในสีสันที่หลากหลายค่ะ เริ่มที่สีสันสดใสก่อน แล้วค่อยๆ จบลงด้วยสีดำสนิทที่มืดมนที่สุด ฉันรู้สึกภูมิใจที่สุดตอนที่ได้ยินคนพูดว่า พวกเขาบอกไม่ได้ว่าเธอคิดอะไรอยู่และบอกว่าซูมินเป็นคนอ่านยาก
- อะไรคือเหตุผลที่พวกคุณตกลงรับเล่นซีรีส์เรื่องนี้? อะไรในบทที่ทำให้คุณรู้สึกสนใจ?
ซงฮายุน: บทสนุกมากค่ะ เป็นบทที่น่าติดตามมากๆ
พัคมินยอง: เวลาที่นักแสดงเลือกว่าจะแสดงเรื่องไหนเป็นเรื่องถัดไป มันเป็นช่วงเวลาที่เรารู้สึกขอบคุณมากๆที่มีโอกาสได้ตัดสินใจเลือกบทจากตัวเลือกมากมาย นี่คือบทที่ฉันอ่านแล้ววางไม่ลงเลยตั้งแต่ต้นจนจบ เหตุผลหลักที่ฉันตกลงรับงานนี้คือ ถ้าฉันสามารถอ่านบทตั้งแต่ต้นจนจบได้โดยไม่วางลงเลยแบบนี้ คนดูก็น่าจะอยากติดตามเรื่องราวจนจบด้วยเหมือนกัน
อีอีคยอง: มีเรื่องหนึ่งที่นักแสดงอย่างเราชอบพูดกัน คือเวลาที่เรากำลังถ่ายทำอะไรซักอย่าง มันเหมือนเรากำลังถือลอตเตอรี่ไว้ในมือ จนกว่าผลงานนั้นจะออกสู่สายตาคนดู ซีรีส์เรื่องนี้เหมือนลอตเตอรี่สำหรับพวกเราครับ พวกเราเลือกและเชื่อในงานชิ้นนี้เราเชื่อว่าแฟนๆของพวกเราจะรักงานที่เป็นเหมือนลอตเตอรี่ชิ้นนี้ ที่ทำให้เราได้แสดงมุมที่หลากหลายของเราออกมา นั่นคือเหตุผลที่เราตัดสินใจรับงานนี้ครับ
- คนดูจำภาพคุณพัคมินยอง เป็นเจ้าแม่ซีรีส์รอมคอม ซึ่งในเรื่องนี้เป็นแนวล้างแค้น คนจะได้เห็นภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปยังไงบ้าง
พัคมินยอง: ในเรื่องนี้ฉันได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำหลายอย่างเลยค่ะ โดยเฉพาะช่วงครึ่งแรกของซีรีส์ ซึ่งฉันชอบมากๆเลย อยากให้แฟนๆติดตามชมกันนะคะว่าจะได้เห็นอะไรแปลกใหม่ของฉันบ้าง
- คุณนาอินอูคิดว่าตัวเองมีคาแรกเตอร์ ดูเป็นคนสุขุม อบอุ่น โรแมนติก เหมือนกับตัวละครยูจีฮยอกไหม ประทับใจอะไรในตัวละคร ยูจีฮยอก บ้าง
นาอินอู: ตัวจริงของผมค่อนข้างห่างไกลคำว่าสุขุมพอสมควรเลยครับ แต่มีคนเคยบอกผมว่า ตัวผมมีความโรแมนติกอยู่บ้างเหมือนกัน ผมประทับใจในความแน่วแน่ของยูจีฮยอกครับ เพราะมันไม่ง่ายเลยที่จะเชื่อมั่นและมั่นคงในใครสักคนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง
- คุณมีความคิดเห็นยังไงบ้างกับพล็อตหลักของซีรีส์ ที่พูดถึงการย้อนกลับไปในอดีตและพยายามเปลี่ยนชีวิตตัวเองใหม่?
นาอินอู: ผมคิดว่าน่าสนใจดีนะครับ เพราะเราแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ตัวละครแต่ละตัวในเรื่องก็ต้องก้าวผ่านเหตุการณ์ที่ไม่เหมือนกัน และวิธีที่พวกเขาเผชิญกับเรื่องต่างๆ ก็ทำให้คุณรู้สึกอยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นยังไงต่อ นั่นคือเหตุผลที่ผมคิดว่ามันเป็นพล็อตที่น่าติดตามครับ
พัคมินยอง: มันทำให้คุณรู้สึกอยากติดตาม เพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้ในชีวิตจริง เป็นเรื่องของการจินตนาการว่า "ถ้าสมมติว่า..." ถ้าเราย้อนเวลาได้จริง ก็คงจะไม่มีซีรีส์เรื่องนี้ออกมา แต่เพราะว่ามันเป็นกฎธรรมชาติที่เลี่ยงไม่ได้ มันก็เลยทำให้คุณจินตนาการและอยากจะมีประสบการณ์แบบนั้น ฉันคิดว่าจริงๆมีคนพูดมานานแล้ว ว่าพล็อตเรื่องแบบนี้กำลังจะไม่เป็นที่นิยมแล้ว แต่ดูจากการที่ยังมีหนังหรือซีรีส์ที่มีพล็อตประมาณนี้ออกมาเยอะมาก ฉันคิดว่าน่าจะยังเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่และเชื่อว่าคนดูก็จะยังคงชอบเรื่องแบบนี้มากๆ
อีอีคยอง: พล็อตเรื่องแนวนี้มันน่าหลงใหลในแง่ที่ว่ามันยังมีบางที่ที่มนุษย์ยังไม่สามารถมีอิสระได้เต็มที่ คือบนฟ้า ในน้ำ ในโลกความจริง และในปัจจุบัน การที่ตัวละครสามารถย้อนเวลากลับไป โดยที่ยังมีความทรงจำของปัจจุบันอยู่ ก็เลยเป็นพล็อตเรื่องที่น่าดึงดูด ตอนที่แสดงในซีรีส์ ผมเองก็เคยนึกขึ้นมาเหมือนกันว่าคนดูคงจะนึกถึงตัวเองในระหว่างที่ดูซีรีส์ของเราบ้างเหมือนกันนะ เพราะว่าขนาดปฏิทินในซีรีส์ยังเป็นวันที่เมื่อ 10 ปีที่แล้วเลย คนดูอาจจะนึกถึงชีวิตของตัวเองเมื่อ 10 ปีที่แล้วขึ้นมาว่าตอนนั้นฉันทำอะไรอยู่นะ? ฉันใช้ชีวิตแบบไหน? แล้วฉันมาถึงจุดนี้ได้ยังไง? ผมคิดว่าคนดูจะมีโอกาสได้คิดทบทวนเรื่องนี้ครับ
ซงฮายุน: ซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เราเห็นภาพในจินตนาการที่คนมักจะตั้งคำถามว่า จะเป็นยังไงนะถ้าเราย้อนอดีตกลับไปได้ มันช่วยให้คนดูรู้สึกผ่อนคลายจากความเครียด ฉันว่ามันเป็นพล็อตเรื่องที่น่าติดตามมากค่ะ
- ถ้าเลือกกลับไปยังอดีตได้เหมือนตัวละคร จะเลือก กลับไปเดินเส้นทางใหม่ หรือ กลับไปแก้ไขเส้นทางเดิม
พัคมินยอง: แทนที่จะต่อสู้และแก้แค้น ฉันอยากจะเดินหน้าต่อไปและไม่ไปสนใจพวกเขาอีกค่ะ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาแล้ว
นาอินอู: ถ้าผมอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ผมคิดว่าผมอยากจะแก้แค้นครับ แต่การแก้แค้นที่ดีที่สุดคือการลืมมันไปและไม่ต้องให้ความสำคัญกับสิ่งที่พวกเขาทำ ผมอยากจะใช้ชีวิตของผมให้แตกต่างจากที่เคยเป็นอย่างสิ้นเชิง เพราะผมได้โอกาสมีชีวิตกลับมาครับ
- อยากให้คุณ พัคมินยอง และ นาอินอู พูดถึงการร่วมงานกันและกัน รวมถึงนักแสดง อีอีคยอง และ ซงฮายุน ที่ร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วย คุณมีความประทับใจต่อกันอย่างไรบ้าง
พัคมินยอง: คุณนาอินอูเป็นนักแสดงที่ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาทางสายตาได้ดีมากๆเลยค่ะ เคมีระหว่างเขากับฉันนั้นดีมากเลยตั้งแต่ช่วงแรกที่ได้ร่วมงานกัน เขาเป็นเพื่อนร่วมงานที่ยอดเยี่ยมมากค่ะ และเคมีระหว่างตัวละครของพวกเรายิ่งดีขึ้นไปอีก หลังจากที่พวกเราได้พูดคุยปรึกษากันเกี่ยวกับรายละเอียดอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร ความประทับใจแรกที่มีต่อเขา ตอนแรกฉันนึกว่าเขาเป็นคนแข็งๆ ค่ะ จากผลงานก่อนหน้านี้ แต่พอได้ร่วมงานกันฉันรู้สึกว่าเขาน่ารักเหมือนลูกหมาเลยค่ะ
ส่วนคุณอีอีคยอง เขาเป็นนักแสดงที่เก่งมากๆ และตัวจริงของเขาเป็นคนตลกมาก ฉากที่พวกเราแสดงด้วยกันตลกและสนุกมากค่ะ พวกเราเข้ากันได้ดี และฉันต้องกลั้นขำอยู่ตลอดเลย
สำหรับซงฮายุนเป็นนักแสดงที่ดีและมีความตั้งใจมาก นั่นทำให้เธอสามารถแสดงเป็นจองซูมินออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมค่ะ
นาอินอู: คุณพัคมินยองเป็นรุ่นพี่ที่ความกระตือรือร้นและช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการแสดงกับผมได้เยอะเลยครับ ตอนแรกผมเคยกังวลว่าจะแสดงออกมาได้ดีหรือเปล่า และไม่ค่อยกล้าที่จะเข้าไปคุยกับเธอ แต่เธอทำให้ผมสบายใจ รู้สึกเป็นกันเอง เคมีระหว่างพวกเราดีมาก คุณอีอีคยองเป็นคนสร้างบรรยากาศในกอง และคุณซงฮายุนทำให้กองเต็มไปด้วยพลังที่สดใสอยู่เสมอ ซึ่งผมชอบมากเลยครับ
- หลังจากได้ร่วมงานกัน มีอะไรที่คุณอยากจะชื่นชมเพื่อนๆ นักแสดงที่ทุ่มเทกับซีรีส์เรื่องนี้มาด้วยกันมาบ้าง?
พัคมินยอง: ฉันอยากขอบคุณนักแสดงที่เล่นเป็นเพื่อนร่วมทีมของฉันที่ออฟฟิศค่ะ อยากขอบคุณ คิมจุงฮี ชเวยอนชอง กงมินจอง ก่อนถ่ายทำพวกเขาทุกคนเตรียมคาแรคเตอร์ตัวละครมาดีมากๆ ดังนั้นเคมีระหว่างพวกเราก็เลยออกมาดีมากตั้งแต่ยังไม่ได้ซ้อม ฉันเคยแสดงบทที่ต้องอยู่ในฉากที่เป็นออฟฟิศหลายเรื่อง มันมีโอกาสเยอะมากที่จะถ่ายออกมาแล้วดูน่าเบื่อ แต่ทุกคนทำให้ฉากในออฟฟิศลื่นไหลและสนุกมาก
อีอีคยอง: จริงๆ ก็มีซีรีส์ดีๆ แบบนี้หลายเรื่องนะครับ แต่สิ่งที่ผมคิดว่าพิเศษสำหรับซีรีส์ของเรา คือการที่นักแสดงทุกๆ คนได้แสดงอารมณ์ความรู้สึกที่หลากหลายมากๆ พวกเรารู้สึกทึ่งสุดๆกับการแสดงของกันและกัน อีกเรื่องที่ผมประทับใจมากคือผมได้เรียนรู้จากทุกๆคนเยอะมาก มันดีมากๆเลยที่พวกเราทำงานด้วยกันได้อย่างดี เรามีนักแสดงที่เล่นเป็นพ่อแม่ในซีรีส์ด้วย ผมอยากจะบอกพวกเขาว่า ผมมีความสุขมากๆตอนที่ถ่ายทำด้วยกันครับ
- อยากให้เลือกตัวละครจากในซีรีส์ที่ “ไม่อยากพบเจอ” และ “อยากเจอ” ในชีวิตจริง พร้อมเหตุผล
พัคมินยอง: ฉันอยากเจอตัวละครอย่าง ยูจีฮยอก และ ยูฮียอน แน่นอนค่ะ และฉันไม่อยากให้ในชีวิตของฉันต้องพบเจอคนอย่างซูมินเลย
นาอินอู: ตัวละครที่ผมอยากเจอมากที่สุดในชีวิตจริงคือ ดงซอก มันคงจะดีมากเลยถ้ามีรุ่นน้องที่เป็นเหมือนครอบครัวอย่างเขาคอยอยู่เคียงข้าง ช่วยเหลือผมในเรื่องต่างๆ เหมือนกับเป็นเรื่องของเขาเอง ในทางตรงกันข้ามคนที่ผมหวังว่าจะไม่ต้องมาเจอกันในชีวิตจริง คือตัวละครอย่างซูมินครับ เหตุผลก็คือเธอเป็นคนที่เสแสร้ง แต่จริงๆ แล้วเธอกำลังทำลายชีวิตเพื่อนสนิทของเธอ
- ในเรื่องคุณพัคมินยองลงทุนลดน้ำหนักกว่า 10 กก. เพื่อบทบาทนี้ อุปสรรคที่ท้าทายสำหรับการลดน้ำหนัก สำหรับคุณคืออะไรบ้าง
พัคมินยอง: ตอนที่ลดน้ำหนักฉันไม่ค่อยมีความอยากอาหารเท่าไหร่ ฉันพยายามไม่นึกถึงสิ่งที่อยากกิน ปกติฉันพยายามที่จะกินอาหารสุขภาพอยู่แล้ว พอต้องมาลดน้ำหนักฉันเลยเลือกทานอาหารสุขภาพมากขึ้นค่ะ
- การต้องเป็นยูจีฮยอก คุณได้ทำการบ้านกับตัวละครนี้ยังไงบ้าง
นาอินอู: เนื่องจากตัวละครของผมเป็นหัวหน้าฝ่ายการตลาด ผมเลยอยากแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นมืออาชีพและมีความเก่งแค่ไหน ผมเลยพยายามฝึกน้ำเสียง สีหน้า และท่าทาง ให้ดูเป็นมืออาชีพด้านนี้จริงๆครับ
- หลังจากได้เล่นซีรีส์เรื่องนี้แล้ว รู้สึกว่าได้อะไรหลังจากแสดงเรื่องนี้บ้าง
พัคมินยอง: ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเหมือนของขวัญของฉันเลยค่ะ ก่อนหน้านี้ฉันรู้สึกเหนื่อยมาก พอได้มาร่วมแสดงในเรื่องนี้ ฉันรู้สึกได้รับพลังกลับคืนมา และยังมองเห็นเส้นทางตัวเองในฐานะมนุษย์พัคมินยอง
นาอินอู: ผมพยายามแสดงให้เห็นด้านที่แตกต่างจากที่เคยเป็นมา พอซีรีส์เรื่องนี้ออกฉายและคนดูได้ดูผมแสดงเป็นยูจีฮยอก และบอกว่า “นี่เป็นการค้นพบด้านใหม่ของนาอินอู” นั่นทำให้ผมมีกำลังใจและอยากลองแสดงคาแรคเตอร์ที่หลากหลายมากขึ้นในอนาคตครับ
- คุณมีเรื่องอะไรสนุกๆ ระหว่างถ่ายทำที่จำได้บ้าง?
อีอีคยอง: ซีรีส์ของเรามีทั้งสี่ฤดูเลยนะครับ คุณจะได้เห็นความเขียวขจี ดอกซากุระ ใบไม้ร่วง แล้วก็ฤดูหนาว พอเป็นซีรีส์ที่มีการเดินทางข้ามเวลาแบบนี้ คุณจะรู้สึกถึงทุกๆ ฤดูกาลที่เปลี่ยนไป
พัคมินยอง: ตอนที่ฉันเริ่มถ่ายมีซากุระบานเต็มไปหมดเลยค่ะ แต่เพราะตอนหลังมันร่วงไปหมด ได้ยินว่าทีมงานเลยต้องใช้ดอกไม้กระดาษด้วย เพราะว่าฤดูกาลมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ มีอีกเรื่องนึงเกี่ยวกับระบบการถ่ายทำในยุคนี้ คือเราจะต้องใส่ชุดตามฤดูกาล เพื่อให้เห็นช่วงเวลาที่เปลี่ยนไป ที่ฉันจำได้แม่นเลยคือวันที่มีคลื่นอากาศหนาวค่ะ วันนั้นฉันต้องใส่เดรสแขนสั้นขึ้นไปถ่ายทำบนดาดฟ้า ยิ้มไปกับเสียงเพลง ตอนที่กำลังถ่าย ถึงหน้าฉันจะยิ้ม แต่ในใจคือยิ้มไม่ออกเลยนะคะ...
- คุณคิดว่า 'Marry My Husband' มีความต่างจากซีรีส์แฟนตาซี-โรแมนติกคอเมดี้เรื่องอื่นๆ ยังไงบ้าง? ทำไมถึงต้องดูซีรีส์เรื่องนี้?
อีอีคยอง: ผมว่ามันเหมือนกล่องของขวัญที่มีของหลายอย่าง ถ้าเทียบกับโอลิมปิกส์ มันเหมือนปัญจกีฬาที่เป็นการแข่งกีฬาหลายๆประเภทน่ะครับ
พัคมินยอง: ซีรีส์ของเราอาจไม่ได้เรียกว่าเป็นแนวแฟนตาซี-รอมคอมซะทีเดียว ซีรีส์เรื่องนี้รวมเรื่องราวหลากหลายแนวไว้ด้วยกัน เพราะว่าแค่เปิดมาตอนแรก เรื่องก็เข้มข้นอัดแน่นสุดๆแล้ว แม้ว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปเร็วมาก แต่ก็ยังดูสนุก แล้วก็เข้าใจง่าย และตัวบทซีรีส์เองก็มีพลังมากๆด้วย
- ทุกๆ คนโดยเฉพาะแฟนซีรีส์เกาหลีพูดถึง 'Marry My Husband' กันตั้งแต่ประกาศเปิดกองเลย พวกคุณรู้สึกยังไงบ้างกับความคาดหวังที่ได้รับจากคนดู?
นาอินอู: ซีรีส์เรื่องนี้ พวกเราสนุกและทุ่มเทกับการถ่ายทำมากๆ หวังว่าจะคนดูจะรักซีรีส์เรื่องนี้ และติดตามกันจนถึงตอนจบนะครับ!
พัคมินยอง: ฉันคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้คนดูได้ข้อคิดหลายอย่างเลยค่ะ พวกเราหวังว่าคุณจะเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวในซีรีส์และติดตามจนจบว่าจะมีตัวร้ายคนไหนที่อยู่รอดไหม และการเอาคืนของพวกเราจะจบลงตรงไหน อยากให้ติดตามดูกันค่ะ
อีอีคยอง: มีคนพูดว่าแม้ว่าตัวจะอยู่ไกล แต่หัวใจเราใกล้กัน ขอบคุณสำหรับความรักที่มีให้กับซีรีส์เกาหลีนะครับ ผมเชื่อว่าอาจจะมีบางจุดที่คุณดูแล้วเข้าใจยากซักหน่อยในแง่วัฒนธรรม แต่ก็ขอบคุณมากๆเลยครับ ที่ชื่นชอบรสชาติที่หลากหลายของซีรีส์เกาหลี และก็หวังว่าคุณจะรักและติดตามซีรีส์ของพวกเราต่อไปเรื่อยๆนะครับ
ซงฮายุน: ฉันมั่นใจว่าถ้าได้เริ่มดูตอนแรกแล้ว ยังไงคุณก็ต้องอยากดูซีรีส์เรื่องนี้ต่อจนจบแน่นอนค่ะ เนื้อเรื่องที่หักมุมจะทำให้คุณหยุดดูไม่ได้ ตอนที่ถ่ายทำ พวกเราเองก็ตั้งตารอตอนจบด้วยเหมือนกันค่ะ แล้วก็ได้ยินว่าแฟนๆตั้งความหวังกันไว้สูงมาก เราทำงานกันอย่างหนักเพื่อให้แน่ใจว่าจะคุ้มค่ากับเวลาของคุณที่สุด ดังนั้นหวังว่าเราจะได้รับความรักจากพวกคุณนะคะ!
- ถ้าหากพูดถึงประเทศไทย จะนึกถึงอะไร และอยากบอกอะไรกับแฟนชาวไทยบ้าง
นาอินอู: เมื่อพูดถึงประเทศไทย ผมจะนึกถึงวัฒนธรรมที่สวยงามและอาหารที่อร่อย แฟนมีตติ้งครั้งแรกของผมจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ดังนั้นประเทศไทยจึงเป็นประเทศที่มีความหมายสำหรับผมมาก ถ้ามีโอกาสผมอยากจะเจอแฟนๆชาวไทยอีกครั้ง ขอบคุณสำหรับความรักที่มอบให้ผมครับ
พัคมินยอง: เจอกันเร็วๆ นี้ค่ะ
ติดตามซีรีส์ Marry My Husband (สามีคนนี้แจกฟรีให้เธอ) ออกอากาศทุกวันจันทร์ และ วันอังคาร ทาง Prime Video
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.