รู้หรือไม่? ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ แต่ละภาคคนละเรื่องกัน

จำกันได้ไหม หนัง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ของ หลิวเต๋อหัว รู้หรือไม่ว่าแต่ละภาคมันคนละเรื่องกันเลย

ย้อนกลับไปในปี 2533 มีหนังฮ่องกงเรื่องหนึ่ง ที่เรียกว่าเป็น “หนังคั่นเวลา” รอการมาขอหนังฟอร์มยักษ์เรื่องอื่นๆ แต่หลังจากเข้าฉายไม่นานก็พลิกความคาดหมายของคนไทยทั้งประเทศ ด้วยรายได้ถล่มทลายหลักสิบล้านบาทและทำลายสถิติเข้าโรงฉายนานที่สุดถึง 3 เดือน รวมถึงแจ้งเกิดนักแสดงนำจนเป็นที่รู้จัก และเกิดกระแสเลียนแบบตัวละครในเรื่องกันทั่วประเทศ

หนังเรื่องนั้นคือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ นำแสดงโดย หลิวเต๋อหัว และ อู๋เซียนเหลียน

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ (A Monent of Romance) เป็นหนังแนวเมโลดรามา ผลงานกำกับโดย เฉินมู่เซิ่ง อำนวยการสร้างโดย ตู้ฉีฟง มีเรื่องราวเกี่ยวกับความรักที่เต็มไปด้วยอุปสรรคของ นักเลงจากแก๊งอันธพาล ที่รักกับลูกสาวมหาเศรษฐี ความแตกต่างของทั้งคู่ทำให้เกิดโศกนาฎกรรมความรักที่ทำให้ทั้งคู่ไม่อาจรักกันได้อย่างใจคิด เป็นหนังคลาสสิกในตำนานที่ในสมัยก่อนการได้ดูหนังที่ทั้งเศร้าทั้งซาบซึ้งและสงสารในโชคชะตาของทั้งสองคน ทำเอาหลายคนตีตั๋วเข้าไปดูหนังเรื่องนี้ซ้ำหลายรอบ รวมถึงเกิดกระแสเลียนแบบพระเอก ปาดผมแสกกลาง สวมแว่นเรย์แบน และขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ รอสาวมาซ้อนท้ายกันทั่วบ้านทั่วเมือง

คนตั้งชื่อหนัง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ

ชื่อหนังในตำนานเรื่องนี้ ได้ อาจารย์สุชาติ วุฒิวิชัย สุดยอดครีเอทีฟไดเรกเตอร์และมือการตลาดของ APEX เป็นผู้ตั้งชื่อหนังเรื่องนี้ครับ และเขายังเป็นคนตั้งชื่อหนังฮ่องกง และหนังฝรั่งชื่อดังหลายเรื่องในสมัยนั้น เช่น  The Days of Being Dumb เข้าเเก็งไหน หัวหน้าตายหมด (1992) และ Ghost วิญญาณ ความรัก ความรู้สึก (1990) เป็นต้น

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ แต่ละภาคเป็นคนละเรื่องกัน

จากความสำเร็จของหนังเรื่องนี้ ทำให้ในปี 2536 มีการสร้างภาพยนตร์เรื่อง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ 2 แตะเธอโลกแตกแน่ (A Moment of Romance II) แต่จริงๆ แล้ว เนื้อเรื่องของภาค 2 นี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับภาคแรกเลย

แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยความนิยมของ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ที่โด่งดังไม่ใช่แค่ในฮ่องกงและไทย แต่เป็นทั่วเอเชีย จึงทำให้มีหนังที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรักของหนุ่มสาวคนละชนชั้นออกมาให้ดูกันอีก นั่นคือเรื่องนี้ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ 2 แตะเธอโลกแตกแน่ ในปี 2536 ได้ผู้กำกับคนเดิม เฉินมู่เซิ่ง (Benny Chan) โปรดิวซ์โดย ตู้ฉีฟง (Johnnie To) มาเล่าเรื่องใหม่ภายใต้ธีมเดิม นำแสดงโดย กัวฟู่เฉิง ประกบ อู๋เซียนเหลียน เล่าถึงพระเอกที่เป็นทายาทมหาเศรษฐีที่สูญเสียแม่ไปจากอุบัติเหตุ แถมยังไม่ลงรอยกับพ่อจนโดนไล่ออกมาจากบ้าน มาเจอกับนางเอกผู้มาจากบ้านที่มีฐานะยากจน ยอมทำทุกอย่างเพื่อพาน้องชายออกมาจากคุก และต้องหนีจากการถูกตามล่าจากความเข้าใจผิด

แม้เนื้อเรื่องจะเป็นหนังคนละม้วนกันจากภาคแรก แต่ภาคสองก็ประสบความสำเร็จอย่างมากตามภาคแรกไปติดๆ และเนื้อเรื่องรวมถึงการแสดงของนักแสดงในภาคสองก็ทำให้ผู้ชมตราตรึงใจได้ไม่น้อยเช่นกัน

นอกจากภาคสองแล้ว ยังมีภาคสามอีกด้วย ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ 3 ไม่มีวันไหนที่ไม่คิดถึง (A Moment of Romance III) ในปี 2539 กำกับโดย ตู้ฉีฟง ที่เปลี่ยนหน้านี้จากโปรดิวเซอร์เป็นผู้กำกับในภาคสุดท้ายนี้ ได้นักแสดงนำคู่ขวัญเดิมจากภาคแรก หลิวเต๋อหัว และ อู๋เซียนเหลียน แต่เนื้อเรื่องไม่มีความเกี่ยวข้องกับทั้งสองภาคก่อนหน้านี้เช่นกัน เป็นเรื่องราวความรักท่ามกลางสมรภูมิรบของนักบินทายาททหารยศสูง กับหญิงสาวชาวบ้านที่พบรักกันจากการที่ฝ่ายชายบาดเจ็บจากการถูกยิงเครื่องบินร่วงระหว่างออกรบ ฝ่ายหญิงเข้ามาช่วยเหลือปฐมพยาบาลให้รอดชีวิต จนทั้งสองคนมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน และต้องปกป้องความรักของตัวเองไปพร้อมๆ กับการปกป้องประเทศด้วย

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ 2 แตะได้ถ้าไม่กลัวโลกแตก

นอกจาก ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ทั้งสามภาคแล้ว หลายคนอาจรู้สึกว่ามีชื่อหนังเรื่องนี้อยู่อีกเรื่อง นั่นคือ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ 2 แตะได้ถ้าไม่กลัวโลกแตก แม้ว่าชื่อเรื่องจะคล้ายกันและอาจเกิดความสับสนขึ้นได้ว่าเรื่องไหนเป็นภาคสองกันแน่ แต่จริงๆ แล้วเรื่องนี้มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Casino Raiders 2 ผลงานในปี 2534 ปล่อยออกมาจากหลังภาคแรก ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ (A Moment of Romance) ออกมาแค่ปีเดียว ชื่อหนังภาษาไทยนี้จึงอาจทำให้คนดูสับสนว่าเป็นภาคสองของหนังเรื่องนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นหนังคนละเรื่องคนละธีมกันเลย แต่ตั้งชื่อไทยตามกระแสหนังดังเพราะมี หลิวเต๋อหัว และ อู๋เซียนเหลียน มาแสดงนำเหมือนกันนั่นเอง โดยภาคแรกของ Casino Raiders (2532) ใช้ชื่อภาษาไทยว่า เจาะเหลี่ยมกะโหลก เป็นเรื่องราวของสองหนุ่มเพื่อนซี้ที่พิสูจน์ความเป็นเพื่อนด้วยการต่อสู้กับยากูซ่าผ่านการพนัน

 

ในไทย มีการฉลอง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ครบรอบ 30 ปี ในปี 2020 ที่ผ่านมา ด้วยการเอาหนังเรื่องนี้กลับมาฉายใหม่ในโรงภาพยนตร์อีกด้วย แฟนๆ ของพี่หลิวเต๋อหัว และ อู๋เซียนเหลียน รวมถึงคนรุ่นใหม่เข้าไปชมเพื่อย้อนรำลึกความหลัง และพิสูจน์ความคลาสสิกของหนังเมโลดรามาฮ่องกงในตำนานกันอย่างดีเช่นกัน 

สุดท้าย ไม่ว่าจะอย่างไร ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ก็เป็นหนังฮ่องกงที่ยังอยู่ในความทรงจำและยังตราตรึงใจคนไทยต่อไปได้อีกหลายสิบปีชั่วลูกชั่วหลาน เหมือนความเท่ของหลิวเต๋อหัว และความงดงามของอู๋เซียนเหลียนที่ยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้ชมทั่วเอเชียไม่เสื่อมคลาย

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.