ปิดตำนานพระเอกดัง "มานพ อัศวเทพ" เสียชีวิตในวัย 86 ปี

อีกหนึ่งข่าวเศร้าของการบันเทิง โดยเฉพาะวงการภาพยนตร์ไทยที่ล่าสุดเพิ่งจะมีการสูญเสียอีกครั้ง กับข่าวเศร้าของการจากไปของ อดีตพระเอกหนังไทยคนดัง มานพ อัศวเทพ ซึ่งจากไปอย่างสงบเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2566 สิริอายุรวม 86 ปี

ซึ่งเรื่องราวข่าวเศร้านี้ ทางเพจ ดาราภาพยนตร์ ได้แจ้งข่าวไว้โดยทีมข่าวดาราภาพยนตร์โทรสอบถามกับคุณเอ๋บุตรสาวคนโตของอามานพได้รับข้อมูลว่า

"คุณพ่อเพิ่งฉลองวันคล้ายวันเกิดไปเมื่อ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา อายุ 86 ปี หลังจากนั้นเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาคุณพ่อมีอาการปวดท้องก็ไปตรวจพบว่ามีนิ่วในกระเพาะจึง เข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาโรคนิ่วในกะเพาะอาหารที่อักเสบ และมีอาการติดเชื้อ ลามไปในกระแสโลหิต คุณพ่อเสียชีวิตอย่างสงบที่โรงพยาบาลทหารเรือ สิริอายุ 86ปี"

โดยมีกำหนดสวดพระอภิธรรม พันจ่าเอกมานพ อัศวเทพ ณ วัดเจ้าอาม ถนนบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย วันเสาร์ที่28 ตุลาคม 2566 และพิธีฌาปนกิจ วันอังคารที่31 ตุลาคม เวลา 17.00 น ณ เมรุวัดเจ้าอาม

ประวัติ มานพ อัศวเทพ มีชื่อเล่นว่า ยะ เกิดที่กรุงเทพมหานคร จบจากโรงเรียนจ่าทหารเรือที่สัตหีบ เคยทำงานอยู่ที่กองบัญชาการทหารสูงสุด เป็นพลขับประจำตัวจอมพลถนอม กิตติขจร ได้รับยศพันจ่าเอก มานพเริ่มเข้าวงการภาพยนตร์ในใช้ชื่อว่า นาวิน เทพโยธี แสดงเป็นพระรองเรื่องแรกคือ นางสมิงพราย (2506 มิตร-ตรึงใจ) แสดงเป็นพระเอกในเรื่อง พิชิตทรชน (2507) แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ จึงเป็นดาราสมทบอีกในเรื่อง เพชรน้ำผึ้ง (2508 สมบัติ-เพชรา) หลั่งเลือดแดนสิงห์ (2512 สมบัติ-เพชรา) กระทั่งพลเรือโทบัณฑิต สุวงค์ แนะนำให้ไปพบพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคลกับหม่อมปริม บุนนาค จึงให้แสดงเป็นพระเอกคู่กับ สุทิศา พัฒนุช ในเรื่อง ละครเร่ พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น มานพ อัศวเทพ

ละครเร่ เข้าฉายเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2512 ชื่อของมานพจึงเริ่มเป็นที่รู้จัก แต่ภาพยนตร์ที่สร้างชื่อเสียงให้อย่างมากก็คือ ชู้ ของ เปี๊ยกโปสเตอร์ เข้าฉายเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2515 จากนั้น มานพก็รับแสดงภาพยนตร์เรื่อยมาซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบทพระรอง ดาวร้าย โดยมานพได้รับรางวัลตุ๊กตาทองดาราประกอบชาย จากเรื่อง เงาราหู (2519)

มานพ อัศวเทพ มีชื่อจริงคือ วิริยะ จุลมกร ชื่อเล่น ยะ เกิดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2477จบการศึกษาจากโรงเรียนจ่าทหารเรือที่สัตหีบ รับราชการเป็นทหารเรืออยู่ที่กองบัญชาการทหารสูงสุดและเป็นพลขับประจำตัวของจอมพลถนอม กิตติขจร โดยได้รับตำแหน่งยศพันจ่าเอก

ก่อนเข้าสู่วงการโดยบังเอิญในปี พ.ศ. 2505 ด้วยการพบกับ สนาน คราประยูร เจ้าของนครพิงค์ภาพยนตร์ ที่ร้านตัดผม โดยใช้ชื่อในวงการบันเทิงว่า นาวิน เทพโยธี ก่อนที่จะมีผลงานทางจอเงินครั้งแรกในปี พ.ศ. 2506 เรื่อง นางสมิงพราย ประกบกับ มิตร ชัยบัญชา และ ตรึงใจ วลัยลักษณ์ ต่อมาจึงได้รับบทเป็นพระเอกเต็มตัวเรื่องแรกในปี พ.ศ. 2507 คือ พิชิตทรชน คู่กับ อมรา อัศวนนท์ ต่อด้วย เพชรน้ำผึ้ง (2508), สุดแผ่นดิน (2510), หลั่งเลือดแดนสิงห์ (2512) ประกบกับ สมบัติ เมทะนี และ เพชรา เชาวราษฎร์ ขณะนั้นรับงานแสดงได้ไม่เต็มที่เพราะยังรับราชการเป็นทหารเรือไปด้วย

จนกระทั่งหม่อมปริม ยุคล ณ อยุธยา (บุนนาค) ซึ่งเป็นหม่อมของ พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคล ได้ติดต่อให้เป็นพระเอกภาพยนตร์ของของอัศวินภาพยนตร์เรื่อง ละครเร่ คู่กับ สุทิศา พัฒนุช ร่วมด้วยดาราใหม่ในสมัยนั้น คือ สายัณห์ จันทรวิบูลย์, จารุวรรณ ปัญโญภาส และ กนกวรรณ ด่านอุดม ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัลชมเชยกำกับศิลป์ จากงานมหกรรมภาพยนตร์เอเชียแปซิฟิค ครั้งที่ 15 ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ในปีเดียวกัน

จากนั้นเขาได้เปลี่ยนชื่อในวงการเป็น มานพ อัศวเทพ จนถึงปัจจุบัน ต่อมาจึงมีผลงานตามมาอย่างต่อเนื่องทั้ง พระรอง และตัวร้าย จนได้รับรางวัลตุ๊กตาทองนักแสดงประกอบชายจากเรื่อง เงาราหู ที่กำกับโดย เปี๊ยก โปสเตอร์ เมื่อปี พ.ศ. 2519


ชีวิตส่วนตัว สมรสกับคุณกุ้ง-สุนันท์ จุลมกร มีบุตรและบุตรีทั้งหมด 3 คน รวมถึงมีผลงานทั้งแสดงภาพยนตร์และผลงานละครโทรทัศน์มากมาย

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.