4 สาเหตุว่าทำไมไม่ควรกินอาหารขณะขับรถ
เชื่อว่าหลายคนเลือกที่จะรับประทานอาหารรองท้องขณะขับรถ โดยเฉพาะช่วงเช้าหรือช่วงเย็นหลังเลิกงาน แต่ทราบหรือไม่ว่าการรับประทานอาหารขณะขับรถอาจส่งผลเสียได้มากกว่าที่คิด มีอะไรบ้าง Sanook Auto จะพาไปดูกัน
4 สาเหตุว่าทำไมไม่ควรนำอาหารมาทานขณะขับรถ
1. เสียสมาธิในการขับรถ
การทานอาหารขณะขับรถส่งผลให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิในการควบคุมรถได้ เพราะอาหารส่วนมากจำเป็นจะต้องหยิบจับ จิ้ม หรือตักด้วยช้อนส้อม จะทำให้ผู้ขับขี่เบนความสนใจจากถนนเบื้องหน้ามาอยู่ที่การจัดการอาหารแทน ระหว่างนี้หากมีรถมอเตอร์ไซค์ตัดหน้า หรือคนเดินข้ามถนน ก็อาจไม่ทันมองจนเกิดอุบัติเหตุได้
2. การตอบสนองต่อสิ่งภายนอกลดลง
การทานอาหารจะทำให้อารมณ์เย็นลงก็จริง แต่การทานระหว่างขับรถจะทำให้การตอบสนองต่อการจราจรภายนอกลดลง หากจำเป็นต้องเหยียบเบรกกะทันหันตามรถคันหน้า จะทำให้การตอบสนองเป็นไปช้ากว่าที่ควรจะเป็น สุดท้ายแล้วอาจเบรกรถไม่ทัน เพราะมัวแต่กังวลว่าภาชนะจะตกลงพื้นเลอะเทอะ เป็นต้น
3. ควบคุมรถได้ไม่เต็มที่
การทานอาหารจำเป็นต้องใช้มือในการจัดการอาหาร ซึ่งแปลว่าผู้ขับขี่จะใช้เพียงมือเดียวในการควบคุมพวงมาลัย ระหว่างนี้หากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเลนหรือหักหลบกะทันหัน จะทำให้ผู้ขับขี่ไม่สามารถควบคุมรถได้เต็มที่ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้
4. เกิดกลิ่นเหม็นภายในรถ
นอกจากการทานอาหารจะเป็นอันตรายต่อการขับขี่แล้ว เศษอาหารอาจตกลงในซอกหลืบภายในห้องโดยสาร ยากต่อการมองเห็นและทำความสะอาด สุดท้ายแล้วก็จะเกิดการเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็นที่ยากต่อการกำจัด เป็นสาเหตุว่าทำไมรถบางคันต่อให้เข้าคาร์แคร์ก็ไม่สามารถขจัดกลิ่นเหม็นจนสิ้นซากได้อยู่ดี
หากมีความจำเป็นต้องทานอาหารภายในรถ ควรทำต่อเมื่อรถหยุดนิ่งหรือติดไฟแดงอยู่เท่านั้น และควรเป็นอาหารที่สามารถทานง่ายด้วยมือเดียว ไม่หกเลอะเทอะง่าย จะได้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการขับรถครับ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.