"รถไฮบริด" กับ "รถไฟฟ้า" แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน?

แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงจนฉุดไม่อยู่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทคโนโลยีไฮบริดที่ได้รับการพัฒนามาระยะเวลานาน ก็มีการปรับราคาจำหน่ายให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน เกิดเป็นคำถามว่าระหว่างรถ EV กับ Hybrid แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน?

"EV" กับ "Hybrid" แบบไหนคุ้มค่ากว่า?

ความคุ้มค่าของแต่ละคนคงไม่อาจตัดสินได้เพียงปัจจัยเดียวเท่านั้น เนื่องจากแต่ละคนก็มองหาแง่มุมความคุ้มค่าที่แตกต่างกันออกไป แต่หากกล่าวถึงการใช้งานของรถยนต์ EV และ Hybrid ต่างก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งสามารถจำแนกของดีและข้อด้อยของแต่ละประเภทได้ดังนี้

ข้อดีรถยนต์ไฟฟ้า

สมรรถนะสูง - รถยนต์ไฟฟ้ามีแรงบิดสูง สามารถถ่ายทอดแรงบิดทั้งหมดลงสู่พื้นถนนได้ทันทีที่กดคันเร่ง โดยไม่ต้องรอรอบเหมือนกับรถสันดาป จึงสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วทันใจ มีอัตราเร่งที่ดี

ประหยัดค่าใช้จ่ายได้จริง - รถยนต์ไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรถูกที่สุดเมื่อเทียบกับรถสันดาปล้วนและรถไฮบริด ยิ่งใครขับเฉพาะไป-กลับที่ทำงานบนเส้นทางเดิมเป็นประจำแล้วล่ะก็ การชาร์จไฟช่วง Off-peak ที่บ้านจะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้มาก

ไม่ปล่อยมลพิษ - รถยนต์ไฟฟ้าสามารถเปิดแอร์จอดอยู่กับที่โดยไม่ปล่อยมลพิษเลยแม้แต่นิดเดียว แตกต่างจากรถไฮบริดที่เครื่องยนต์อาจดิดขึ้นเป็นระยะ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องนั่งรออยู่ภายในรถบ่อยๆ เช่น ผู้ปกครองที่ต้องรอรับลูกกลับจากโรงเรียน

ข้อเสียรถยนต์ไฟฟ้า

ตัวเลือกยังไม่หลากหลายเท่าที่ควร - แม้ว่าปัจจุบันจะมีรถยนต์ไฟฟ้าให้เลือกหลากหลายรุ่นและระดับราคา แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตสัญชาติจีนซึ่งยังไม่เสถียรในด้านคุณภาพและการใช้งาน ขณะที่ผู้ผลิตฝั่งญี่ปุ่นมีตัวเลือกน้อยมาก และยุโรปก็เน้นจับกลุ่มตลาดบนราคาแพง ยากต่อการเข้าถึงของคนกลุ่มใหญ่

สถานีชาร์จยังมีจำกัด - ถึงปัจจุบันจะมีการขยายสถานีชาร์จเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าหากขับรถเดินทางไกล ยังคงจำเป็นต้องวางแผนการชาร์จให้ดีเสียก่อน แตกต่างจากรถสันดาปหรือไฮบริดที่มีปั๊มน้ำมันรองรับครอบคลุมทั่วประเทศ

ระยะเวลาการชาร์จ - ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่ของรถ EV ยังคงถือเป็นอุปสรรคสำหรับการเดินทางไกล อีกทั้งปริมาณกระแสไฟจากตู้ชาร์จแต่ละตู้ก็ไม่เท่ากัน หากแบตเตอรี่ของรถมีความร้อนสูง หรือมีรถคันอื่นชาร์จร่วมด้วยก็ยิ่งจะช้าลงไปอีก

ข้อดีรถไฮบริด

ประหยัดน้ำมัน - รถไฮบริดมีความประหยัดน้ำมันมากกว่าเมื่อเทียบกับรถสันดาปล้วน ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรถูกกว่า ยิ่งขับมากเท่าไหร่ก็ยิ่งประหยัดมากขึ้นเท่านั้น

ไม่ต้องรอชาร์จไฟ - หากคิดเป็นค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตร อาจสู้รถ EV ไม่ได้ แต่รถไฮบริดได้เปรียบในเรื่องการใช้งานที่ไม่แตกต่างจากรถน้ำมัน เพียงแค่เติมน้ำมันไม่กี่นาทีก็สามารถขับได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องรอชาร์จไฟ

ราคาเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น - ปัจจุบันรถไฮบริดมีราคาจำหน่ายเข้าถึงได้ง่ายกว่าแต่ก่อน จึงสามารถเป็นเจ้าของได้โดยไม่ต้องกังวลด้านการใช้งานแบบรถ EV

ข้อเสียรถไฮบริด

ยังต้องเติมน้ำมัน - ต่อให้รถไฮบริดจะประหยัดขนาดไหน แต่ก็ยังจำเป็นต้องเติมน้ำมันอยู่ดี ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายยังคงแปรผันกับราคาน้ำมันที่มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา

ระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าสั้น - รถไฮบริดบางรุ่นมีระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าที่จำกัด เว้นแต่รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่สามารถขับขี่ได้ตั้งแต่หลักสิบ ไปจนถึงหลักร้อยกิโลเมตร แต่ก็แลกมาด้วยมูลค่าที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน

หากกล่าวโดยสรุปแล้วรถยนต์ไฟฟ้าเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้งานบนเส้นทางเดิมเป็นประจำ เช่น จากบ้านไปที่ทำงาน เพราะสามารถชาร์จไฟที่บ้านได้ ขณะที่รถไฮบริดแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายคิดเป็นบาทต่อ กม. สูงกว่ารถยนต์ไฟฟ้า แต่ก็ได้เปรียบเรื่องการขับขี่ทางไกลที่สามารถขับได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องเสียเวลาชาร์จไฟเป็นระยะเวลานาน หากต้องซื้อรถเป็นคันเดียวของบ้าน และต้องออกต่างจังหวัดอยู่บ่อยๆ รถไฮบริดก็เป็นทางเลือกที่ค่อนข้างเหมาะสมเช่นกัน

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.