รีวิว Kia Carnival SXL Luxury รุ่น 7 ที่นั่ง ทั้งหรูทั้งประหยัด ค่าตัวไม่ถึง 3 ล้าน

รีวิว Kia Carnival SXL Luxury 2024-2025 ใหม่ ลงตัวกับห้องโดยสาร 3 แถว 7 ที่นั่ง จะใช้งานเป็นรถผู้บริหารก็ได้ หรือจะเป็นรถครอบครัวก็ดี กับขุมพลังดีเซล 2.2 ลิตร แรงและประหยัดโดยไม่ต้องพึ่งระบบไฮบริด กับงบประมาณ 2.99 ล้านบาท จะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างไปติดตามได้ในบทความนี้ครับ

รุ่นย่อยและราคาจำหน่าย Kia Carnival 2024-2025

• รุ่น LX ราคา 1,892,000 บาท
• รุ่น EX ราคา 2,234,000 บาท
• รุ่น SXL ราคา 2,594,000 บาท
• รุ่น SXL Luxury ราคา 2,990,000 บาท (รุ่นที่ใช้ทดสอบในบทความนี้)

Kia Carnival รหัสตัวถัง KA4 โฉมปัจจุบันถือเป็นเจเนอเรชันที่ 4 แล้ว ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยครั้งแรกเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา โดยมีให้เลือกเฉพาะรุ่น 11 ที่นั่งเท่านั้น ก่อนจะเพิ่มทางเลือกด้วยรุ่น SXL Luxury 7 ที่นั่ง เปิดตัวครั้งแรกที่งาน Bangkok International Motor Show 2024 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมานี้เอง

รูปลักษณ์ภายนอก "สุด" เสียที

เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับหน้าตาของ Kia Carnival โฉมปัจจุบันมาพอสมควรแล้ว แต่รุ่น SXL Luxury อันถือเป็นรุ่นท็อปสุด ก็ได้มีการอัปเกรดรายละเอียดเพื่อให้สมกับค่าตัวหลัก 2 ล้านบาทเสียที สิ่งนั้นก็คือ "ไฟท้ายแบบ LED" นั่นเอง เนื่องจากปัจจุบันมีลูกค้าจำนวนไม่น้อยยอมควักกระเป๋าหลักหมื่นเพื่อเปลี่ยนไฟท้ายเป็นแบบ LED ด้วยเหตุว่าไฟท้ายแบบธรรมดามันดูไม่ค่อยเข้ากับความหรูหราของตัวรถเท่าไหร่นัก แต่รุ่น SXL Luxury ติดตั้งไฟ LED จากโรงงานมาให้แล้ว

อีกจุดหนึ่งที่มีการเปลี่ยนเปลี่ยนนั่นก็คือ ล้ออัลลอยสีดำขนาด 19 นิ้ว เทียบกับรุ่นอื่นๆ ที่มีขนาด 18 นิ้วทั้งหมด มาพร้อมกับยางขนาด 235/55 R19 ของ Goodyear Assurance Maxguard SUV ที่เน้นการยึดเกาะถนนทั้งบนพื้นแห้งและพื้นเปียก

ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ก็มีให้แบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าโปรเจกเตอร์ LED เปิด-ปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED, ไฟตัดหมอกหน้า LED, กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า, ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ, หลังคาซันรูฟ 2 บาน (ครอบคลุมเบาะแถว 1 และ 2), แร็กหลังคา, กระจกหน้าต่างเลื่อนอัตโนมัติ 4 บาน พร้อมป้องกันหนีบ รวมถึงประตูท้ายไฟฟ้า Smart Tailgate และประตูสไลด์ไฟฟ้า Smart Power Sliding Door ทั้ง 2 ฝั่ง

ประตูด้านหลังทั้ง 3 บาน (ประตูสไลด์ซ้าย-ขวา และประตูท้าย) สามารถควบคุมได้จากทั้งรีโมต และปุ่มควบคุมบริเวณฝั่งผู้ขับขี่ภายในห้องโดยสาร

เบาะนั่งแถว 2 เทียบชั้น Business Class

จุดขายสำคัญของ Kia Carnival SXL Luxury คือเบาะนั่งที่ถูกจัดวางแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง (แบบ 2-2-3) ซึ่งลงตัวกว่ารุ่น 11 ที่นั่ง (แบบ 2-3-3-3) อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเรื่องความกว้างขวางและพื้นที่ใช้สอย สามารถนั่งเต็มคัน 7 คนได้แบบไม่อึดอัด เหมาะทั้งการเป็นรถผู้บริหารที่มีคนขับรถให้ หรือจะเป็นรถสำหรับคุณแม่บ้านรับ-ส่งลูกไปเรียนก็ได้เช่นกัน

ไฮไลต์สำคัญของรุ่น SXL Luxury อยู่ที่เบาะนั่งแถว 2 ที่เรียกว่า Premium Relaxation Seat ซึ่งมีลักษณะเป็นเบาะนั่งแยกซ้ายและขวา หุ้มด้วยวัสดุหนังแบบมีรูระบายอากาศ พร้อมที่วางแขนส่วนตัว ทั้งยังมีเบาะรองขาที่สามารถยกขึ้นด้วยไฟฟ้าเพิ่มความสบายขึ้นไปอีก เสริมด้วยระบบระบายอากาศและอุ่นเบาะมาให้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับอากาศร้อนๆ ของเมืองไทย

พนักพิงเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถปรับเอนด้วยไฟฟ้า ซึ่งปรับเอนได้จนเกือบราบ จะนั่งหรือจะนอนก็สบาย ตัวเบาะมีขนาดใหญ่ บุด้วยฟองน้ำที่มีความหนานุ่ม นั่งสบาย มาพร้อมโหมด Zero gravity (อันนี้ผู้เขียนเรียกเอง) ผ่านการกดปุ่มที่ด้านข้างตัวเบาะ ซึ่งจะเอนเบาะทั้งตัวไปทางด้านหลังประมาณ 30 องศา ช่วยกระจายน้ำหนักของร่างกายเฉลี่ยเท่าๆ กัน ทำให้รู้สึกผ่อนคลายเป็นพิเศษ

แต่เบาะนั่งของรุ่น SXL Luxury ก็ยังมีความพึลึกนิดๆ เพราะการเลื่อนเบาะขึ้นหน้าและถอยหลังจะต้องปรับด้วยมือเท่านั้น ไม่มีระบบไฟฟ้ามาให้ และถ้าจะเอนเบาะแบบ Zero gravity แล้วล่ะก็ จำเป็นจะต้องเลื่อนเบาะไปทางด้านข้างเข้าหากึ่งกลางของตัวรถ (นึกภาพง่ายๆ คือ ต้องเลื่อนเบาะทั้ง 2 ข้างมาชิดกัน) จึงจะสามารถปรับเอนพนักพิงได้ อันเป็นผลจากการออกแบบเพื่อหลบซุ้มล้อหลังนั่นเอง

แต่โดยรวมแล้วเบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Premium Relaxation Seat ของ Carnival SXL Luxury คือเบาะนั่งที่สบายที่สุดเท่าที่คุณจะหาได้จากรถเอ็มพีวีในระดับราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท อันนี้ยืนยัน!

ส่วนเบาะนั่งคู่หน้าก็นั่งสบายไม่แพ้กัน โดยสามารถปรับระดับด้วยไฟฟ้าแบบเต็มตัว พร้อมระบบระบายอากาศและอุ่นเบาะเหมือนกันทั้งคู่ เพิ่มเติมด้วยเมมโมรี่ฝั่งคนขับ ตัวเบาะนั่งมีขนาดใหญ่ รองรับสรีระได้อย่างเต็มที่ ความนุ่มของฟองน้ำก็ไม่แพ้กับเบาะแถว 2 เรียกว่าเป็นเบาะที่รองรับการขับขี่ทางไกลได้อย่างสบาย ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายได้อย่างดีเยี่ยม

อุปกรณ์มาตรฐานแน่นอย่างที่คาดหวัง

ห้องโดยสารของรุ่น SXL Luxury ถูกตกแต่งด้วยสีน้ำตาล Saddle Brown ติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามารถปรับมือ 4 ทิศทาง พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ Paddle Shift ส่วนหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่เป็นแบบ Digital Supervision LCD TFT ขนาด 12.3 นิ้ว เชื่อมเข้ากับจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัส LCD TFT ขนาด 12.3 นิ้ว อีก 1 จอ

บริเวณใต้จอสัมผัสยังมีปุ่ม Shortcut ที่ช่วยให้เข้าถึงเมนูต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวมถึงปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงที่ถูกกัดลายเพิ่มความหรูหรา ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานระหว่างขับขี่ ไม่ต้องพึ่งพาการสัมผัสบนหน้าจอเพียงอย่างเดียว

ในรุ่น SXL Luxury สามารถเชื่อมต่อเข้ากับ Apple CarPlay และ Android Auto ผ่านสาย USB (น่าเสียดายที่ไม่มีระบบ Wireless มาให้)​ หรือจะเชื่อมต่อผ่าน Bluetooh เพื่อการใช้งานโทรศัพท์และฟังเพลง มาพร้อมช่องจ่ายไฟ USB รวม 6 ตำแหน่ง ระบบชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย (Wireless Charger) และลำโพง BOSE รวม 12 ตำแหน่งรอบห้องโดยสาร

หน้าจอสัมผัสยังสามารถแสดงภาพจากกล้องรอบคัน Surround View Monitor ที่สามารถปรับมุมมองได้หลากหลาย ทำงานควบคู่ไปกับเซ็นเซอร์กะระยะ Parking Distance Warning ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเพื่อเสริมความปลอดภัย

ระบบปรับอากาศเป็นแบบอัตโนมัติ Dual-zone ควบคุมอุณหภูมิแยกอิสระซ้ายและขวา พร้อมทั้งมีปุ่ม "Rear Climate" สำหรับควบคุมระบบปรับอากาศตอนหลัง ที่สามารถปรับได้ทั้งแรงลมและอุณหภูมิ โดยจะมีสวิตช์ควบคุมทางบริเวณเหนือศีรษะแถว 2 อีกหนึ่งชุด อีกทั้งกระจกหน้าต่างด้านหลังทั้ง 4 บาน ยังมีม่านกรองแสงที่สามารถดึงขึ้นแล้วเกี่ยวกับตะขอเพื่อลดแสงจากภายนอกได้

บริเวณคอนโซลกลางระหว่างเบาะนั่งคู่หน้ามาพร้อมกับปุ่มเกียร์แบบ Dial Type Shift by Wire สามารถใช้งานได้ไม่ยาก ใกล้กันเป็นปุ่มเบรกมือไฟฟ้า พร้อมระบบ Auto Hold และปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ Drive Mode

ระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง (Advanced Driver Assistance Systems – ADAS) ของรุ่น SXL Luxury ประกอบด้วย 7 ฟังก์ชัน ได้แก่

• Smart Cruise Control w. Stop & Go
• Blind Spot Collision Warning
• Blind Spot Collision Avoidance Assist
• Rear Cross Traffic Collision Avoidance
• Lane Following Assist และ Lane Keeping Assist
• Forward Collision Avoidance Assist
• Safe Exit Assist

ขณะที่ความปลอดภัยพื้นฐานอื่นๆ ได้แก่ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESC, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC, ระบบเบรก ABS/EBD, ระบบเสริมแรงเบรก BAS, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ถุงลมนิรภัยด้านข้างคู่หน้า, ม่านถุงลมนิรภัย, ถุงลมนิรภัยหัวเข่าผู้ขับขี่, จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX บนเบาะแถว 2 และ 3 เป็นต้น

เครื่องยนต์ดีเซลทั้งแรงและประหยัด

Kia Carnival ทุกรุ่นย่อยติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล Smartstream แบบ 4 สูบ ความจุ 2.2 ลิตร TCI-VGT กำลังสูงสุด 202 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร ที่ 1,750 - 2,750 รอบต่อนาที ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมโหมด Manual รองรับน้ำมันดีเซล B7 ได้

อัตราสิ้นเปลืองถูกเคลมเอาไว้ที่ 14.9 กม./ลิตร ตามที่ปรากฏบน ECO Sticker ซึ่งถือว่าค่อนข้างประหยัดทีเดียวสำหรับเอ็มพีวีที่มีน้ำหนักกว่า 2 ตัน แถมน้ำมันดีเซลก็ยังถูกกว่าเบนซินอยู่ลิตรละหลายบาท แล้วก็ไม่ต้องมีระบบไฮบริดให้ว้าวุ่นในระยะยาวอีกด้วย

การขับขี่นุ่มนวล นั่งสบาย เหมาะสำหรับเดินทางไกล

ด้านการขับขี่ของ Kia Carnival SXL Luxury ถือว่าทำได้ดี ช่วงล่างถูกเซ็ตมาเน้นความนุ่มนวล นั่งสบาย แม้ว่าล้อจะมีขนาดใหญ่ถึง 19 นิ้วก็ตาม แต่ต้องยอมรับว่าด้วยตัวถังที่มีขนาดใหญ่และยาว การขับขี่ในเมืองอาจไม่คล่องตัวนัก ยิ่งถ้าขึ้นมาขับในช่วงแรกๆ แล้วล่ะก็ การกะระยะเลี้ยวตามที่จอดรถห้างสรรพสินค้าอาจต้องใช้ความระมัดระวังเสียหน่อย มิเช่นนั้นอาจได้รอยเฉี่ยวกลับบ้านมาด้วยได้

แม้ว่าตัวถังจะมีลักษณะเป็นรถเอ็มพีวี แต่ลักษณะท่าทางการขับขี่แทบไม่แตกต่างกับการขับรถเอสยูวีทั่วไป ทั้งด้านความสูงของตัวเบาะนั่ง และตำแหน่งของผู้ขับขี่ จึงเป็นรถที่สามารถขับได้ไม่ยากนัก แม้ว่าจะเป็นคุณผู้หญิงที่เพิ่งหันมาใช้รถประเภทนี้ก็ตาม เหมาะสำหรับการเป็นรถคันที่ 2 ติดบ้านไว้ นอกเหนือจากรถที่ใช้งานประจำ

ด้านพละกำลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ที่มีกำลังสูงสุด 202 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน-เมตร สามารถตอบสนองได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ อัตราเร่งมีความลื่นไหลดี โดยเฉพาะเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่เปลี่ยนอัตราทดได้อย่างนุ่มนวลจนแทบไม่รู้สึก จึงเป็นรถที่ตอบสนองได้ดีที่ช่วงความเร็วต่ำในเมือง และความเร็วสูงนอกเมือง แม้แต่การเร่งแซงก็ทำได้ฉับไวตามประสารถดีเซล ไม่ต้องเค้นรอบให้เหนื่อยเหมือนกับเครื่องยนต์เบนซิน ถือเป็นขุมพลังที่เหมาะกับตัวรถเป็นอย่างดี

เกียร์อัตโนมัติที่มีอัตราทด 8 สปีด ประกอบกับการทำงานของเครื่องยนต์ดีเซล ส่งผลให้การขับขี่ทางไกลมีรอบเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างต่ำ โดยที่ความเร็ว 100 กม./ชม. รอบเครื่องยนต์จะอยู่เพียงราว 1,600 รอบต่อนาทีเท่านั้น ทำให้แรงสะเทือนและเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์อยู่ในระดับต่ำตามไปด้วย

ส่วนการทำงานของระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ Smart Cruise Control with Stop & Go ก็ถือว่าทำได้ดีและไว้ใจได้ โดยจังหวะที่ระบบขับตามคันหน้าอยู่นั้น หากมีรถแทรกเข้ามากึ่งกลาง ระบบจะค่อยๆ ลดความเร็วอย่างนุ่มนวลเพื่อเพิ่มระยะห่าง รวมถึงจังหวะที่มีการจราจรหนาแน่น ระบบจะเปลี่ยนจากการตรวจจับเส้นแบ่งถนน ไปเป็นการจับตำแหน่งรถคันหน้าและเคลื่อนตัวตาม หากรถมีการหยุดนิ่งเกินกว่า 3 วินาที ระบบจะหยุดการทำงานชั่วครู่ และสามารถ Resume ระบบได้ทั้งการกดปุ่มบนพวงมาลัยหรือแตะคันเร่งเบาๆ

ลงตัวด้วยห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง เหมาะสำหรับมีติดบ้านไว้สักคัน

กล่าวโดยสรุปแล้ว Kia Carnival SXL Luxury ถือเป็นรถที่ครอบครัวควรมีติดบ้านไว้อย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่มีคุณหนู หรือมีผู้สูงอายุก็ตาม ด้วยการจัดวางแบบ 7 ที่นั่ง ทำให้พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างลงตัว ทุกตำแหน่งสามารถนั่งโดยสารได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งยังเหลือพื้นที่เก็บสัมภาระแม้ว่าจะนั่งเต็มคันก็ตามที

เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร มีพละกำลังเหลือเฟือ รองรับการขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมืองได้สบาย ช่วงล่างเซ็ตมาเน้นความนุ่มนวล นุ่มเสียจนแทบอยากจะสลับไปเป็นผู้โดยสารเสียเอง เอาเป็นว่าหากงบประมาณไม่เกี่ยง พร้อมที่จะควักกระเป๋าจ่ายในราคาเฉียด 3 ล้านบาท แลกกับรถสำหรับครอบครัวที่คุณรักแล้วล่ะก็ Kia Carnival SXL Luxury ถือว่าตอบโจทย์แบบไม่ต้องคิดเลยทีเดียวครับ

ขอขอบคุณฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท เกีย เซลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เอื้อเฟื้อรถยนต์ทดสอบในครั้งนี้