Nissan Qashqai 2025 ไมเนอร์เชนจ์รุ่นเล็กรองจาก X-Trail เปิดตัวที่ยุโรป
Nissan Qashqai 2025 โฉมไมเนอร์เชนจ์ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ยุโรป ปรับดีไซน์ภายนอกโฉบเฉี่ยวรอบคัน มีให้เลือกทั้งขุมพลัง Mild-hybrid และ e-POWER เช่นเคย
Nissan Qashqai ถูกพัฒนาให้เป็นคอมแพ็กเอสยูวีขนาดรองลงมาจากรุ่น X-Trail โดยพัฒนาต่อเนื่องมาเป็นเจเนอเรชันที่ 3 แล้ว โดยการปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ครั้งนี้มีการเปลี่ยนดีไซน์เน้นความโฉบเฉี่ยวและทันสมัยมากยิ่งขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ด้านหน้าที่ถูกออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด มาพร้อมชุดไฟหน้ารูปตัว X ที่ออกแบบให้กลมกลืนไปกับกระจังหน้า มีกลิ่นอายของ Ariya ที่มีความสปอร์ตมากขึ้น
ขณะที่ด้านท้ายมาพร้อมไฟท้าย LED ดีไซน์แบบบูมเมอแรงอันเป็นเอกลักษณ์ที่ถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบการส่องสว่างใหม่ ตกแต่งส่วนบนของตัวถังด้วยสีดำไปจนถึงหลังคา (เป็นออปชันเสริม) พร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้วเป็นมาตรฐาน ส่วนเกรดบนถูกเพิ่มขนาดเป็น 19 นิ้ว หรือ 20 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งด้วย Alcantara (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) ช่วยเพิ่มความรู้สึกหรูหราและสปอร์ตมากยิ่งขึ้น เสริมด้วยรายละเอียดการตกแต่งแผงคอนโซลกลางที่นิสสันระบุว่าสะท้อนถึงงานฝีมือตามฉบับญี่ปุ่น และยังเพิ่มเติมไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร (Ambient Lighting) ทั้งด้านหน้าและด้านหลังที่สามารถปรับเปลี่ยนสีตามความต้องการของผู้โดยสารได้
Nissan Qashqai 2025 ถือเป็นนิสสันรุ่นแรกในยุโรปที่มีการติดตั้งระบบ Google built-in เข้ากับระบบ Nissan Connect ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Google Maps ซึ่งสามารถล็อกอิน Google Account เพื่อเรียกดูและนำทางไปยังจุดหมายที่บันทึกไว้ อีกทั้งรองรับคำสั่งเสียง Google Assistant ที่เริ่มต้นพูดด้วยคำว่า "Hey Google" เพื่อตั้งค่าระบบปรับอากาศ ระบบอุ่นเบาะ ระบบนำทาง และอื่นๆ ได้มากมาย
ระบบ Google built-in ยังสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ เพิ่มเติมผ่าน Google Play พร้อมทั้งมีระบบ Nissan Connected Services เพื่อสั่งงานตัวรถระยะไกลผ่านสมาร์ทโฟน เช่น การล็อก-ปลดล็อกประตู, เปิด-ปิดกระจกหน้าต่าง และเตือนเมื่อมีผู้บุกรุก เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงระบบกล้องมองภาพรอบคัน Around View Monitor (AVM) เพื่อรองรับการทำงานท่ามกลางสภาพแสงทุกรูปแบบ พร้อมฟังก์ชัน 3D ที่สามารถแสดงภาพตัวรถภายนอกได้ถึง 8 มุมมอง รวมถึงฟีเจอร์ "Invisible hood view" ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นจุดอับสายตาบริเวณฝากระโปรงด้านหน้าได้อีกด้วย
Nissan Qashqai 2025 โฉมไมเนอร์เชนจ์ถูกปรับปรุงการทำงานของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น ระบบช่วยเบรกอัตโนมัติ Autonomous Emergency Braking ที่สามารถตรวจจับวัตถุภายนอกได้อย่างละเอียดแม่นยำและให้การตอบสนองรวดเร็วกว่าเดิม หรือระบบ Intelligent Speed Assistance ที่สามารถปรับความเร็วของรถโดยอัตโนมัติตามป้ายจำกัดความเร็วและข้อมูลจากสัญญาณจีพีเอส เป็นต้น
ด้านขุมพลังยังคงมีให้เลือกทั้งเบนซิน Mild-hybrid ขนาด 1.3 ลิตร และ e-POWER ที่อาศัยการทำงานของเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 3 สูบ เพื่อปั่นไฟส่งไปยังมอเตอร์กำลังสูงสุด 140 kW (190 แรงม้า) ควบคู่ไปกับแบตเตอรี่ขนาดความจุ 1.8 kWh
นิสสันยังเปิดเผยด้วยว่านับตั้งแต่เริ่มติดตั้งขุมพลัง e-POWER ลงใน Qashqai และ X-Trail ที่ยุโรปเมื่อเดือนกันยายน 2022 ที่ผ่านมา ปัจจุบันสามารถทำยอดจำหน่ายสะสมเฉพาะรุ่น e-POWER ไปได้มากกว่า 100,000 คันแล้ว แสดงถึงการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวยุโรป
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.