"อีซูซุ" มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนพร้อมเผยโฉม "D-Max EV" ก่อนผลิตจริงปี 2568
"อีซูซุ" เดินหน้ามุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนด้วยแนวคิด "โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Multi-pathways to Carbon Neutrality) ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ การพัฒนาพลังงานสะอาดรูปแบบใหม่ รวมถึงระบบการจัดการ และกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ของอีซูซุ โดยคำนึงถึงความต้องการที่แตกต่างกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้รถ
มร. ทาคาชิ โอไดระ กรรมการผู้จัดการ และรองประธานบริหารรับผิดชอบด้านวิศวกรรม และกลยุทธ์ความเป็นกลางทางคาร์บอน บริษัท อีซูซุมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า อีซูซุได้ประกาศเป้าหมายว่าจะ “สร้างเสริมการขับเคลื่อนอย่างสร้างสรรค์ของโลก” (Creating the Movement of the Earth) เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
โดยตระหนักว่าอุตสาหกรรมยานยนต์โลกอยู่ในยุคการเปลี่ยนผ่านในรอบศตวรรษ รถเพื่อการพาณิชย์ก็ต้องเร่งพัฒนาด้วยเช่นกัน เรากำลังเผชิญกับความท้าทายทางสังคมที่ต้องเอาชนะ และเพิ่มการขับเคลื่อนอย่างสร้างสรรค์ สำหรับผู้คนและสินค้าทั้งหมดในโลก อาทิ ความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องบรรลุเป้าหมายสังคมความเป็นกลางทางคาร์บอน ความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรเป็นศูนย์ การจัดการปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต
สำหรับนโยบายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของอีซูซุในประเทศไทย มร. ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ชี้แจงว่า ปัจจุบันประเทศไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่สำคัญของโลก มีการผลิตรถยนต์ต่อปีมากถึง 1.8 - 1.9 ล้านคัน สูงที่สุดในอาเซียน และเป็นอันดับ 10 ของโลก ซึ่งเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ และการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเป็นรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (Internal Combustion Engines : ICE) เกือบทั้งหมด ในปี 2566 มีมูลค่าการส่งออกสูงถึง 9.73 แสนล้านบาท ซึ่งรถปิกอัพและอนุพันธ์ในฐานะ “โปรดักส์แชมเปี้ยน” เป็นรถที่ส่งออกมากที่สุดถึง 786,383 คัน คิดเป็น 70% จากรถทุกประเภท
นอกจากนี้ อีซูซุจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 1 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 240,000 ล้านบาท ในด้านการวิจัยและพัฒนาภายในปีงบประมาณ 2573 เพื่อดำเนินการเรื่องการปฏิรูปทางดิจิทัลเกี่ยวกับความเป็นการทางคาร์บอนและโลจิสติกส์ (CN and logistics DX) อีกทั้งการสร้างศูนย์พัฒนาและทดสอบยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้ชื่อ "The EARTH Lab" ภายในปี 2569
สำหรับ “โซลูชั่นส์อันหลากหลายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน” (Multi-pathways to Carbon Neutrality) ไม่ได้มีเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ หรือ BEV เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงรถไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน (FCEV), การใช้น้ำมันไบโอดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่จากพืชใช้แล้ว (HVO - Hydrotreated Vegetable Oil) และ น้ำมันเชื้อเพลิงสังเคราะห์ (e-Fuel) กับเครื่องยนต์สันดาปภายใน
ขณะเดียวกัน อีซูซุ ยังได้เผยโฉมกระบะไฟฟ้าต้นแบบ Isuzu D-Max EV Concept เป็นครั้งแรก ขับเคลื่อนด้วยชุดมอเตอร์คู่ eAxle ทำงานร่วมกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ให้กำลังสูงสุด 130 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 325 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางขับขี่ประมาณ 300 กม. หรือมากกว่า โดยมีแผนเดินสายการผลิตจากโรงงานในประเทศไทยปี 2568 เพื่อส่งออกไปยังนอร์เวย์เป็นประเทศแรก จากนั้นจึงตามด้วยสหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, ไทย และภูมิภาคอื่นๆ ต่อไป
อีกรุ่นเป็น Isuzu D-Max Hi-Lander MHEV 4 ประตู ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์ดีเซล 1.9 Ddi Blue Power กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก และแบตเตอรี่ 48 โวลต์ เพื่อลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ในช่วงออกตัว รวมถึงช่วยลดการสั่นสะเทือนในจังหวะสตาร์ทเครื่องยนต์และช่วยลด CO2 โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการทำตลาด
Isuzu Elf EV พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “Isuzu Modular Architecture and Component Standard : I-MACS” สำหรับรถบรรทุกขนาดกลางและขนาดใหญ่ในรูปแบบต่างๆ พร้อมการออกแบบ “Center Drive System EV” เพื่อความสมดุลในการกระจายน้ำหนักและวงเลี้ยวที่เหมาะสม
ขณะเดียวกันอีซูซุอยู่ระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Battery Swapping System) ในระยะเวลาอันสั้นเพื่อลดระยะเวลาในการจอดเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ อีกทั้งยังสามารถเลือกแบตเตอรี่ได้ตั้งแต่จำนวน 2 - 5 ก้อน เพื่อให้เหมาะกับระยะทางการขนส่ง
Isuzu Elf FCEV รถบรรทุกไฟฟ้าขนาดกลางเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนจากการพัฒนาร่วมกันระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจ ภายใต้โครงการ Commercial Japan Partnership Technologies Corporation (CJPT) เหมาะกับการใช้งานบรรทุกหนัก สามารถเติมเชื้อเพลิงได้รวดเร็ว และไม่ก่อให้เกิดมลพิษ เป็นการเพิ่มตัวเลือกรถบรรทุกในตลาด โดยในญี่ปุ่นได้มีการวิ่งทดสอบตามการใช้งานจริงจำนวน 90 คัน ที่โตเกียว ฟุกุชิมะ และฟุกุโอกะ ส่วนประเทศไทยได้มีการวิ่งทดสอบแล้วจำนวน 4 คัน เมื่อปลายปี 2566 ที่ผ่านมา
อีซูซุยังมีกิจกรรมเพื่อสนับสนุนความเป็นกลางทางคาร์บอนอื่นๆ เช่น การลงนามบันทึกข้อตกลงการเข้าร่วมมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากับกรมสรรพสามิตเพื่อใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถไฟฟ้าอีซูซุ การลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาโครงการทดสอบรถยนต์กับพลังงานสะอาดเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ระหว่าง ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ มิตซูบิชิคอร์ปอเรชั่น (ประเทศญี่ปุ่น) กับ ปตท. เพื่อศึกษาวิจัยน้ำมัน e-fuel และน้ำมัน HVO เป็นต้น
ตลอดระยะเวลา 67 ปีของการดำเนินธุรกิจอีซูซุในประเทศไทย อีซูซุได้อยู่เคียงคู่กับสังคมไทยในฐานะนิติบุคคลที่ดีเสมอมาภายใต้ปรัชญาการดำเนินธุรกิจ “วิถีอีซูซุ” (Isuzu Spirit) ผู้ใช้สุขใจ เพิ่มพูนรายได้ ช่วยให้สังคมพัฒนา” ผ่านนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์ และกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ และเราขอให้คำมั่นว่า เราจะยังคงยืนหยัดร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยในการผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้ามุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนตามที่ได้ตั้งไว้
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.