เพิ่งจะรู้! ลายเส้นบนกระจกหลังมีไว้ทำอะไร

     เคยสงสัยไหมว่าทำไมบริเวณกระจกบานหลังของรถยนต์ทุกคันถึงมีลายเส้นอะไรเต็มไปหมด ซึ่งอันที่จริงแล้วลายเส้นที่ว่านี้มีประโยชน์มากกว่าที่หลายคนคิด แถมยังมีข้อควรระวังที่หลายคนคาดไม่ถึงอีกด้วย!

ลายเส้นบนกระจกหลังคืออะไร?

     ลายเส้นบริเวณกระจกหลังแท้จริงแล้วก็คือ "ลวดไล่ฝ้า" ใช้สำหรับกรณีวันที่มีฝนตกหรืออากาศเย็น อาจเกิดฝ้าบริเวณกระจกหลัง ก็สามารถกดปุ่มไล่ฝ้าที่อยู่กับสวิตช์ควบคุมระบบปรับอากาศเพื่อให้ฝ้าจางลงและหายไปในที่สุด

     ลวดไล่ฝ้ามีลักษณะเป็นเส้นลวดบางๆ ทำมาจากวัสดุนิกเกิลหรือทองแดง ฝังอยู่ติดกับบานกระจกมาตั้งแต่โรงงาน โดยหลักการทำงานก็ง่ายแสนง่าย คือ เมื่อกดปุ่มไล่ฝ้าหลัง จะเป็นการปล่อยกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ไหลผ่านแผงลวดเพื่อสร้างความร้อน ทำให้ฝ้าจางลงและหายไปในที่สุด

     อย่างไรก็ดี การเปิดใช้งานระบบไล่ฝ้ายังมีข้อควรระมัดระวัง คือ เมื่อฝ้าที่เกาะอยู่บนกระจกเลือนหายไปทั้งหมดแล้ว ควรปิดการทำงานของระบบไล่ฝ้าทันที มิเช่นนั้นอาจทำให้เกิดความร้อนสูงจนกระจกแตกได้ในที่สุด แม้ว่าปัจจุบันรถยนต์จะมีระบบตัดการทำงานของไล่ฝ้าหลังโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดใช้งานนานประมาณ 15-20 นาทีก็ตาม

เส้นบนกระจกหลังอาจไม่ได้มีแค่ลวดไล่ฝ้าเพียงอย่างเดียว

     รถยนต์บางรุ่นนอกเหนือจากลวดไล่ฝ้าแล้ว ยังเป็นตำแหน่งของเสาอากาศวิทยุอีกด้วย โดยสังเกตว่าหากรถรุ่นนั้นไม่มีเสาอากาศแบบก้านปกติหรือแบบครีบฉลาม ทางผู้ผลิตก็มักจะฝังเสาอากาศเอาไว้กับเนื้อกระจกเพื่อความสวยงามนั่นเอง

คิดจะเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงต้องระวัง!

     หากรถผ่านการใช้งานมาเป็นระยะหนึ่งแล้วคิดอยากจะเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตามแล้วล่ะก็ ควรระวังการลอกฟิล์มกระจกบานหลังให้ดี เพราะมีโอกาสสูงมากที่ลวดไล่ฝ้า (รวมถึงเสาอากาศวิทยุ) จะหลุดติดออกมากับเนื้อฟิล์มเดิม ส่งผลให้ระบบไล่ฝ้าเสียหาย อาจไล่ฝ้าได้เพียงบางเส้นหรือใช้งานไม่ได้เลย และหากเสาอากาศวิทยุหลุดติดออกมาด้วยก็จะทำให้การรับสัญญาณไม่ชัดเจน

     ดังนั้น ถ้าเป็นรถที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 5-7 ปีขึ้นไป รวมถึงรถที่ติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่มีความหนาของเนื้อฟิล์มเป็นพิเศษ ควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนการเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงด้วย เพราะถ้าลวดไล่ฝ้าหรือเสาอากาศวิทยุหลุดติดออกมาระหว่างการลอกฟิล์มเก่าแล้วล่ะก็ วิธีเดียวที่จะแก้ไขก็คือการเปลี่ยนกระจกทั้งบาน ไม่สามารถซ่อมแซมเฉพาะจุดได้นั่นเอง

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.