เพิ่งจะรู้! สาเหตุของรถติด ทั้งๆ ที่ไม่มีไฟแดงเกิดจากสิ่งนี้

     เคยเจอกันไหมครับ เวลาเราขับรถอยู่บนถนนแล้วต้องเจอกับ “รถติด” ชนิดที่ต้องเร่ง ๆ เบรก ๆ จนน่ารำคาญ แต่เมื่อขับผ่านจุดนั้นไปแล้ว เราจะต้องอุทานขึ้นมาว่า “ติดอะไรวะ ไม่เห็นมีอะไรเลย!” ซึ่งส่วนใหญ่รถที่ติดในลักษณะนี้ มักเกิดขึ้นบนทางหลวง ทางด่วน หรือทางที่เป็นทางตรงยาว ไม่มีไฟจราจร

     สัปดาห์ที่แล้ว ผมเพิ่งจะนำประเด็นพฤติกรรมขับจี้ท้ายรถชาวบ้านบนถนนหลวงมาพูดคุยกัน ซึ่งนั่นแหละครับมันคือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้รถติดบนทางหลวงด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันที่การจราจรหนาแน่น รถเยอะเต็มท้องถนน “พฤติกรรม” ในการขับรถนำมาซึ่งปัญหาจราจรที่เราอาจไม่เห็นเป็นรูปธรรม หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Phantom traffic jam

     ก่อนอื่นคงต้องทำความเข้าใจก่อนนะครับ จากสถิติทั่วโลก สาเหตุของรถติดที่เราเห็นได้ด้วยตา 40 เปอร์เซ็นต์มาจากปัญหาถนนที่เป็นคอขวด รองลงมา 25 เปอร์เซ็นต์คืออุบัติเหตุจราจร 15 เปอร์เซ็นต์มาจากสภาพอากาศ 10 เปอร์เซ็นต์มาจากการซ่อมถนน 5 เปอร์เซ็นต์มาจากสัญญาณไฟมีปัญหาหรือเปิดไฟแดงนานเกินไป และ 5 เปอร์เซ็นต์มาจากสาเหตุอื่น ๆ

     นั่นเป็นสาเหตุเราเห็นกันอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้นบนถนนครับ แต่ Phantom Traffic Jam หรือบางคนเรียก Ghost Jam ที่มักจะเกิดขึ้นบนทางไฮเวย์ทั้งทางด่วน เส้นวงแหวน และมอเตอร์เวย์ มันคือรถติดในช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วก็ผ่านไป สร้างความรำคาญให้กับผู้ขับขี่ เพราะการขับรถออกต่างจังหวัด ทุกคนคาดหวังว่าจะได้เจอทางที่โล่ง แต่กลับต้องชะลอรถจนติดขัดแบบลูกโซ่ไปทั้งเส้นทาง

     แม้เราจะไม่เห็นด้วยตาว่ามันติดเพราะอะไร แต่ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนต้องมีสาเหตุทั้งสิ้นครับ แน่นอนว่าปริมาณรถที่หนาแน่นคือปัจจัยลำดับต้น ๆ แต่ลองนึกดูครับ หากต่อให้รถเยอะแค่ไหน ในการขับทางตรงยาว ๆ หากมีการทำความเร็วที่คงที่ มีการเว้นระยะห่างจากคันหน้าให้พอเหมาะ คุณแทบจะไม่ต้องชะลอรถหรือแตะเบรกให้เสียอารมณ์เลย เพราะรถมันก็จะไหลตาม ๆ กันไป เพียงแต่ว่าอาจทำความเร็วได้ไม่เต็มที่ก็เท่านั้นครับ

     แต่ในสถานการณ์เดียวกัน เมื่อรถวิ่งตาม ๆ กันมาบนเส้นทาง แล้วเกิดมีคันหนึ่งเบรกกะทันหัน มันก็จะทำให้คันหลังต้องเบรกตาม ๆ กันไปด้วย หรือบางทีต้องเบรกถึงหยุดนิ่งก็มี อย่างนิสัยการขับจี้ก็เป็นเหตุทำให้รถติดได้ เพราะหากรถที่เขาขับกันอยู่เว้นระยะห่างกันพอดีแล้ว ดันมีพวกขับจี้ เข้ามาแทรกกลาง หรือมีรถเปลี่ยนเลนกะทันกัน ก็ทำให้ต้องเบรกตาม ๆ กันไปเช่นกัน

     นอกจากนี้ยังมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการขับขี่ของรถคันหน้า ที่อยู่ ๆ ขับช้า ขับใจลอย หรือแบ่งสมาธิไปทำอย่างอื่น อย่างประสบการณ์ที่ผมเห็นบ่อยบนทางด่วนเส้นเอกมัย-รามอินทรา คือ ขับช้าเพราะมัวแต่ดูโทรศัพท์ นั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้รถติดเช่นกัน ฉะนั้น บอกได้เลยว่า Phantom Traffic Jam มาจากพฤติกรรมการขับรถของมนุษย์ล้วน ๆ ครับ

     ปัญหานี้ในต่างประเทศเขาก็มีการวิเคราะห์หาทางแก้กันอยู่เหมือนกันครับ เพราะเราไม่มีทางที่จะไปควบคุมนิสัยการขับของรถทุกคันให้เหมือนกันได้ หรือกระทั่งหากผู้ขับขี่ไม่ได้ทำอะไรผิด รถที่ขับ ๆ อยู่ก็อาจจะมีปัญหาขึ้นมากะทันหันก็ได้เหมือนกัน ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีที่เขาทดสอบกันมาแล้วจากกลุ่มตัวอย่างว่าสามารถแก้ปัญหานี้ได้ก็คือ Adaptive Cruise Control

     โดยเจ้าระบบ Adaptive Cruise Control หรือ ACC ที่ว่านี้ มันคือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ โดยใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะจากรถคันหน้า และควบคุมความเร็วให้ขับตามในระยะที่เหมาะสมและปลอดภัย อาทิ คันหน้าขับ 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ระบบก็จะคุมให้รถเราขับในความเร็วเท่า ๆ กัน และหากคันหน้าจะเร็วขึ้นหรือช้าลง ระบบก็จะแปลผันตามความเร็วของคันหน้า

     ในการทดสอบกับกลุ่มตัวอย่าง เห็นผลชัดเจนครับว่า Adaptive Cruise Control ช่วยลดปัญหารถติดแบบ Phantom Traffic Jam แถมยังปลอดภัยกว่าการใช้คนขับเสียอีก อย่างไรก็ดี นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากการทดสอบ แต่ในชีวิตจริง จะมีรถสักกี่คันที่มีระบบนี้ ฉะนั้น พฤติกรรมในการขับก็ยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอยู่ดี

     สุดท้ายขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพกับนิทานอีสป “กระต่ายกับเต่า” ก็แล้วกันครับ ว่าจริง ๆ แล้วรถมันจะไม่ติดหรือต้องชะลอตัวเลย หากทุกคันขับไปตามความเร็วที่ควรจะทำได้ แม้ความเร็วนั้นมันอาจจะช้าหน่อย แต่ก็ยังดีกว่า เร่ง ๆ หยุด ๆ จนเป็นเหตุทำให้รถติด ที่สำคัญจะทำให้ถึงจุดหมายช้ากว่าด้วยซ้ำไปครับ

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.