ขนส่งฯ เผยยอดจดทะเบียน EV ในไทย ปี 2566 ทะลุ 70,000 คัน เพิ่มขึ้นเกือบ 400%

กรมการขนส่งทางบกเผยยอดจดทะเบียนรถยนต์พลังงานไฟฟ้าประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กว่า 70,000 คัน เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณก่อนหน้าถึง 399.05%

ที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบกได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล กระทรวงคมนาคม ในการสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV - Electric Vehicle) เพื่อลดการปล่อยมลพิษและฝุ่นละออง PM 2.5 ผ่านมาตรการลดภาษีประจำปีสำหรับรถ EV ที่เป็นรถใหม่จากโรงงานและนำมาจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ซึ่งได้ผลตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี

สถิติการจดทะเบียนรถพลังงานไฟฟ้าตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ทั่วประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2565 - 30 ก.ย. 2566) พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 73,341 คัน เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 14,696 คัน (เพิ่มขึ้น 58,645 คัน) คิดเป็นอัตราการเติบโต 399.05%

ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกยังคงเดินหน้ามาตรการลดภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าที่เป็นรถใหม่สำเร็จรูปจากโรงงาน และนำมาจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ไปจนถึงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 โดยให้ลดภาษีลงร้อยละ 80 จากอัตราที่กำหนดตามมาตรา 11 ของอัตราภาษีประจำปีท้ายกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่รถนั้นจดทะเบียนเป็นระยะเวลา 1 ปี ดังนี้

• รถเก๋งที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีน้ำหนัก 1,800 กิโลกรัม ปกติจัดเก็บภาษีประจำปี 1,600 บาท ลดภาษีประจำปีแล้ว คงเหลือ 320 บาท
• รถตู้ส่วนบุคคลที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีน้ำหนัก 1,800 กิโลกรัม ปกติจัดเก็บภาษีประจำปี 800 บาท ลดภาษีประจำปีแล้ว คงเหลือ 160 บาท
• รถจักรยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ปกติจัดเก็บภาษีประจำปี 50 บาท ลดภาษีประจำปีแล้ว คงเหลือ 10 บาท เป็นต้น

กรมการขนส่งทางบกยังเชิญชวนประชาชนหันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งเป็นทางเลือกหนึ่งในการลดมลพิษทางอากาศ สามารถทดแทนการใช้น้ำมัน 100% จึงไม่มีการเผาไหม้และปล่อยไอเสียที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศได้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้อีกด้วย