ไม่ไหวบอกไหว! หุ้นไทยวันนี้ย่อรับแถว 1365-1360 จุด
สะสมหุ้นมีประเด็นบวกเฉพาะตัว
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงแรงตามทิศทางตลาดหุ้นโลก ในภาพรวมโมเมนตัมและปัจจัยแวดล้อมยังดูเป็นลบ แนะให้คงน้ำหนักการลงทุนไว้ที่ 55%
ในเชิงกลยุทธ์ SETI เคลื่อนไหวในกรอบ 1365/1385 จุด ในช่วงนี้ยังคงแนะนำให้ทยอยตั้งรับสะสมหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว ได้แก่ 1) หุ้นอิงการท่องเที่ยว ได้ผลบวกจากภาคการท่องเที่ยวไทยที่กลับมาคึกคัก หลัง ครม.มีมติให้ นทท.จากจีนและคาซัคสถานสามารถเดินทางมาไทยได้โดยไม่ต้องขอ visa ถึงสิ้นเดือน ก.พ. 67 รวมถึงการขยายเวลานทท.รัสเซียจากเดิมอยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน เป็น 90 วัน เป็นบวกต่อ AAV, AOT, BA, CPALL, ERW
รวมถึง 2) หุ้นกลุ่มที่คาดได้ประโยชน์จากนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ จากการปรับลดอัตราค่าไฟฟ้า และราคาน้ำมันดีเซล เราชอบ ADVANC, CPALL
สำหรับวันนี้ ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยขับเคลื่อนราคาที่น่าสนใจติดตามหลายประเด็น ดังนี้ 1) ติดตามการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย แนะให้ติดตามถ้อยแถลงของคุณ Powell เราคาดจะยังไม่มีการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ แต่เชื่อว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยฯ ระดับสูงจนถึงปีหน้านานกว่าคาดการณ์เดิม มองเป็นจังหวะสะสมหุ้นกลุ่มธนาคาร เช่น BBL, KTB, KBANK
2) สงคราม อิสราเอล-ปาเลสไตน์ ยังคงยืดเยื้อ และรุนแรงต่อเนื่อง เราประเมินปัจจัยดังกล่าวจะยังเป็นปัจจัยกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลก 3) แนะหมุนเงินลงทุนมายังกลุ่ม Defensive เช่น BEM, BDMS, BH ซึ่งคาดจะมีความเสี่ยงน้อยกว่ากลุ่มอื่น
STOCK THEMATICS
- BBL (TP=194บ.) “ซื้อ” กำไร 3Q66 ออกมาเติบโตเด่น ตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยและสหรัฐฯ ยังคงระดับสูง คาดเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาหุ้นปรับขึ้นได้
- BEM (TP=11บ.) “ซื้อ” กำไร 2Q66 เพิ่มขึ้น +42%YoY, +20%QoQ จากจำนวนผู้ใช้งานทางด่วน และผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่ปรับเพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการกลับมาใช้ชีวิตตามปกติของคนไทย คาด 2H66 ผลการดำเนินงานดีต่อเนื่อง จาก 3Q66 รับผลบวกจากการเปิดเทอม รวมถึงการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และ 4Q66 คาดได้รับผลบวกจากช่วงเทศกาลหนุน traffic เพิ่มขึ้น
- CPN (TP=81บ.) “ซื้อ” รายงานกำไร 2Q66 โต +13.2%QoQ และ +33.5%YoY จากการให้ส่วนลดค่าเช่าที่ลดลงสู่ระดับปกติ หลังภาคการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวพร้อมปรับค่าส่วนกลางขึ้น ชดเชยค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น และคาดกำไร 2H66 จะเติบโตต่อเนื่อง HoH และ YoY จากการเพิ่มรายได้ค่าเช่าส่วนลานกิจกรรม อีกทั้งจะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมใหม่อีก 2 โครงการ และเปิดโรงแรมแห่งใหม่อีก 4 แห่ง รวมถึงได้รับผลบวกจากการปรับลดค่าไฟฟ้านับตั้งแต่ ก.ย.66
โฟกัสหุ้นรายตัว
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index ร่วง 30 จุด (-2.17%) ปิดที่ระดับ 1,371 จุด ต่ำสุดในรอบ 3 ปี มีปัจจัยลบรุมกดดันทั้งในและต่างประเทศ Fund flow ต่างชาติยังไหลออก หุ้น Big Cap ร่วงหนักกดดัชนีนำลงโดย DELTA CPAXT CPALL และ AOT
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ ประเมิน SET อ่อนตัวแนวรับ 1,360 - 1,365 จุด แม้จะได้ปัจจัยบวกอิสราเอล ชะลอการโจมตีภาคพื้นดินในฉนวนกาซาทำให้สถานการณ์สู้รบผ่อนคลายลง อย่างไรก็ตามความกังวล FED ตรึงอัตราดอกเบี้ยเป็นเวลานานหลัง GDP 3Q23 สหรัฐสูงกว่าคาดโดย +4.9% ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงจากสต็อก น้ำมันดิบสหรัฐสูงเกินคาดจะกดดันต่อทิศทางการลงทุน
กราฟ SET วานนี้ทรุดตัวลงแรงทำ New low ในรอบ 3 ปีบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงที่รุนแรง ประกอบกับเครื่องมือ MACD + RSI ทิ้งตัวลงให้สัญญาณลบทั้งคู่ซึ่งกดดันต่อภาพรวมดัชนี ดังนั้นประเมินว่า SET จะอ่อนตัวแนวรับ 1,365 / 1,360 จุด โดยมองเป็นจุดซื้อเล่นรีบาวด์จากภาวะ Oversold โดย Cut loss หากหลุด 1,350 จุด ขณะที่ระยะกลาง-ยาว แบ่งไม้ซื้อสะสมโซน 1,350 - 1,360 จุด
กลยุทธ์การลงทุน: Selvectie buy
GPSC BGRIM GULF TASCO อานิสงส์ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง
KSL KBS BRR คาดกอน.ปรับขึ้นราคาน้ำตาล 4 บาท/ก.ก.
กลุ่มคาดงบ 3Q23F เติบโต BDMS BH BCH CHG ADVANC BTS BEM SAPPE
ICHI OSP CBG AMATA TOP SPRC CENTEL AOT
หุ้นแนะนำวันนี้
BGRIM (ปิด 23.40 ซื้อ/เป้า 25.25) ซื้อเก็งกำไรได้ Sentiment บวกจาก ราคาน้ำมันดิบและ US bond yield ที่เริ่มชะลอตัว ขณะที่ราคาหุ้นร่วงแรงในช่วงก่อนหน้าส่งผลให้ Indicator ทางด้านเทคนิค (RSI) ยังอยู่ในเขต Oversold
CK (ปิด 21.80 ซื้อ/เป้า BB Consensus 26.60 บาท) พื้นฐานแกร่งมีงานในมือ (Backlog) สูงกว่า 1.4 แสนล้านบาทรองรับการเติบโตของรายได้อย่างน้อย 7 ปี ขณะที่วันนี้มี Sentiment บวกนายกฯ สั่งเร่งโครงการ Landbridge 1.2 ล้านล้านบาทเริ่มเฟสแรก 5.2 แสนล้านบาท
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+/-) สหรัฐประกาศ GDP 3Q23 ขยายตัว 4.9% ดีเกินกว่าที่ตลาดกันไว้ : สหรัฐประกาศ GDP 3Q23 (ครั้งที่ 1) ขยายตัว 4.9% เพิ่มขึ้นจาก 1Q23 และ 2Q23 ที่ขยายตัว 2% และ 2.1% และดีกว่าที่ Consensus คาดไว้ที่ 4.7% อย่างไรก็ตามประเด็นนี้อาจจะผลักดันให้เฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไปเพราะ ศก. ที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะหนุนให้เงินเฟ้อปรับตัวขึ้นหรือลดลงช้ากว่าที่เฟดคาดไว้
(+) นายกฯ เร่งผลักดันโครงการ Landbridge ขับเคลื่อน ศก.ในระยะยาว : ภาครัฐกำหนดแผนกระตุ้น ศก.ระยะสั้นผ่านมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ “กระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท” ส่วนระยะกลางยาวจะเน้นแผนลงทุนที่สร้างความได้เปรียบดันไทยเป็นศูนย์กลางขนส่งสินค้าและน้ำมันผ่านโครงการ Landbridge 1.2 ล้านล้านบาท โดยเริ่มเฟสแรก 5.2 แสนล้านบาท เพื่อสร้างท่าเรือระนองชุมพร รถไฟและมอร์เตอร์เวย์ เป็นบวกกับกลุ่มรับเหมา Top Pick CK STEC
(+/-) คืนนี้ติดตามเงินเฟ้อ (PCE) เดือน ก.ย. ของสหรัฐจะบ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยเฟด : Consensus คาด Headline PCE ของสหรัฐจะลดสู่ระดับ 3.2- 3.4% จาก 3.5% และคาด Core PCE จะลดลงสู่ระดับ 3.6-3.7% จาก 3.9% ในเดือน ส.ค. หากเป็นไปตามที่ Consensus คาดไว้จะหนุนให้เฟดคงดอกเบี้ยสำหรับการ ประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 พ.ย. นี้ จากแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อที่ไม่ได้สูงเกินไป
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.