“สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ ” เปิดโรดแมป 4 คลื่นความถี่ ก่อนประมูลปี 69
นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (บอร์ดกสทช.) ด้านกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า ในปี 2568 คลื่นความถี่จำนวน 3 คลื่น ได้แก่ คลื่น 850 MHz คลื่น 2100 MHz และ คลื่น 2300 MHz ที่อยู่กับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน ) หรือ เอ็นที จะสิ้นสุดการให้บริการและต้องคืนคลื่นมาให้กสทช.จัดสรรใหม่ รวมถึงคลื่นที่ยังเหลืออยู่ที่กสทช.คือ คลื่น 3500 MHz ที่ยังไม่ได้มีการจัดสรรคลื่นความถี่ ดังนั้น กสทช.จึงต้องเตรียมทำแผนบริหารจัดการคลื่นความถี่ หรือ โรดแมป เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดสรรคลื่นความถี่ล่วงหน้าก่อนคลื่นความถี่ดังกล่าวจะหมดอายุ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือนนี้
สำหรับสาเหตุที่กสทช.เร่งดำเนินการโรดแมปดังกล่าว เนื่องจาก ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรม โทรคมนาคม และผู้ที่เกี่ยวข้องต้องการความชัดเจนของแผนในการจัดสรรคลื่นความถี่ของประเทศไทยในระยะ 2-5 ปี ข้างหน้าว่าสำนักงาน กสทช.มีแผนจะจัดสรรคลื่นอย่างไรบ้าง เพื่อใช้ในการวางแผนธุรกิจในอนาคต รวมถึงงบประมาณที่ต้องวางแผนล่วงหน้าด้วย
ทั้งนี้ กสทช. จะมีการเสนอตั้งคณะทำงานของสำนักงานฯขึ้นมาทำงาน รวมถึงการทำ ฟอร์ไซท์ หรือการคาดการณ์ความต้องการใช้งานคลื่นความถี่ในอนาคตว่า มีความต้องการอย่างไรบ้าง โดยจะมีการศึกษาดูในเรื่องความพร้อมของผู้ใช้งาน ผู้บริโภค และสถานการณ์ทางการเงินของผู้ประกอบการ ราคาเเครื่องโทรศัพท์มือถือรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะออกมา เป็นต้น
ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า การประมูลคลื่นความถี่ของไทยมีราคาสูงกว่าประเทศอื่นๆมาก ทำให้มีผลต่อราคาค่าบริการ และกระทบต่อผู้บริโภคได้
นายสมภพ กล่าวว่า คลื่นความถี่ที่เอ็นทีจะคืนมาในปี 2568 นั้น กสทช.ต้องมาดูว่าจะสามารถนำมาใช้งานได้อย่างไรบ้าง หรือเอกชนมีความสนใจจะใช้งานต่ออย่างไร เนื่องจากที่ผ่านมามีการลงทุนขยายโครงข่ายไปจำนวนมาก ก็อาจจะนำออกมา ประมูลต่อ ส่วนคลื่นความถี่ 3500 MHz ที่มีอยู่ประมาณ 400 MHz นั้น ได้มีแนวทางในการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการจัดสรรคลื่นความถี่ดังกล่าว คาดว่าจะใช้กรอบระยะการทำงาน 2 ปี เพื่อศึกษาปริมาณคลื่นความถี่ย่าน 3500 MHz ที่สามารถนำมาจัดสรรสำหรับกิจการโทรคมนาคม และแนวทางเตรียมความพร้อมของคลื่นความถี่ก่อนที่จะนำมาจัดสรรสำหรับกิจการโทรคมนาคม
นอกจากนี้คณะทำงานจะศึกษาความต้องการใช้งานคลื่นความถี่ในปัจจุบันและอนาคต เพื่อรองรับการเติบโตของบริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์เคลื่อนที่ รวมถึงการศึกษาและจัดทำโรดแมป การประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ และการกำหนดรูปแบบ วิธีการ เงื่อนไขในการจัดสรรคลื่นความถี่
มองว่าระยะเวลาที่เหมาะสมในการเปิดประมูล คือปี 69 คาดว่าเมื่อถึงเวลานั้นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือจะมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น และพร้อมที่จะเข้าร่วมประมูล
นายสมภพ กล่าวต่ออีกว่า สิ่งสำคัญและเป็นนโยบายในการเข้ามาทำงานกสทช.ของตนเอง คือ การส่งเสริมให้เกิด MVNO หรือ ผู้ให้บริการโครงข่ายเสมือน ที่รับซื้อคลื่นจากผู้ได้รับใบอนุญาตมาประกอบกิจการกับประชาชนกลุ่มที่ผู้ให้บริการค่ายใหญ่ไม่ได้ทำตลาด หรือ ไม่สามารถทำราคาถูกได้ ทว่าที่ผ่านมามีปัญหาจากต้นทุนของ MVNO ที่ซื้อคลื่นจากค่ายใหญ่สูง ประกอบกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งค่ายใหญ่ก็ลงไปรุกตลาดทุกกลุ่ม ทำให้ MVNO ไม่สามารถสู้ค่ายใหญ่ได้ ทำให้บริษัท MVNO ไม่เกิด กสทช.จึงต้องเร่งออกนโยบายส่งเสริมให้ MVNO เกิดด้วย เพื่อสร้างให้เกิดผู้ประกอบการรายเล็ก และเป็นทางเลือกให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยเข้าถึงบริการโทรคมนาคม
ดังนั้น กสทช.จึงอยู่ระหว่างการแก้ไขประกาศที่เกี่ยวข้อง เช่น ประกาศบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบโครงข่ายเสมือน พ.ศ. 2556,ประกาศการใช้โครงข่ายพื้นฐานโทรคมนาคมร่วมกันสำหรับโครงข่ายโทรคมนาคมไร้สาย พ.ศ.2562,ประกาศการใช้บริการข้ามโครงข่ายโทรคมนาคมไร้สายภายในประเทศ พ.ศ. 2562,ประกาศมาตรฐานการคำนวณอัตราค่าตอบแทนการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2564,ประกาศอัตราค่าตอบแทนการเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2564 และ ประกาศการใช้และเชื่อมต่อโครงข่ายโทรคมนาคม พ.ศ. 2556
นอกจากนี้อาจมีการออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนแบบสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อให้เกิด MVNO รายใหม่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน มี.ค. 2567
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.