SET กลับมาอ่อนตัว ฟื้นตัวจำกัด กังวลความตึงเครียดตะวันออกกลาง-ดอกเบี้ยเฟด
บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX) ประเมินว่า SET กลับมาอ่อนตัวหากรอบล่างบริเวณแนวรับ1,440 และ 1,430 จุด ตามลำดับ จากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง ซึ่งกังวลถึงการสู้รบที่ลุกลาม และความไม่แน่นอนของแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด หลังเงินเฟ้อสหรัฐ ก.ย. สูงกว่า คาด ด้านการฟื้นตัวถูกจำกัดบริเวณแนวต้าน 1,462 จุด
ทั้งนี้ ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสฟื้นตัวหรือรีบาวด์ได้ โดยแม้ตลาดจะยังกังวลภาวะสงครามที่เกิดขึ้นในอิสราเอล แต่ยังได้แรงหนุนจากเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายออกมาหนุนยุติปรับขึ้นดอกเบี้ย ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐชะลอลง และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า (เงินบาทกลับมาแข็งค่า)
อีกทั้งยังมีความคาดหวังจากจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินรวม 1 ล้านล้านหยวน และคาดยังมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามาช่วยหนุนดัชนี กลยุทธ์ลงทุนจึงมองเป็น “โอกาสชื้อลงทุน” ในธีมปัจจัยเฉพาะตัวดังนี้
1) หุ้นเก็งกำไร ซึ่งคาดได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันปรับขึ้นหรือทรงตัวในระดับสูง หลังกังวลความตึงเครียดในตะวันออกกลางกระทบอุปทานน้ำมัน เลือก PTTEP BCP
2) หุ้น Undervalued ซึ่งราคาปรับลงมาจนเข้าเขต Oversold และยังมีพื้นฐานดี อีกทั้ง Valuation ไม่แพง (PER และPBV 23F ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) เลือก CPALL TOP CPN BDMS MINT
3) หุ้นที่มี Earning Growth แข็งแรง (กำไรมีโมเมนตัมดีต่อเนื่อง) และตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันราคาหุ้นสามารถชนะตลาดได้ เลือก AMATA BBL KTB BCH KLINIQ
สำหรับหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว แม้ปีนี้ยังประมาณการตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยที่ 28 ล้านคน และปีหน้า 35 ล้านคน แต่ช่วงสั้นคงต้องระมัดระวังการลงทุนในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่อิงรายได้จากในประเทศ (AOT ERW CENTEL) ก่อนเพื่อรอดูการฟื้นตัวความ เชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ขณะที่ระยะกลางแนะนำระมัดระวังหุ้นที่คาดได้รับ ผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่จะกระทบต่อกำลังชื้อภาคเกษตรลดลง ได้แก่ กลุ่มพาณิชย์ (GLOBAL) กลุ่มสินเชื่อ (MIC SAWAD) กลุ่มยานยนต์ (SAT STANLY) กลุ่มเครื่องดื่ม (CBG จากราคาน้ำตาลที่สูงขึ้น) รวมถึงกลุ่มเกษตรและอาหาร (CPF GFPT)
สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้ ได้แก่ BBL คาดกำไรโตแข็งแกร่งสุดในกลุ่ม เพราะ NIM จะขยายตัวมากที่สุด หลังได้ประโยชน์จากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุดขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 25 bps ขณะที่ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 20-25 bps และคงดอกเบี้ยเงินฝากออม ทรัพย์ ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยมี Upside 8 bps
BCP ไตรมาส 3/2566 คาดกำไรเติบโต YoY และ QoQ แรงหนุนจากค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้นและกำไรสินค้าคงคลัง ขณะที่ valuation ยังไม่แพง โดยมี PER 66F ระดับ 5.5 เท่า และ PBV 0.8 เท่า (-1SD) อีกทั้งคาด Div. Yield ปี 2566 น่าสนใจในระดับ 5.5% และจะเพิ่มขึ้นสู่ 8% ในปี 2667
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.