ชงรัฐบาลใหม่ปลุกพลัง"ออมเงิน" หนุนกองทุนลดหย่อนภาษี ทดแทน"กองทุนSSF"
"การออมเงินถือเป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องเร่งผลักดัน เพราะเราทราบกันดีว่าภาคการออมของประเทศไทยไม่ได้แข็งแรงเท่ากับประเทศอื่นเลย และในปีหน้า กองทุน SSF ใกล้หมดอายุทางภาษีลง เราจึงต้องรีบพูดคุยกับรัฐบาลใหม่เพื่อสนับสนุนกองทุนที่เอื้อต่อภาคการออม กระตุ้นให้เกิดการออมเพิ่มขึ้น ช่วยกระตุ้นบรรยากาศและวอลุ่มเทรดในตลาดหุ้น" นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTAM ในฐานะนายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน(Association of Investment Management Companies หรือ AIMC) กล่าว
ทันทีที่ภาพการจัดตั้งรัฐบาลใหม่และภาพรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชัดเจน สิ่งแรกที่ทางสมาคมบริษัทจัดการลงทุนและสภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO)จะเร่งดำเนินการคือการเข้าหารือกับทางกระทรวงการคลังเพื่อนำเสนอกองทุนเพื่อการออมทดแทนการหมดอายุของ“กองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (Super Savings Fund หรือ SSF)”ในปี 2567 ถือเป็นประเด็นที่สำคัญมาก เพราะไม่ได้สำคัญเพียงแค่เฉพาะอุตสาหกรรมกองทุน แต่สำคัญสำหรับประชาชน และตลาดทุน
จุดเด่น..กองทุนใหม่
ทั้งนี้กองทุนใหม่ที่เตรียมนำเสนอจะมีคุณลักษณะพิเศษที่เป็นแบบผสม "กองทุนที่ช่วยในเรื่องของการออม ประหยัดภาษี และระยะเวลาถือครองต้องไม่ยาวเกินไป ซึ่งเบื้องต้นอยู่ระหว่างการตกผลึกในรายละเอียดเพื่อหาจุดสมดุลที่ภาครัฐจะเกิดความเข้าใจและสนับสนุนแนวคิดดังกล่าว ส่วนตัวมองว่าระยะเวลาการถือครอง อาจไม่ต่ำกว่า 7 ปี แต่ไม่ควรเกิน 10 ปี
โดยพิจารณาจาก กองทุน SSF ระยะเวลาการลงทุน 10 ปี ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 25,167 ล้านบาท ถือว่าเติบโตน้อยกว่ากองทุนหุ้นระยะยาว(LTF) และ กองทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ในอดีตหลายเท่าตัว อาจเพราะนักลงทุนมองว่าในระหว่างทางอาจจำเป็นต้องใช้เงิน รวมถึงเป็นกองที่เปิดโอกาสนักลงทุนรุ่นใหม่เข้ามาออมซึ่งอาจไม่ใช่ฐานหลัก เพียงแต่คนที่ควรออมคือมนุษย์เงินเดือน เพื่อบริหารเงินลงทุน หนี้ รวมทั้งคนที่ใกล้วัยเกษียณถือเป็นกลุ่มสำคัญที่ต้องเร่งสนับสนุนไม่ใช่แค่เพียงกลุ่มนักลงทุนอายุน้อยเท่านั้น
"เราอยากมีกองทุนที่เอื้อต่อภาคการออมเงิน เราทราบกันดีว่าภาคการออมของประเทศไทยไม่ได้แข็งแรงเท่ากับประเทศอื่นเลย ดังนั้นนี่คือสิ่งสำคัญที่จะต้องยืนยันให้เกิดภาพการออมด้วยตัวช่วยนี้ ดังในอดีตที่มีตัวช่วยเรื่องภาษีผลักดันการเติบโตการออมและลงทุนค่อนข้างมาก ในลักษณะสร้างนักลงทุนรุ่นใหม่ที่รักการออมได้ดีทีเดียว ยังอยากจะให้มีคุณลักษณะพิเศษนี้ต่อไป ตอนนี้รอเพียงภาพรัฐบาลและกระทรวงการคลังที่ชัดเจนเท่านั้น เราจึงจะสามารถเข้าหารือเพราะกระบวนการนี้อาจต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร อย่าลืมว่ากว่าที่กองทุน SSF ในอดีตจะเกิดขึ้นได้ ใช้เวลาถึง 2 ปี รอบนี้เหลือระยะเวลาในการพูดคุยเพียงปีกว่าเท่านั้น"
เงินไหลออกไม่หยุด
วันนี้หากดูภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมตลาดทุน จะเห็นว่าเงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทย แต่ไม่ได้ไหลออกจากตลาดกองทุน เพราะกองทุนยังเติบโต แต่ในปีก่อนนั้นที่ไม่โต NAV ลดลง เนื่องมาจากตลาดทั่วโลกหยุดชะงัก แต่สิ่งสำคัญคือเงินโยกออกจากไทยไปลงทุนในต่างประเทศแทนเพื่อไปหาผลตอบแทนที่ดีกว่า
ดังนั้นหากเราสามารถมีฟีเจอร์ที่ทำให้เกิดการออมและช่วยตลาดทุนไทยได้น่าจะช่วยตอบโจทย์ได้หลายอย่าง นี่คือสิ่งที่ตนเองมองว่าสำคัญ ซึ่งเราไม่รู้ว่ารัฐบาลจะจัดตั้งสมบูรณ์แบบได้ในเดือนไหน และจากวันนี้เข้าใกล้สิ้นปีแล้ว ถ้าเรามีเวลาเหลืออีกไม่มากนัก และมองว่ารัฐบาลน่าจะให้ความสำคัญเรื่องปากท้องของภาคประชาชนเป็นเรื่องแรกเพราะสำคัญกว่า ดังนั้นนี่คือสิ่งแรกที่ต้องนำเสนอสำหรับอุตสาหกรรมตลาดทุนไทย
"ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง SSF หรือต่ออายุ SSF หรือการมี Feature ใหม่ก็ตามเป็นการขับเคลื่อนตลาดทุนไทยเหมือนกัน เพราะตลาดทุนไทยก็ยังคู่กับคนไทย คู่กับกลุ่มผู้สูงอายุ( Aging Society ) และคนรักการออมมากขึ้น เพราะงั้นการออมไม่ใช่ลงทุนตราสารหนี้เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการผสมระหว่างกองทุนที่มีความเสี่ยงบ้างเพื่อให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเพียงพอที่จะดูแลตัวเองได้ในระยะยาว ดังนั้นกองทุนประเภทนี้ยังคงอยู่กับคนไทยเพื่อช่วยการออมคนไทยในอนาคต ภาครัฐ ตลาดทุน นักลงทุนไทยที่พร้อมจะออม โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนในไทย เชื่อหรือไม่ว่ามีการออมในกองทุนสัดส่วนไม่ถึง 1 ล้านราย ดังนั้นถ้าอยากให้การออมเติบโตได้อีกไกลก็ควรต้องมีตัวช่วยมาสนับสนุน"
กองทุนใหม่กระทุ้งหุ้นไทยฟื้น ?
ในปีที่แล้ววอลุ่มเทรดในตลาดสูงมาก แต่ปีที่แล้วต้องยอมรับว่าไม่ได้มีเหตุการณ์เหมือนเช่นปีนี้ที่ตลาดทุนเกิดเหตุขึ้นมาหลายเรื่อง จะเห็นว่าตลาดหุ้นไทยพลิกเกิดหลายเคสที่เกี่ยวกับธรรมาภิบาล ส่งผลให้กลุ่มนักลงทุนประเภทหนึ่งเบาลง ขณะที่กองทุนเองได้ระมัดระวังการลงทุนมากขึ้น มีการพิจารณามากขึ้น อีกทั้งนักลงทุนมีการขายกองทุน LTF ที่ครบรอบการถือครองออกมาทำให้กองทุนขายหุ้นในตลาด ด้วยความที่ตลาดหุ้นเผชิญหลายปัจจัยกดดันจึงทำให้วอลุ่มเทรดปีนี้ลดลง
แต่หากมองวอลุ่มที่เกิดจากออร์แกนิกจริงๆ สมมุติเราสามารถนำเสนอฟีเจอร์กองทุนแบบนี้ ด้วยออร์แกนิกโกรท จะสร้างการเติบโตหรือสร้างวอลุ่มให้อุตสาหกรรมได้โดยธรรมชาติอยู่แล้ว และน่าจะช่วยเพิ่มสีสันให้อุตสาหกรรมได้พอสมควร และคาดหวังว่าจะเกิดความรู้สึกในทางบวกต่อตลาดทุนเพิ่มขึ้นเช่นกัน
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.