FEMS เดินหน้าเข้าตลาดหุ้นปี 67 ชูจุดเด่น One Stop Solutions

นายพิชัย ดวงทวีทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟอร์ท อีเอ็มเอส จำกัด (มหาชน) หรือ FEMS เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชน (IPO) จำนวน320 ล้านหุ้น โดยมี บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน คาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ภายในต้นปี 2567

ทั้งนี้ ฟอร์ท อีเอ็มเอส ดำเนินธุรกิจรับจ้างผลิตสินค้านวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่เจ้าของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร (One-Stop Solutions) ตั้งแต่การร่วมออกแบบและพัฒนากระบวนการผลิตจนถึงการประกอบเป็นสินค้านวัตกรรมด้านเทคโนโลยี 

โดยให้บริการในรูปแบบของการรับจ้างประกอบ (Consign Part) และการรับเหมาผลิต (Turn Key) ซึ่งแบ่งออกเป็น2 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 งานประกอบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (Printed Circuit Board Assembly: PCBA) ภายในผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ 

กลุ่มที่ 2 งานผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำเร็จรูป (Box-Build) โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น แผงวงจรควบคุมในเครื่องปรับอากาศ กลุ่มสินค้าพลังงานและยานยนต์ กลุ่มเครื่องชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า กลุ่มเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ของกลุ่มฟอร์ท เช่น ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) “เต่าบิน”โรโบติกบาริสต้า ตู้ชาร์จรถยนต์ฟ้า (EV Charger) “กิ้งก่า” ชาร์จ พอยต์ เป็นต้น

ปัจจุบัน ฟอร์ท อีเอ็มเอส ผลิตสินค้าให้กลุ่มลูกค้าในประเทศและต่างประเทศประมาณ 70% ส่วนอีก 30% เป็นการผลิตสินค้าให้กับกลุ่มบริษัทฟอร์ท โดยบริษัทมีการลงทุนเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ควบคู่กับการปรับปรุงเครื่องจักรอย่างต่อเนื่องเพื่อลดขั้นตอน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานรองรับสินค้าที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ

อีกทั้งสายการผลิตของบริษัทยังสามารถปรับเปลี่ยนให้ยืดหยุ่นสำหรับการผลิตให้กับทุกอุตสาหกรรมที่ต้องการนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง 

นอกจากนี้ ยังมีการควบคุมการผลิตตั้งแต่การตรวจรับวัตถุดิบ ขั้นตอนการผลิต ไปจนถึงการทดสอบสินค้าเพื่อตอบโจทย์ตามความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด

“จุดเด่นของ ฟอร์ท อีเอ็มเอส คือบริการที่ครบวงจร ตั้งแต่การเสนอไอเดียของลูกค้าเพื่อให้บริษัทช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนการผลิตตามสเปก จนถึงออกมาเป็นสินค้าสำเร็จรูปที่ผ่านการทดสอบคุณภาพจากบริษัท ซึ่งบริษัทมีระบบการเก็บข้อมูลหรือ ODC ที่พัฒนาขึ้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบหรือติดตามสินค้าและวัสดุเพื่อเป็นข้อมูลย้อนกลับได้ถึง สถานที่ผลิต จำนวนที่ผลิต ตั้งแต่วัสดุชิ้นใหญ่จนถึงระบบน็อตสกรูว์ เพื่อการวางแผนผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ” นายพิชัย กล่าว

โดย ฟอร์ท อีเอ็มเอส มีโรงงานด้วยกัน 3 แห่งที่ถนนพุทธมณฑลสาย 5 โดยโรงงานแรกดำเนินการผลิตงานประกอบชิ้นส่วนบนแผงวงจร หรือ PCB Assembly สามารถทำงาน Box Build ตั้งแต่แผงควบคุม (Sub-module level) จนถึงผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย (Final Assembly) 

ส่วนโรงงานที่ 2 จะใช้ในการผลิต Box Build สำหรับลูกค้ารายใหญ่เพื่อส่งออกต่างประเทศ และโรงงานที่ 3 จะเป็นโรงงานผลิตและประกอบ“เต่าบิน”โรโบติกบาริสต้า และไลน์การผลิตเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตตามแนวโน้มการใช้รถยนต์ EV ที่มีมากขึ้น

ด้านนางสาวนิศา อมตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บมจ.ฟอร์ท อีเอ็มเอส กล่าวว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กลุ่มอุตสาหกรรมและบริการต่างพัฒนาธุรกิจให้สอดรับ เพื่อมุ่งเน้นการเข้าถึงสินค้าและบริการด้วยเทคโนโลยีมากขึ้น ถือเป็นโอกาสที่ดีของบริษัทในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตสินค้านวัตกรรมให้แก่กลุ่มอุตสาหกรรม 

ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทมีการทำการตลาดเชิงรุกทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศผ่าน 2 ช่องทาง คือ บริษัทติดต่อโดยตรงกับลูกค้า และติดต่อลูกค้าผ่านช่องทางนายหน้า อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพยายามมุ่งเน้นการเข้าพบและนำเสนอผลิตภัณฑ์กับลูกค้าโดยตรง รวมถึงการแนะนำผ่านกลุ่มลูกค้าปัจจุบันของบริษัท และประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์เพื่อให้บริษัทเป็นที่รู้จักทั้งในตลาดในประเทศไทยและตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย

ขณะเดียวกัน บริษัทจะเน้นทำการตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น ด้วยช่องทางและโอกาสจำนวนมากในหลากหลายอุตสาหกรรมที่ขยายตัว และศักยภาพของบริษัท ที่ทีมงานมีประสบการณ์ดูแลลูกค้าแบรนด์ระดับโลกมากว่า 30 ปีการผลิตที่มีคุณภาพด้วยเครื่องจักรรุ่นใหม่ประสิทธิภาพสูง สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ได้ตามความต้องการของลูกค้าตลอดจนความพิเศษที่ ฟอร์ท อีเอ็มเอส สามารถจัดเตรียมโรงงานและไลน์การผลิตโดยเฉพาะให้กับลูกค้า เชื่อว่าจะเป็นที่สนใจสำหรับบริษัทที่กำลังมองหาฐานการผลิตขนาดใหญ่หรือกำลังย้ายฐานการผลิตมาที่บริษัท ที่พร้อมร่วมมือและช่วยให้การขยายกำลังการผลิตตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

สำหรับผลประกอบการช่วงที่ผ่านมาของบริษัท ปี 2563 รายได้รวม 821.8 ล้านบาท กำไร 0.04 ล้านบาท ปี 2564 รายได้รวม 2,046.9 ล้านบาท กำไร 150.2 ล้านบาท และปี 2565 รายได้รวม 4,586.4 ล้านบาท กำไร 366.2 ล้านบาท ส่วนงวด 3 เดือนแรกปี 2566 มีรายได้รวม 1,181 ล้านบาท กำไร 70.1 ล้านบาท

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.