1500 ยันไหว! หุ้นไทยลุ้นประชุม ครม.พรุ่งนี้ เงินดิจิทัลวอลเล็ตชัด

ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(25 ก.ย.66) อยู่ที่ 1,507.36 จุด ลดลง 15.23 จุด คิดเป็น -1% มูลค่าการซื้อขาย 42,200.93 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,524.97 จุด และลดลงต่ำสุด 1,507.36 จุด 

5 หุ้นซื้อขายสูงสุด ดังนี้

     1. BDMS ปิดที่ 26.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,170.24 ลบ.

     2. AOT ปิดที่ 69.50 บาท ลดลง 0.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,595.20 ลบ.

     3. PTT ปิดที่ 33.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

     4. EA ปิดที่ 53 บาท ลดลง 3.25 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,558.97 ลบ.

     5. SCB ปิดที่ 103.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง

ต่างชาติขาย-รายย่อยซื้อ


 

SET สัปดาห์นี้ 1510-1550 จุด

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า กลยุทธ์ประจําสัปดาห์นี้(ระหว่างวันที่ 25-29 ก.ย.66) เรามีมุมมองเป็นกลางต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาให้กรอบ SET Index ที่ 1,510 - 1,550 จุด การฟื้นตัวของดัชนีเป็นเพียง Technical Rebound มูลค่าการซื้อขายยังไม่ซัพพอร์ต ตลาดยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ และยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามเพิ่มเติมในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะตัวเลขส่งออก/นําเข้า เดือน ส.ค. ของไทยที่จะประกาศในวันที่ 26 ก.ย.นี้ยังมีความเสี่ยงที่การส่งออกจะหดตัว

     ขณะที่การนําเข้าอาจเพิ่มขึ้นตามราคานํ้ามันส่งผลให้ดุลการค้าขาดดุลมากขึ้นกดดันให้ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลมากขึ้นเป็นลบต่อค่าเงินบาท ขณะที่กลางสัปดาห์จะมีการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของไทย (BoT Meeting) เรายังไม่ปิดโอกาสที่แบงก์ชาติอาจจะพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้ง 

     นอกจากนี้ยังต้องติดตามตัวเลขประมาณการณ์ GDP ของแบงก์ชาติด้วยว่าจะปรับลดคาดการณ์ GDP ในปีนี้และปีหน้าลงมากน้อยแค่ไหนหลังจากที่ผู้ว่าแบงก์ชาติส่งสัญญาณจะปรับลดคาดการณ์ GDP ไว้แล้วในช่วงก่อนหน้า เรามองว่า 2 ปัจจัยนี้จะคอยกดดันบรรยากาศการลงทุน อย่างไรก็ตามดัวยดัชนีที่ปรับลงมาแล้วในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาอาจจะทําให้ Downside ที่ดัชนีจะลดลงอีกแบบแรงๆ (Panic) เป็นไปอย่างจํากัดทําให้บทสรุปการเคลื่อนไหวของดัชนีเป็นกลาง หรือ Sideway ตามกรอบข้างต้น

     กลยุทธ์ในช่วงที่ตลาดพักตัวหรือ Sideway หุ้นที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะจะเป็นกลุ่มที่นักลงทุนให้ความสนใจและมีโอกาส Outperform มากที่สุด โดยสัปดาห์นี้เราให้นํ้าหนักไปที่กลุ่มท่องเที่ยวจากจํานวนนักนท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเรียงตัวขึ้นในช่วง Golden Week ของจีน Top pick คือ CENTEL M และ TKN

     ปัจจัยสําคัญและปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ 1. ไตรมาส 3 Window dressing หากอิงสถิติมีโอกาสเกิดขึ้นน้อย โดยสถิติย้อนหลัง 10 ปี พบว่าการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ย.ให้ผลตอบแทนเป็นบวกเพียง 3 ปี นอกนั้นให้ผลตอบแทนเป็นลบ หรือสรุปได้ว่าการลงทุนในช่วงดังกล่าวมีโอกาสให้ผลตอบแทนเป็นบวกเพียง 30% เท่านั้น

     2. ประชุม กนง. ยังมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ย หากอิงจากกิจกรรมเศรษฐกิจต่างๆ (GDP , อัตราเงินเฟ้อ) มีความเป็นไปได้ที่แบงก์ชาติจะชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยคลายกับเฟดและแบงก์ชาติอื่นๆ แต่ในมุมของตลาดและนักลงทุนคาดว่าแบงก์ชาติจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งสะท้อนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น (1 ปี) ของไทยปรับขึ้นเหนือกว่าระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ 2.25% ไปแล้ว

     และ 3. ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ (PCE Price Index) บ่งชี้ทิศทางดอกเบี้ยเฟด สหรัฐจะประกาศ PCE Price Index ในวันศุกร์นี้เบื้องต้น Consensus คาด Headline PCE จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.5% จาก 3.3% ในเดือน ส.ค. แต่คาดว่า Core PCE จะลดลงแตะระดับ 3.9% จาก 4.2% ในเดือน ส.ค. (หากตัวเลขลดลงและตํ่ากว่าที่ตลาดคาดจะเป็นบวกกับตลาด)

3 หุ้นแนะนําสัปดาห์นี้

     หุ้น CENTEL แนะนำซื้อ เป้า IAA Consensus 53 บาท ดักเก็งกําไรคาดได้ประโยชน์โดยตรงจากจํานวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ปลายสัปดาห์นี้ เนื่องจากเป็นช่วงหยุดยาวหรือ Golden week ของชาวจีนผสานกับไทยให้ฟรีวีซ่าจีนเริ่ม 25 ก.ย.66 - ก.พ.67

     หุ้น M แนะนำซื้อ เป้า IAA Consensus 54.50 บาท ได้ประโยชน์จากต้นทุนวัตถุดิบ (หมู) ราคาทรงตัวอยู่ในระดับตํ่า, ไตรมาส 4 เข้าสู่ High season โดยเฉพาะในช่วง Golden week ของจีน (MK + ยาโยอิ+ แหลมเจริญซีฟูด) มีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าจีนประมาณ 10% และธุรกิจอาหารเป็นหนึ่งใน Soft power ที่จะได้รับการผลักดันจากภาครัฐ

     หุ้น TKN แนะนำซื้อ เป้า IAA Consensus 15 บาท เป็นอีกหนึ่งหลักทรัพย์ที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน โดยก่อน Covid19 หุ้น TKN มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนประมาณ 20-25%

 

ย่อรับ 1500 

     นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยทางเทคนิค บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวในรายการ LIB Tech Talks ว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้เห็นแรงขายกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยดัชนีทำ High รอบนี้ที่บริเวณ 1525 จุด เป็นการทำ High ที่ต่ำลง (Lower High) ทิศทางในรอบสั้นกลับเป็นเชิงลบ รอบบ่ายชะลอตัวลงต่อ

     ดังนั้นกลยุทธ์รอเก็งกำไรที่ฐานแนวรับ 1500 จุด โดยมองแนวรับ 1,500 / 1,480 จุด แนวต้าน 1,535 / 1,555 จุด

 

Government Shutdown ป่วน!

     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามในฝั่งสหรัฐฯ คือ Government Shutdown หากสภาฯ ไม่สามารถผ่านงบประมาณชั่วคราวก่อน 30 ก.ย.นี้จะส่งผลให้หน่วยงานรัฐต้องปิดตัวลง หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 10 ปี และเป็น Sentiment ลบต่อภาวะการลงทุนในตลาดหุ้น โดยดัชนีแกว่งออกข้างช่วง 1,510 - 1,520 จุด

     ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ตลาดหุ้นไทยรอผลการประชุม ครม. ประเด็นหลักคือ การพักหนี้เกษตรกร และความคืบหน้าเงินดิจิทัลวอลเล็ต ตามมาด้วยวันพุธ ผลการประชุม กนง. ล่าสุด Bloomberg Consensus คาดมีโอกาสที่ กนง.จะขยับ
ดอกเบี้ยขึ้น 0.25%

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.